สกว.วางแผนอนาคตสร้างงานวิจัยหนุนภาระงานของชาติ ทั้งวิจัยขนส่งมวลชนระบบราง ฯลฯ เล็งร่วมมือกับ สกอ.สร้างงานวิจัย
ศ.นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ประธานคณะกรรมการบริหารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เปิดเผยถึงนโยบายการทำวิจัยของ สกว.ว่า สกว.มีความร่วมมือด้านงานวิจัยกับหน่วยงานต่างๆที่ทำการวิจัย ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ,สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) , สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) , สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศษสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ(สวทน.) , สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยมีสภาวิจัยหรือ วช.เป็นแกนหลักในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ ทั้งจัดทำฐานข้อมุลและติดตามประเมินผล โดยระยะแรก สกอ.อาจไม่ค่อยได้เข้าร่วมมากนัก แต่ระยะหลังมีความร่วมมือกับ สกอ.ใกล้ชิดมากขึ้น ให้บูรณาการงานวิจัยร่วมกัน โดยร่วมจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์และแสวงหาทุนสนับสนุนการวิจัยมากขึ้น ในหัวข้อสำคัญที่เป็นปัญหาของประเทศ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา การท่องเที่ยว โลจีสติกส์ และด้านอื่นๆ ทั้งนี้เมื่อได้ทุนวิจัยมากขึ้นจะมุ่งกลุ่มเป้าหมายไปยังนักวิจัยซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งสกอ.ก็จะมีบทบาทเข้ามาสนับสนุนมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ทุน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการให้ สกอ.จัดสรรทุนและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเหมือนหน่วยงานอิสระอื่นๆ เช่น สกว. หรือ สวรส. หากให้ทุนแบบราชการที่มีระเบียบราชการกำหนดให้ใช้เงินหมดปีต่อปี ซึ่ง สกอ.ก็ตระหนักดีถึงข้อจำกัดนี้ จึงขอความร่วมมือ สกอ.ด้านการกำหนดนโยบายวิจัยร่วมกัน และการจัดสรรเงินให้ลงถึงมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่องจนงานวิจัยเสร็จสิ้นอย่างมีคุณภาพ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำหรือไม่ ศ.นพ.ไกรสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริง สกว.มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่เป็นงานวิจัยขนาดเล็ก อาทิ กลุ่มการวิจัยน้ำ กลุ่มการวิจัยภูมิอากาศ โดยเชื่อมโยงข้อมูลข้ามชาติเพราะต้องใช้องค์ความรู้ร่วมกัน ด้านงานวิจัยน้ำมีการศึกษาเรื่องการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งเป็นต้นน้ำ เพื่อดูแลการชะลอน้ำและการไหลของน้ำ โดยประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะการบริหารจัดการน้ำไม่ใช่เรื่องเทคนิคอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตรื และการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งต้องมอบอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการน้ำระดับประเทศที่ดำเนินการอยู่ ก็มีนักวิจัยที่ สกว.เข้าร่วมทำงานทั้งกรรมการระดับชาติและงานวิจัยที่เข้าไปสนับสนุนรวมทั้งเตรียมพร้อมนักวิจัยเข้าไปให้รัฐบาลได้เลือกใช้
“ ทิศทางของบอร์ด สกว.ในอนาคตก็จะทำงานวิจัยในขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อสนับสนุนงานของชาติ เช่น สวทช. จะทำการวิจัยเกี่ยวกับขนส่งมวลชนระบบราง ซึ่งประเทศไทยขาดกำลังคนด้านนี้มาก รวมทั้งต้องวิจัยการพัฒนาเมืองที่เป็นสถานีจอด โดยต้องศึกษาว่าจะมีการพัฒนาให้เป็นเมืองใหม่ ที่เชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ อย่างไรบ้าง เป็นต้น” ศ.นพ.ไกรสิทธิ์ กล่าว
ศ.นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ประธานคณะกรรมการบริหารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เปิดเผยถึงนโยบายการทำวิจัยของ สกว.ว่า สกว.มีความร่วมมือด้านงานวิจัยกับหน่วยงานต่างๆที่ทำการวิจัย ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ,สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) , สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) , สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศษสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ(สวทน.) , สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยมีสภาวิจัยหรือ วช.เป็นแกนหลักในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ ทั้งจัดทำฐานข้อมุลและติดตามประเมินผล โดยระยะแรก สกอ.อาจไม่ค่อยได้เข้าร่วมมากนัก แต่ระยะหลังมีความร่วมมือกับ สกอ.ใกล้ชิดมากขึ้น ให้บูรณาการงานวิจัยร่วมกัน โดยร่วมจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์และแสวงหาทุนสนับสนุนการวิจัยมากขึ้น ในหัวข้อสำคัญที่เป็นปัญหาของประเทศ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา การท่องเที่ยว โลจีสติกส์ และด้านอื่นๆ ทั้งนี้เมื่อได้ทุนวิจัยมากขึ้นจะมุ่งกลุ่มเป้าหมายไปยังนักวิจัยซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งสกอ.ก็จะมีบทบาทเข้ามาสนับสนุนมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ทุน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการให้ สกอ.จัดสรรทุนและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเหมือนหน่วยงานอิสระอื่นๆ เช่น สกว. หรือ สวรส. หากให้ทุนแบบราชการที่มีระเบียบราชการกำหนดให้ใช้เงินหมดปีต่อปี ซึ่ง สกอ.ก็ตระหนักดีถึงข้อจำกัดนี้ จึงขอความร่วมมือ สกอ.ด้านการกำหนดนโยบายวิจัยร่วมกัน และการจัดสรรเงินให้ลงถึงมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่องจนงานวิจัยเสร็จสิ้นอย่างมีคุณภาพ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำหรือไม่ ศ.นพ.ไกรสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริง สกว.มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่เป็นงานวิจัยขนาดเล็ก อาทิ กลุ่มการวิจัยน้ำ กลุ่มการวิจัยภูมิอากาศ โดยเชื่อมโยงข้อมูลข้ามชาติเพราะต้องใช้องค์ความรู้ร่วมกัน ด้านงานวิจัยน้ำมีการศึกษาเรื่องการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งเป็นต้นน้ำ เพื่อดูแลการชะลอน้ำและการไหลของน้ำ โดยประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะการบริหารจัดการน้ำไม่ใช่เรื่องเทคนิคอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตรื และการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งต้องมอบอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการน้ำระดับประเทศที่ดำเนินการอยู่ ก็มีนักวิจัยที่ สกว.เข้าร่วมทำงานทั้งกรรมการระดับชาติและงานวิจัยที่เข้าไปสนับสนุนรวมทั้งเตรียมพร้อมนักวิจัยเข้าไปให้รัฐบาลได้เลือกใช้
“ ทิศทางของบอร์ด สกว.ในอนาคตก็จะทำงานวิจัยในขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อสนับสนุนงานของชาติ เช่น สวทช. จะทำการวิจัยเกี่ยวกับขนส่งมวลชนระบบราง ซึ่งประเทศไทยขาดกำลังคนด้านนี้มาก รวมทั้งต้องวิจัยการพัฒนาเมืองที่เป็นสถานีจอด โดยต้องศึกษาว่าจะมีการพัฒนาให้เป็นเมืองใหม่ ที่เชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ อย่างไรบ้าง เป็นต้น” ศ.นพ.ไกรสิทธิ์ กล่าว
