เครือข่ายงดเหล้าร้อง สธ.ดัน “วันวิสาขบูชา” เป็น “วันงดดื่มสุราโลก” เชื่อทุกฝ่ายหนุนแน่ ด้าน “หมอชลน่าน” รับปากเสนอเข้า ครม.แต่ต้องดูก่อนว่าติดขัดกฎหมายหรือไม่ เล็งจัดสมุดลงนามเลิกเหล้าเข้าพรรษา ตั้งเป้า 1-5 ล้านรายชื่อถวายเป็นพระราชกุศล
วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายชูวิทย์ จันทรส เลขานุการเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ นำเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่จำนวน 30 คน ยื่นหนังสือต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อเรียกร้องให้ สธ.ผลักดันให้วันวิสาขบูชา เป็นวันงดดื่มสุราโลก เช่นเดียวกับวันงดสูบบุหรี่โลก
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศเดียวที่ประกาศ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีในการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยในปีนี้ทางเครือข่ายฯเห็นว่า สธ.ควรผลักดันให้ ครม.เสนอต่อองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้มีวันงดดื่มสุราโลกเหมือนกับวันงดสูบบุหรี่โลกคือ วันที่ 31 พ.ค.ของทุกปี โดยใช้วันสำคัญทางพุทธศาสนาคือวันวิสาขบูชา ซึ่งองค์การสหประชาชาติรับรองเป็นวันสำคัญสากลนานาชาติ
“หากกำหนดให้มีวันงดดื่มสุราโลก ซึ่งสอดคล้องกับมติสมาชิกในที่ประชุมองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก กว่า 40 องค์กร จาก 20 ประเทศ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่และองค์กรด้านสุขภาพต้องเห็นด้วยและสนับสนุน เพราะการรณรงค์ในระดับชาติจะก่อให้เกิดกระแสตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วม ช่วยลดผลกระทบได้ทั้งทางตรง ทางอ้อม การบังคับใช้กฎหมาย ลดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ การรณรงค์ที่มีคำขวัญเช่นเดียวกับบุหรี่ จะส่งผลให้ภาคีเครือข่ายทำงานร่วมกับสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยเองก็มีความก้าวหน้าพอสมควรในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รัฐบาลจึงควรผลักดันในเรื่องนี้” นายชูวิทย์ กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การจะผลักดันให้วันวิสาขบูชากลายเป็นวันงดดื่มสุราโลก ตนคงต้องนำเรียนเรื่องนี้แก่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข เสียก่อน เพื่อเสนอเข้า ครม.พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งต้องไปดูในเรื่องของข้อกฎหมายก่อนว่าผิดกฎหมายข้อใดหรือไม่ หากไม่ติดขัดอะไรก็สามารถผลักดันเข้าสู่องค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งก็คือ WHO ต่อไปได้ ที่สำคัญคือมีผลการศึกษาที่แน่ชัดแล้วว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลเสียต่อสุขภาพ เหมือนอย่างบุหรี่ ซึ่งมีผลเสียต่อสุขภาพชัดเจน ทั้งควันบุหรี่มือหนึ่งหรือมือสอง จึงมีการประกาศให้มีวันงดสูบบุหรี่โลก ก็อยากเชิญชวนให้องค์กร เครือข่าย หรือหน่วยงานต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องมาช่วยกันในเรื่องนี้
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ในปีนี้ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ก็จะจัดวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งตรงวันเข้าพรรษาเช่นทุกปี แต่จะทำให้ใหญ่ขึ้น ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม นอกจากนี้ จะมีการจัดทำสมุดลงนามเฉพาะ เพื่อให้ประชาชนที่มีความสมัครใจที่จะงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษาได้ลงนาม เพื่อนำรายชื่อดังกล่าวทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่ง สธ.ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องได้รายชื่อประมาณ 1-5 ล้านรายชื่อ
วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายชูวิทย์ จันทรส เลขานุการเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ นำเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่จำนวน 30 คน ยื่นหนังสือต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อเรียกร้องให้ สธ.ผลักดันให้วันวิสาขบูชา เป็นวันงดดื่มสุราโลก เช่นเดียวกับวันงดสูบบุหรี่โลก
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศเดียวที่ประกาศ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีในการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยในปีนี้ทางเครือข่ายฯเห็นว่า สธ.ควรผลักดันให้ ครม.เสนอต่อองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้มีวันงดดื่มสุราโลกเหมือนกับวันงดสูบบุหรี่โลกคือ วันที่ 31 พ.ค.ของทุกปี โดยใช้วันสำคัญทางพุทธศาสนาคือวันวิสาขบูชา ซึ่งองค์การสหประชาชาติรับรองเป็นวันสำคัญสากลนานาชาติ
“หากกำหนดให้มีวันงดดื่มสุราโลก ซึ่งสอดคล้องกับมติสมาชิกในที่ประชุมองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก กว่า 40 องค์กร จาก 20 ประเทศ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่และองค์กรด้านสุขภาพต้องเห็นด้วยและสนับสนุน เพราะการรณรงค์ในระดับชาติจะก่อให้เกิดกระแสตื่นตัวและเข้ามามีส่วนร่วม ช่วยลดผลกระทบได้ทั้งทางตรง ทางอ้อม การบังคับใช้กฎหมาย ลดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ การรณรงค์ที่มีคำขวัญเช่นเดียวกับบุหรี่ จะส่งผลให้ภาคีเครือข่ายทำงานร่วมกับสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยเองก็มีความก้าวหน้าพอสมควรในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รัฐบาลจึงควรผลักดันในเรื่องนี้” นายชูวิทย์ กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การจะผลักดันให้วันวิสาขบูชากลายเป็นวันงดดื่มสุราโลก ตนคงต้องนำเรียนเรื่องนี้แก่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข เสียก่อน เพื่อเสนอเข้า ครม.พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งต้องไปดูในเรื่องของข้อกฎหมายก่อนว่าผิดกฎหมายข้อใดหรือไม่ หากไม่ติดขัดอะไรก็สามารถผลักดันเข้าสู่องค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งก็คือ WHO ต่อไปได้ ที่สำคัญคือมีผลการศึกษาที่แน่ชัดแล้วว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลเสียต่อสุขภาพ เหมือนอย่างบุหรี่ ซึ่งมีผลเสียต่อสุขภาพชัดเจน ทั้งควันบุหรี่มือหนึ่งหรือมือสอง จึงมีการประกาศให้มีวันงดสูบบุหรี่โลก ก็อยากเชิญชวนให้องค์กร เครือข่าย หรือหน่วยงานต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องมาช่วยกันในเรื่องนี้
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ในปีนี้ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ก็จะจัดวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งตรงวันเข้าพรรษาเช่นทุกปี แต่จะทำให้ใหญ่ขึ้น ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม นอกจากนี้ จะมีการจัดทำสมุดลงนามเฉพาะ เพื่อให้ประชาชนที่มีความสมัครใจที่จะงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษาได้ลงนาม เพื่อนำรายชื่อดังกล่าวทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่ง สธ.ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องได้รายชื่อประมาณ 1-5 ล้านรายชื่อ
