พิสูจน์หลักฐานชี้ชัดถังดับเพลิงระเบิดเกิดจากแรงกระแทก กทม.เผยสั่งเก็บถังดับเพลิงที่ซื้อพร้อมกันหมดแล้ว แม้ ปชช.บางพื้นที่ขอร้องไม่ให้เก็บ หวั่นไม่มีอุปกรณ์ดับเพลิง ด้าน สมอ.ยังไม่แจ้งสาเหตุ
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) ศาลาว่าการ กทม.เวลา 11.00 น. นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภา กทม.เป็นประธานเปิดการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่ 1 (ครั้งที่ 1) ประจำปี 2556 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม.เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ในการประชุมสภา กทม.มีการตั้งกระทู้ถามสดของนายสุธา นิติภานนท์ ส.ก.เขตภาษีเจริญ เพื่อขอทราบความคืบหน้าการตรวจสอบการระเบิดของเครื่องดับเพลิงยกหิ้วขนาด 9.5 กิโลกรัม อีกทั้งการดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ประชาชน กทม.พร้อมทั้งเสนอให้ กทม.ยกเลิกการตรวจรับถังดับเพลิงรุ่นที่มีปัญหานี้ และจัดซื้อรุ่นที่มีคุณภาพ โดยระหว่างนี้ควรให้สำนักงานเขต 50 เขต ตรวจสอบและเรียกเก็บรุ่นที่มีปัญหาทั้งหมด เนื่องจากพบว่าบางพื้นที่เขตยังมีถังดับเพลิงที่ยังไม่ได้ถูกจัดเก็บในชุมชน
นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวชี้แจงว่า กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ อีกทั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งเก็บถังดับเพลิงที่จัดซื้อรุ่นเดียวกันทั้งหมด และมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ต้น รวมถึงประสานกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนติดตามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด อาทิ สำนักการคลัง สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) และสำนักงานเขต เพื่อให้มีข้อสรุป ซึ่งหากได้ข้อมูลแล้ว กทม.จะแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อรายงานต่อสภา กทม.ทราบต่อไป
ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนเองได้สั่งเก็บถังดับเพลิงที่จัดซื้อพร้อมกันทั้งหมด จำนวน 95,797 ถัง อย่างเร่งด่วน แม้อาจจะเสี่ยงต่อเหตุอัคคีภัยในพื้นที่ก็ตาม แต่จำเป็นต้องจัดเก็บเมื่ออุปกรณ์เกิดปัญหาตามหลักเป็นมาตรฐานสากล ทั้งนี้ มีประชาชนบางพื้นที่ร้องขอไม่ให้จัดเก็บ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีอุปกรณ์ในการดับเพลิงหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งภายหลังเรียกเก็บถังดับเพลิงจาก 50 เขต กทม.ได้ประสาน สมอ.เพื่อดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจาก กทม.ไม่มีขีดความสามารถในการตรวจสอบทางเทคนิค หากผลการตรวจสอบเป็นเช่นไร กทม.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในลำดับต่อไป เช่น ปัญหาดังกล่าวเกิดจากความผิดของผู้ผลิต ผู้กำหนด TOR หรือเกิดจากการติดตั้ง เป็นต้น ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลการตรวจสอบจาก สมอ.ดังนั้น กทม.จึงได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตรวจสอบซึ่งมีข้อสรุปเบื้องต้นเมื่อ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า การระเบิดอาจเกิดจากแรงกระแทก ซึ่งหมายถึงถังดับเพลิงตกกระแทก ทำให้เกิดระเบิด อย่างไรก็ตาม กทม.ก็ยังรอคำตอบจาก สมอ.ต่อไป ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยของประชาชนหากเกิดเพลิงไหม้นั้น กทม.ก็ทำอย่างเต็มที่แม้จะไม่มีถังดับเพลิง ซึ่งขอให้มั่นใจว่า กทม.จะดูแลประชาชนอย่างดีแน่นอน
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) ศาลาว่าการ กทม.เวลา 11.00 น. นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภา กทม.เป็นประธานเปิดการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่ 1 (ครั้งที่ 1) ประจำปี 2556 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม.เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ในการประชุมสภา กทม.มีการตั้งกระทู้ถามสดของนายสุธา นิติภานนท์ ส.ก.เขตภาษีเจริญ เพื่อขอทราบความคืบหน้าการตรวจสอบการระเบิดของเครื่องดับเพลิงยกหิ้วขนาด 9.5 กิโลกรัม อีกทั้งการดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ประชาชน กทม.พร้อมทั้งเสนอให้ กทม.ยกเลิกการตรวจรับถังดับเพลิงรุ่นที่มีปัญหานี้ และจัดซื้อรุ่นที่มีคุณภาพ โดยระหว่างนี้ควรให้สำนักงานเขต 50 เขต ตรวจสอบและเรียกเก็บรุ่นที่มีปัญหาทั้งหมด เนื่องจากพบว่าบางพื้นที่เขตยังมีถังดับเพลิงที่ยังไม่ได้ถูกจัดเก็บในชุมชน
นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวชี้แจงว่า กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ อีกทั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งเก็บถังดับเพลิงที่จัดซื้อรุ่นเดียวกันทั้งหมด และมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ต้น รวมถึงประสานกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนติดตามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด อาทิ สำนักการคลัง สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) และสำนักงานเขต เพื่อให้มีข้อสรุป ซึ่งหากได้ข้อมูลแล้ว กทม.จะแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเพื่อรายงานต่อสภา กทม.ทราบต่อไป
ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนเองได้สั่งเก็บถังดับเพลิงที่จัดซื้อพร้อมกันทั้งหมด จำนวน 95,797 ถัง อย่างเร่งด่วน แม้อาจจะเสี่ยงต่อเหตุอัคคีภัยในพื้นที่ก็ตาม แต่จำเป็นต้องจัดเก็บเมื่ออุปกรณ์เกิดปัญหาตามหลักเป็นมาตรฐานสากล ทั้งนี้ มีประชาชนบางพื้นที่ร้องขอไม่ให้จัดเก็บ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีอุปกรณ์ในการดับเพลิงหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งภายหลังเรียกเก็บถังดับเพลิงจาก 50 เขต กทม.ได้ประสาน สมอ.เพื่อดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจาก กทม.ไม่มีขีดความสามารถในการตรวจสอบทางเทคนิค หากผลการตรวจสอบเป็นเช่นไร กทม.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในลำดับต่อไป เช่น ปัญหาดังกล่าวเกิดจากความผิดของผู้ผลิต ผู้กำหนด TOR หรือเกิดจากการติดตั้ง เป็นต้น ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลการตรวจสอบจาก สมอ.ดังนั้น กทม.จึงได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตรวจสอบซึ่งมีข้อสรุปเบื้องต้นเมื่อ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า การระเบิดอาจเกิดจากแรงกระแทก ซึ่งหมายถึงถังดับเพลิงตกกระแทก ทำให้เกิดระเบิด อย่างไรก็ตาม กทม.ก็ยังรอคำตอบจาก สมอ.ต่อไป ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยของประชาชนหากเกิดเพลิงไหม้นั้น กทม.ก็ทำอย่างเต็มที่แม้จะไม่มีถังดับเพลิง ซึ่งขอให้มั่นใจว่า กทม.จะดูแลประชาชนอย่างดีแน่นอน
