“พงศ์เทพ” จี้ผู้บริหารอาชีวะวางแผนเชิงรุก จูงใจเด็กหันมาเรียนอาชีวะ ด้าน “ชัยพฤกษ์” ไฟเขียวให้ นร.ม.ต้น/ม.ปลาย สนใจเรียนสายอาชีพ มาเทียบโอนหลักสูตรได้ ตั้งเป้าวิธีการนี้จะดึงเด็กมาเรียนอาชีวะได้ถึง 15,000-20,000 คน
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่โรงแรมรามาการ์เดนท์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวระหว่างการมอบนโยบายให้กับผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า อาชีวศึกษาถือเป็นกลไกลขับเคลื่อนสำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ยังมีความต้องการบุคลากรด้านอาชีวะจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะความพยายามที่จะดส่วนผู้เรียนสายอาชีวะ 50 และสายสามัญ 50 แต่ผลปรากฏว่าในปีนี้มีเด็กมาเรียนสายอาชีวะเพียง 34% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายมาก ขณะเดียวกัน ตนเห็นว่ามีเด็กที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่จำนวนหนึ่งและเด็กเหล่านี้ไม่ได้เรียนต่อ ดังนั้นอาชีวะจะทำอย่างไรที่จำดึงเด็กกลุ่มนี้ให้เข้ามาเรียนสายอาชีวศึกษาได้เพราะถือเป็นการให้โอกาสเด็กด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารทุกคนจะต้องทำให้เด็กเห็นว่าการมาเรียนสายอาชีวศึกษามีอนาคตที่ดีอย่างไร โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เรื่องสถาบันอาชีวศึกษา หรือการเรียนแบบทวิภาคี มีความน่าสนใจอย่างไรด้วย นอกจากนี้ โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ตนเห็นว่าเป็นโครงการใหญ่ที่จะสามารถเชื่อมโยงการผลิตบุคลากรสายอาชีวศึกษามารองรับโครงการต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตามขอฝากให้ผู้บริหารทุกคนทำงานเชิงรุกและดึงเด็กให้มาเรียนสายอาชีวะเพิ่มขึ้นให้ได้ ส่วนกรณีจะมีการสั่งปรับลดการรับเด็กสายสามัญเพื่อมาเพิ่มสายอาชีวศึกษาหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนไม่อยากปิดกั้นโอกาสการเลือกเรียนของเด็กแต่อยากให้มีการทำความเข้าใจมากกว่าว่าเรียนอะไรแล้วจะได้อะไร
ด้าน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ลงนามคำสั่งเรื่องแนวปฏิบัติการเรียนรายวิชาสะสมหน่วยกิตเตรียมอาชีวศึกษา (Per-VEd.) ถึงผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทั่วประเทศแล้ว โดยแนวปฎิบัติดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มโอกาสขยายวิธีการและกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับม.ต้น ระดับม.ปลาย หรือประชาชนทั่วไปที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ หรือสะสมความรู้ในด้านสายอาชีพ โดย สอศ.กำหนดให้มีการเรียนรายวิชาสะสมหน่วยกิตเตรียมอาชีวศึกษา โดยผู้เรียนสามารถนำผลการเรียนมาขอโอนเพื่อนับจำนวนหน่วยกิตสะสมภายหลังจากสมัครเข้าเรียนและขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนนักศึกษาตามหลักสูตรอาชีวศึกษา อย่างไรก็ตาม การกำหนดแนวปฎิบัติดังกล่าวคาดว่าจะมีนักเรียนเข้าเรียนประมาณ 15,000 - 20,000 คน ซึ่งจะทำให้ยอดการรับนักเรียนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เป็นไปตามเป้าหมายที่จำนวน 186,873 คน
