xs
xsm
sm
md
lg

“ป๋าเปรม” อยากเห็นไทยแผ่นดินทองเหมือนอดีต นัดเปิดบ้านอวยพรปีใหม่ 27 ธ.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ (แฟ้มภาพ)
ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดสัมมนาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ ชมคนจัดเลือกหัวข้อเข้าสถานการณ์ ยันความเชื่อที่ต่างไม่เป็นอุปสรรคความสามัคคีคนในชาติ อยากเห็นสยามกลับมาเป็นแผ่นดินทอง เตรียมเปิดบ้านให้บิ๊กท็อปบูตอวยพรปีใหม่ 27 ธ.ค. พร้อมเปิดใจด้วย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" กล่าวเปิดสัมมนา  

วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง “สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ” ทั้งนี้ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ตนขอชมเชยคณะทำงานการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสภายุวพุทธิสมาคมแห่งชาติในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เลือกหัวข้อสัมมนาได้เหมาะสมกับห้วงเวลาและสถานการณ์ปัจจุบัน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันหลัก และสำคัญของประเทศเรา คนไทยยึดมั่น ถือมั่น และแน่วแน่ต่อสถาบันทั้งสามมาตั้งแต่โบราณ ทำให้ประเทศอันเป็นที่รักของเราดำรงเอกราชอยู่ได้ตราบทุกวันนี้ คนไทยต่างรักและกลมเกลียวกัน อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขตลอดมา

พล.อ.เปรมกล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีองค์กรต่างๆ ชมรมต่างๆ กลุ่มต่างๆ ให้ความสนใจต่อสถาบันทั้งสามมาก และนำไปพูดจาถกแถลงและวิเคราะห์กันในวงกว้าง พูดถึงสถาบันทั้งสามในแง่มุมต่างๆ ตามที่ตนมีความเห็น มีเหตุผลทำนองเดียวกับที่ผู้มีเกียรติกำลังจะทำในวันนี้ โดยความเห็นส่วนตัว ตนสนับสนุนการสัมมนาทุกกลุ่ม ทุกส่วน เพราะตนเห็นว่าการสัมมนามีประโยชน์ และจะจบลงโดยมีข้อสรุป ข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปประยุกต์ใช้ได้ แต่การสัมมนาจะได้ประโยชน์มากหรือได้ประโยชน์น้อย ขึ้นอยู่กับหัวข้อการสัมมนา เจตนาของผู้ร่วมสัมมนา ขอบเขตของการสัมนนา เป้าประสงค์ของการสัมมนา และการนำผลของการสัมมนาไปใช้ เพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวมโดยแท้จริงด้วยความจริงใจ

พล.อ.เปรมกล่าวว่า การนำความสำคัญของสามสถาบันเพื่อใช้เป็นมาตรการในการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศนั้นเราจะต้องใคร่ครวญ ไตร่ตรองให้รอบคอบ เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจตรงกัน มีข้อมูลข้อเท็จจริงบนพื้นฐานจริงพวกเราต้องเผชิญกับความเป็นจริง จึงจะสมประโยชน์จริง ชาติ คือ ประชาชนที่เป็นพลเมืองของประเทศ ขณะนี้มีการแบ่งฝ่ายกันเห็นได้อย่างชัดเจน มูลเหตุคืออะไร ก็รู้ๆ กันอยู่ ทำให้มีผลข้างเคียงไปถึงความรักความสามัคคีของคนในชาติ เป็นข้อจำกัดสำคัญต่อความสำเร็จ

“ผมมีความเห็นส่วนตัวว่า การที่มีความคิด ความเห็น ความเชื่อแตกต่างกัน ไม่เป็นอุปสรรคของการดำรงความรัก ความสามัคคีของคนไทยแม้แต่น้อย ถ้าคนในชาติมุ่งประสงค์ในสิ่งที่สำคัญที่สุดของประเทศเรา คือ ความสงบสุข ความร่มเย็น ความสันติ และความมั่นคง โดยเที่ยงแท้แน่นอน ความเห็นแตกต่าง ความเชื่อแตกต่างจะไม่เป็นสิ่งกีดกันให้คนไทยรู้รักสามัคคีกัน” พล.อ.เปรมกล่าว

ภายหลังการเปิดสัมมนาแล้วเสร็จ พล.อ.เปรมปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการเมือง โดยผู้สื่อข่าวขอให้พล.อ.เปรม อวยพรเนื่องในวันปีใหม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ยังเหลือเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงวันปีใหม่ พร้อมทั้งจะเปิดใจและเปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ให้เข้าอวยพร เนื่องในวันปีใหม่ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เมื่อถามว่ายังอยากให้ประเทศไทยเป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองหรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า “อยากให้มากที่สุด” เมื่อถามต่อว่าอยากให้คนในชาติกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนในอดีตที่ผ่านมามีความรักความสามัคคีหรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า “คุณก็รู้อยู่แล้ว”


กำลังโหลดความคิดเห็น