กทม.สำรวจสภาพน้ำในคลองแสนแสบหลังประชาชนร้องเรียนน้ำเน่าเสีย พร้อมกำชับโรงงานอุตสาหกรรมบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อย
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังนำคณะสื่อมวลชนพร้อมด้วยนายสมโภชน์ พงษ์เสมา ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี นายหัสฎิณ ปิ่นประชาสรร ผู้อำนวยการเขตคันนายาว และนายประภาส คล้ายศรี ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบหลังจากมีประชาชนร้องเรียนว่า มีโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยน้ำเสียลงคลองส่งผลให้น้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็นรบกวน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวมีโรงงานผลิตน้ำดื่มริมคลองแสนแสบ เครื่องต้มน้ำซึ่งติดตั้งบริเวณใกล้คลองชำรุดทำให้น้ำในหม้อต้มซึ่งมีอุณหภูมิสูงล้นและไหลซึมลงคลองทันทีจึงอาจเป็นสาเหตุให้น้ำดำและเกิดกลิ่นเหม็น โดยขณะนี้ได้มีการซ่อมแซมหม้อต้มน้ำดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังสั่งห้ามการปล่อยน้ำลงสู่ลำรางภายในนิคมอุตสาหกรรมฯ จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบอีกครั้ง
นอกจากนี้ นิคมฯ ยังได้ดำเนินการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่อยู่ติดริมคลองซึ่งมีอยู่ในพื้นที่เขตคันนายาว 9 โรงงาน และในพื้นที่มีนบุรี 5 โรงงาน รวมถึงโรงงานที่อยู่พื้นที่ด้านในอีกประมาณ 70 โรงงาน ให้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่คลองสาธารณะ ซึ่งโดยปกติจะไม่พบปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงสู่คลอง เนื่องจากทุกโรงงานมีระบบบำบัดน้ำที่ได้มาตรฐานก่อนปล่อยลงคลอง อีกทั้งนิคมอุตสาหกรรมบางชันยังมีระบบควบคุมตรวจสอบน้ำที่ได้มาตรฐานซ้ำอีกครั้งก่อนปล่อยลงคลองบางชันและไหลลงคลองแสนแสบต่อไป ซึ่งจากการสุ่มตรวจค่าออกซิเจนในน้ำพบอยู่ระดับที่ 12-14 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่าสารเคมีในน้ำวัดได้ 60-70 มิลลิกรัมต่อลิตร ไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 120 มิลลิกรัมต่อลิตร และค่าตะกอนแขวนลอยก็ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 50 มิลลิกรัมต่อลิตร อย่างไรก็ตาม กทม.ได้กำชับพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเข้มงวดมาตรฐานระบบบำบัดน้ำเสีย เพราะหากพบมีการประกอบกิจการผิดเงื่อนไข เกิดเหตุรำคาญทั้งกลิ่นและเสียง จะมีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังนำคณะสื่อมวลชนพร้อมด้วยนายสมโภชน์ พงษ์เสมา ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี นายหัสฎิณ ปิ่นประชาสรร ผู้อำนวยการเขตคันนายาว และนายประภาส คล้ายศรี ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบหลังจากมีประชาชนร้องเรียนว่า มีโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยน้ำเสียลงคลองส่งผลให้น้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็นรบกวน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวมีโรงงานผลิตน้ำดื่มริมคลองแสนแสบ เครื่องต้มน้ำซึ่งติดตั้งบริเวณใกล้คลองชำรุดทำให้น้ำในหม้อต้มซึ่งมีอุณหภูมิสูงล้นและไหลซึมลงคลองทันทีจึงอาจเป็นสาเหตุให้น้ำดำและเกิดกลิ่นเหม็น โดยขณะนี้ได้มีการซ่อมแซมหม้อต้มน้ำดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังสั่งห้ามการปล่อยน้ำลงสู่ลำรางภายในนิคมอุตสาหกรรมฯ จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบอีกครั้ง
นอกจากนี้ นิคมฯ ยังได้ดำเนินการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่อยู่ติดริมคลองซึ่งมีอยู่ในพื้นที่เขตคันนายาว 9 โรงงาน และในพื้นที่มีนบุรี 5 โรงงาน รวมถึงโรงงานที่อยู่พื้นที่ด้านในอีกประมาณ 70 โรงงาน ให้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่คลองสาธารณะ ซึ่งโดยปกติจะไม่พบปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงสู่คลอง เนื่องจากทุกโรงงานมีระบบบำบัดน้ำที่ได้มาตรฐานก่อนปล่อยลงคลอง อีกทั้งนิคมอุตสาหกรรมบางชันยังมีระบบควบคุมตรวจสอบน้ำที่ได้มาตรฐานซ้ำอีกครั้งก่อนปล่อยลงคลองบางชันและไหลลงคลองแสนแสบต่อไป ซึ่งจากการสุ่มตรวจค่าออกซิเจนในน้ำพบอยู่ระดับที่ 12-14 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่าสารเคมีในน้ำวัดได้ 60-70 มิลลิกรัมต่อลิตร ไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 120 มิลลิกรัมต่อลิตร และค่าตะกอนแขวนลอยก็ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 50 มิลลิกรัมต่อลิตร อย่างไรก็ตาม กทม.ได้กำชับพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเข้มงวดมาตรฐานระบบบำบัดน้ำเสีย เพราะหากพบมีการประกอบกิจการผิดเงื่อนไข เกิดเหตุรำคาญทั้งกลิ่นและเสียง จะมีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535