“หมอประดิษฐ” เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างกระทรวง ปัดยุบกรมต่างๆ ชี้แค่เปลี่ยนภารกิจไม่ให้แต่ละกองซ้ำซ้อน
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง ว่า ที่ประชุมมีการหารือเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างของ สธ.เพื่อลดบทบาทการทำงานที่มีความซ้ำซ้อนกัน เช่น กรมอนามัย กับกรมควบคุมโรค ซึ่งมีเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมและควบคุมโรคเหมือนๆ กัน ต้องปรับบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน ให้กรมควบคุมโรค ดูแลเรื่องป้องกันโรคระบาด โรคติดต่อ และการรายงานการเกิดโรค ส่วนกรมอนามัย รับหน้าที่ส่งเสริมป้องกันโรคโดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อ โดยมีหน้าที่ดูเรื่องพฤติกรรม สิ่งแวดล้อม เรื่องบุหรี่เหล้า ก็อาจต้องโอนจากกรมควบคุมโรคมาให้กรมอนามัย หรือกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เป็นหน่วยงานด้านการควบคุม จึงต้องทำเรื่องสนับสนุนคิดมาตรฐานการบริการต่างๆ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติซึ่งเป็นหน้าที่ของสำนักงานปลัดเป็นผู้ปฏิบัติ สำนักบริหารการสาธารณสุข (สบรส.) ก็จะเป็นผู้คิดให้ระบบบริการสุขภาพ ทั้ง 12 เขต ทำงานได้ราบรื่น ไม่ต้องคิดเรื่องมาตรฐานบริการ เพราะเป็นหน้าที่ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่าง เพราะปัจจุบันมีการขออัตรากำลัง งบประมาณที่ซ้ำซ้อนกัน
นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า โดยหลักการจะเน้น 3 เรื่องตามนโยบายรัฐบาล คือ 1.เพิ่มประสิทธิภาพ 2.คุ้มครองประชาชน และ 3.ทำให้เศรษฐกิจการค้าเกิดความราบรื่น ซึ่งในแต่ละกรมจะมีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจ เช่น บทบาทของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ซึ่งมีการตั้งคำถามมาที่ตนมากว่า สบส.มีหน้าที่อะไรบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้ว สบส.เป็นหน่วยงานที่กำหนดมาตรฐาน และยุทธศาสตร์การให้บริการของหน่วยบริการให้กับทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชน คลินิกต่างๆ ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นว่า สบส.ควรจะต้องเข้าไปดูในเรื่องของมาตรฐานในการรักษาด้วย โดยให้ศึกษาแนวทางจากกรมการแพทย์ ขณะเดียวกันยังให้ สบส.เข้าไปดูแลมาตรฐานของโรงพยาบาลที่สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย เนื่องจากที่ผ่านมามีการสร้างขึ้นมาก และยังไม่มีหน่วยงานที่เข้าไปดูแลมาตรฐานโดยตรง
“เป้าหมายในการทำงาน อยากให้ทันภายใน 1 ต.ค.นี้ แต่เชื่อว่าการทำงานน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการยุบรวมกรมเพราะใหญ่เกินไป ภารกิจมากเกินไป เพียงแต่เป็นการปรับภารกิจกองในแต่ละกรมที่ทำงานใกล้เคียง หรือซ้ำซ้อนกันให้ไม่เกิดความซ้ำซ้อน ต้องปรับบทบาทหน้าที่ของการทำนโยบายกับการเป็นผู้ปฏิบัติให้ออก เช่น คนสร้างมาตรฐานการบริการ ที่อยู่ใน สบส.ก็จะต้องย้ายโอนมาสำนักงานปลัด หรือ กองออกแบบ ที่อยู่ใน สบส.แต่ สบส.ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติก็ต้องย้ายมาอยู่ใน สำนักงานปลัดเป็นต้น ส่วนงบประมาณก็ต้องแยกให้เกิดความชัดเจน ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะทำความเข้าใจและค่อยๆเปลี่ยน เพราะบางเรื่องต้องแก้กฎหมาย แต่เน้นการทำความเข้าใจ ไม่ให้ข้าราชการเกิดความตกใจ ว่าจะเป็นการยุบรวมกรม” รมว.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง ว่า ที่ประชุมมีการหารือเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างของ สธ.เพื่อลดบทบาทการทำงานที่มีความซ้ำซ้อนกัน เช่น กรมอนามัย กับกรมควบคุมโรค ซึ่งมีเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมและควบคุมโรคเหมือนๆ กัน ต้องปรับบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน ให้กรมควบคุมโรค ดูแลเรื่องป้องกันโรคระบาด โรคติดต่อ และการรายงานการเกิดโรค ส่วนกรมอนามัย รับหน้าที่ส่งเสริมป้องกันโรคโดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อ โดยมีหน้าที่ดูเรื่องพฤติกรรม สิ่งแวดล้อม เรื่องบุหรี่เหล้า ก็อาจต้องโอนจากกรมควบคุมโรคมาให้กรมอนามัย หรือกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เป็นหน่วยงานด้านการควบคุม จึงต้องทำเรื่องสนับสนุนคิดมาตรฐานการบริการต่างๆ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติซึ่งเป็นหน้าที่ของสำนักงานปลัดเป็นผู้ปฏิบัติ สำนักบริหารการสาธารณสุข (สบรส.) ก็จะเป็นผู้คิดให้ระบบบริการสุขภาพ ทั้ง 12 เขต ทำงานได้ราบรื่น ไม่ต้องคิดเรื่องมาตรฐานบริการ เพราะเป็นหน้าที่ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่าง เพราะปัจจุบันมีการขออัตรากำลัง งบประมาณที่ซ้ำซ้อนกัน
นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า โดยหลักการจะเน้น 3 เรื่องตามนโยบายรัฐบาล คือ 1.เพิ่มประสิทธิภาพ 2.คุ้มครองประชาชน และ 3.ทำให้เศรษฐกิจการค้าเกิดความราบรื่น ซึ่งในแต่ละกรมจะมีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจ เช่น บทบาทของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ซึ่งมีการตั้งคำถามมาที่ตนมากว่า สบส.มีหน้าที่อะไรบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้ว สบส.เป็นหน่วยงานที่กำหนดมาตรฐาน และยุทธศาสตร์การให้บริการของหน่วยบริการให้กับทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชน คลินิกต่างๆ ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นว่า สบส.ควรจะต้องเข้าไปดูในเรื่องของมาตรฐานในการรักษาด้วย โดยให้ศึกษาแนวทางจากกรมการแพทย์ ขณะเดียวกันยังให้ สบส.เข้าไปดูแลมาตรฐานของโรงพยาบาลที่สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย เนื่องจากที่ผ่านมามีการสร้างขึ้นมาก และยังไม่มีหน่วยงานที่เข้าไปดูแลมาตรฐานโดยตรง
“เป้าหมายในการทำงาน อยากให้ทันภายใน 1 ต.ค.นี้ แต่เชื่อว่าการทำงานน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการยุบรวมกรมเพราะใหญ่เกินไป ภารกิจมากเกินไป เพียงแต่เป็นการปรับภารกิจกองในแต่ละกรมที่ทำงานใกล้เคียง หรือซ้ำซ้อนกันให้ไม่เกิดความซ้ำซ้อน ต้องปรับบทบาทหน้าที่ของการทำนโยบายกับการเป็นผู้ปฏิบัติให้ออก เช่น คนสร้างมาตรฐานการบริการ ที่อยู่ใน สบส.ก็จะต้องย้ายโอนมาสำนักงานปลัด หรือ กองออกแบบ ที่อยู่ใน สบส.แต่ สบส.ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติก็ต้องย้ายมาอยู่ใน สำนักงานปลัดเป็นต้น ส่วนงบประมาณก็ต้องแยกให้เกิดความชัดเจน ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะทำความเข้าใจและค่อยๆเปลี่ยน เพราะบางเรื่องต้องแก้กฎหมาย แต่เน้นการทำความเข้าใจ ไม่ให้ข้าราชการเกิดความตกใจ ว่าจะเป็นการยุบรวมกรม” รมว.สาธารณสุข กล่าว
