xs
xsm
sm
md
lg

“หมอประดิษฐ” สั่งทุกจังหวัดเฝ้าระวังโคโรนาไวรัส เน้น 5 จังหวัดใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมว.สธ.ให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมระบบเฝ้าระวังโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อ “โคโรนาไวรัส” ตามการส่งสัญญาณเตือนขององค์การอนามัยโลก แม้ไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ เน้นหนักในจังหวัดใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว 5 จังหวัด ทั้ง กทม. เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต และขอนแก่น โดยให้ความสนใจแก่ผู้เดินทางมาจากประเทศแถบตะวันออกกลาง ทั้งผู้ที่เดินทางไปทำงาน นักท่องเที่ยว หรือผู้แสวงบุญ และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่อาจติดเชื้อจากผู้ป่วยได้ เตรียมโรงพยาบาลให้พร้อมรับผู้ป่วย จัดอบรมซักซ้อมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัด ตั้งมิสเตอร์ฮัจญ์ใน 53 จังหวัด เพื่อช่วยติดตามเฝ้าระวังกลุ่มผู้กลับจากการแสวงบุญปีนี้

นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2012 (Middle East Respiratory Syndrome Coronavirus : MERS CoV) ว่า องค์การอนามัยโลกรายงานล่าสุดในวันที่ 17 มิถุนายน พบผู้ป่วยยืนยัน 64 ราย เสียชีวิต 38 ราย ใน 9 ประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ตูนิเซีย และอิตาลี คาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้น และให้ทุกประเทศจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีหลักฐานว่าสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ แม้จะไม่รวดเร็วเหมือนโรคซาร์ส แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบแหล่งโรคที่ชัดเจน มาตรการสำคัญที่สุดในขณะนี้คือการป้องกันและการเฝ้าระวัง เพื่อจับสัญญาณค้นหาโรคได้รวดเร็วที่สุด รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในสถานพยาบาล

นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวต่อว่า แม้ว่าขณะนี้ ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคนี้ในประเทศไทยก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมรับมือโรคนี้ไว้แล้ว โดยให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะโรคปอดบวมปอดอักเสบ และให้เน้นหนักในจังหวัดใหญ่ที่มีชาวต่างชาตินิยมเข้ามาท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต และขอนแก่น และเตรียมความพร้อมระบบการตรวจยืนยันเชื้อทางห้องปฏิบัติการ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์ 14 ศูนย์ทั่วประเทศให้สามารถตรวจหาเชื้อได้อย่างแม่นยำรวดเร็ว

นอกจากนี้ ให้กรมการแพทย์ จัดทำแนวทางการวินิจฉัย ดูแลรักษา และการป้องกันการติดเชื้อและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในสถานบริการ เป็นแนวปฏิบัติแก่แพทย์และทีมบุคลากรในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถตรวจคัดกรอง วินิจฉัย ให้การรักษา และควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้จัดอบรมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จาก กทม. ปริมณฑล และ 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ รร.มิราเคิล แกรนด์ กทม.พร้อมทั้งให้โรงพยาบาลทุกแห่งทบทวนมาตรการความพร้อมดูแลหากมีผู้ป่วย โดยให้มีห้องแยกผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจและวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น และให้มีการฝึกซ้อมป้องกันการติดเชื้อในการดูแลผู้ป่วย ตามมาตรฐานสากล

ด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบเฝ้าระวังโคโรนาไวรัสในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.ผู้ที่ไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาระเบียในช่วงการประกอบพิธีฮัจญ์ในเดือนกันยายน-ตุลาคมปีนี้ จำนวน 13,000 คน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เป็นแกนในการประสานตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและไข้กาฬหลังแอ่นให้ทุกคน พร้อมจัดทำทะเบียนรายชื่อ พร้อมที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้มิสเตอร์ฮัจญ์ใน 53 จังหวัด ติดตามอาการหลังกลับจากการแสวงบุญเป็นเวลา 1 เดือน พร้อมทั้งจะจัดอบรมให้ความรู้โรคนี้ แจกอุปกรณ์ป้องกันโรคแก่ทีมแพทย์ที่ไปออกหน่วยให้บริการผู้แสวงบุญด้วย ส่วนในกลุ่มผู้แสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาระเบียนอกช่วงพิธีฮัจญ์ จะจัดอบรมให้ความรู้ในการป้องกันโรคและการติดตามอาการแก่ผู้ประกอบกิจการทัวร์ที่ดูแล 2.กลุ่มผู้เดินทางกลับจากทำงานในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และ3.นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางผ่านกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยได้จัดทำบัตรแนะนำสุขภาพ (Health Advisory) เป็นภาษาไทย อังกฤษ และอารบิก แจกแก่ผู้ที่เดินทางขาเข้าประเทศไทย ให้ความรู้ในการสังเกตอาการ หากป่วยให้พบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางด้วย

สำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การรักษาผู้ป่วย หากมีอาการป่วยเป็นโรคปอดอักเสบ ให้สงสัยว่าอาจเกิดการติดเชื้อนี้ และให้อยู่ในข่ายการเฝ้าระวังด้วย ทั้งนี้ ได้มอบให้สำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ จัดซ้อมการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ทั้งจากเชื้อโคโรน่าไวรัส และไข้หวัดนกเอช7เอ็น9 ทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีที่อาจเกิดโรคในประเทศในอนาคตด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น