นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังนำคณะสื่อมวลชน และ นายสมโภชน์ พงษ์เสมา ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี นายหัสฎิณ ปิ่นประชาสรร ผู้อำนวยการเขตคันนายาว และนายประภาส คล้ายศรี ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบ หลังมีประชาชนร้องเรียนว่า มีโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยน้ำเสียลงคลองส่งผลให้น้ำเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็นรบกวน
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวมีโรงงานผลิตน้ำดื่มริมคลองแสนแสบ เครื่องต้มน้ำ ซึ่งติดตั้งบริเวณใกล้คลองชำรุด ทำให้น้ำในหม้อต้มซึ่งมีอุณหภูมิสูงล้น และไหลซึมลงคลองทันที จึงอาจเป็นสาเหตุให้น้ำดำและเกิดกลิ่นเหม็น ขณะนี้ได้ซ่อมแซมหม้อต้มน้ำเรียบร้อยแล้ว แต่ยังสั่งห้ามการปล่อยน้ำ จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมอื่นที่อยู่ติดริมคลองซึ่งอยู่ในพื้นที่คันนายาว 9 โรงงาน และมีนบุรี 5 โรงงาน รวมถึงโรงงานที่อยู่พื้นที่ด้านในอีก 70 โรงงาน ให้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่คลองสาธารณะ ซึ่งปกติจะไม่พบปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงคลอง เพราะทุกโรงงานมีระบบบำบัดน้ำที่ได้มาตรฐานก่อนปล่อย
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้กำชับพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเข้มงวดมาตรฐานระบบบำบัดน้ำเสีย เพราะหากพบมีการประกอบกิจการผิดเงื่อนไข เกิดเหตุรำคาญทั้งกลิ่นและเสียง จะมีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวมีโรงงานผลิตน้ำดื่มริมคลองแสนแสบ เครื่องต้มน้ำ ซึ่งติดตั้งบริเวณใกล้คลองชำรุด ทำให้น้ำในหม้อต้มซึ่งมีอุณหภูมิสูงล้น และไหลซึมลงคลองทันที จึงอาจเป็นสาเหตุให้น้ำดำและเกิดกลิ่นเหม็น ขณะนี้ได้ซ่อมแซมหม้อต้มน้ำเรียบร้อยแล้ว แต่ยังสั่งห้ามการปล่อยน้ำ จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมอื่นที่อยู่ติดริมคลองซึ่งอยู่ในพื้นที่คันนายาว 9 โรงงาน และมีนบุรี 5 โรงงาน รวมถึงโรงงานที่อยู่พื้นที่ด้านในอีก 70 โรงงาน ให้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่คลองสาธารณะ ซึ่งปกติจะไม่พบปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงคลอง เพราะทุกโรงงานมีระบบบำบัดน้ำที่ได้มาตรฐานก่อนปล่อย
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้กำชับพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเข้มงวดมาตรฐานระบบบำบัดน้ำเสีย เพราะหากพบมีการประกอบกิจการผิดเงื่อนไข เกิดเหตุรำคาญทั้งกลิ่นและเสียง จะมีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535