xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอยคุณแม่สิริ กรินชัย หนังสือดีที่ควรอ่าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนังสือ “ตามรอยคุณแม่สิริ กรินชัย” เกิดจากการที่สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะได้รวบรวมและเรียบเรียงเนื้อหาคำบรรยายของคุณแม่สิริ เพื่อผู้อ่านจะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นต่อไป โดยในการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เพื่อให้ผู้ที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อคุณแม่สิริ หรือผู้ปฏิบัติธรรมรุ่นหลังๆที่ไม่มีโอกาสได้เข้าอบรมกับคุณแม่สิริแล้ว ให้ได้รู้จักเส้นทางธรรมและแนวทางการสอนของท่านมากขึ้น หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่มีคุณค่ายิ่งเล่มหนึ่งที่ท่านพุทธศาสนิกชนควรอ่าน ได้ศึกษา และนำมาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต เพื่อให้มีสติรู้เท่าทันปัจจุบันตลอดเวลา ค้นพบทางแห่งการพ้นทุกข์ และเข้าถึงนิพพานต่อไปในอนาคตภายภาคหน้าได้ในที่สุด

คุณแม่ ดร. สิริ กรินชัย มหาอุบาสิกาผู้มีเมตตา เสียสละ และทุ่มเทตนเองในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นทางสายกลาง ตามหลักสติปัฏฐาน 4 ด้วยวิธีการที่เข้าใจและปฏิบัติตามได้ง่าย เห็นผลได้เร็ว และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันด้วยการเจริญสติได้ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงเวลาหลับ จากการเดินสายสอนปฏิบัติแบบพอง-ยุบทั่วทุกภาคทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ท่านจึงเป็นทั้งครูบาอาจารย์ และเป็นคุณแม่ทางธรรมของเหล่าลูกศิษย์มากมาย อาทิ ณรงค์ โชควัฒนา, อมเรศ ศิลาอ่อน, ดนัย จันทร์เจ้าฉาย, วสันต์-เจษฎ์สุภา โพธิพิมพานนท์, พอ.นพ.พงศักดิ์ ตั้งคณา, กรรณิกา ธรรมเกษร, ฐิตินาถ ณ พัทลุง, จิตประภัสสร เทียนสุวรรณ ฯลฯ แม้คุณแม่จะจากไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ แต่เส้นทางที่ท่านปูไว้ ยังมีให้เราตามรอยได้ต่อ เชื่อหรือไม่ว่า เพียงเข้าอบรมหลักสูตรการพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุข ๗ คืน ๘ วัน แค่นั้น คุณจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่แบบที่คนรอบข้างต้องแปลกใจ !

นับเป็นเวลากว่า 60 ปีมาแล้วที่คุณแม่สิริเป็นที่รู้จักในฐานะ อุบาสิกาผู้นำการอบรมวิปัสสนากรรมฐานที่เข้าใจง่าย มาถ่ายทอดให้แก่บุคคลทั่วไป จนกระทั่งปัจจุบันแนวทางการเผยแผ่พุทธศาสนาของท่านก็ยังคงได้รับการสืบสานอยู่ โดยเฉพาะหลักสูตร การอบรมพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุข ซึ่งเป็นการอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่ถูกออกแบบไว้อย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อให้เกิดสติและการกำหนดรู้อารมณ์ปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยหลักสำคัญ ๓ ประการในการปฏิบัติ อันได้แก่ ๑. การเจริญสติให้ทันปัจจุบันอารมณ์ (การกำหนดอิริยาบถ) ๒. การเดินจงกรม ๓. การนั่งสมาธิ

อีกทั้ง ด้วยการใช้ภาษาง่ายๆในการสอนวิปัสสนากรรมฐานของคุณแม่สิริ บวกกับความเมตตา เอาใจใส่ในการสอน ความใจเย็นที่จะตอบทุกคำถาม รวมทั้งการสังเกตและพัฒนาปรับเปลี่ยนเทคนิควิธีการสอนให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติซึ่งมีพื้นฐานแตกต่างกัน ทำให้การอบรมพัฒนาจิตสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ให้ดีขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยช่วยลดระดับความทุกข์ นำความสุข ความเจริญ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองให้แก่ผู้ปฏิบัติทั้งชีวิตส่วนตัว ครอบครัว หน้าที่การงาน และบางครั้งยังทำให้โรคภัยไข้เจ็บหายไปอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจากทั่วสารทิศ ทุกสาขาวิชาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ต่างก็หลั่งไหลกันมาขอความรู้จากคุณแม่ด้วยความเลื่อมใส ศรัทธา กระทั่งหลักสูตรการอบรมพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุขเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมอย่างสูง จนต้องมีการจัดอบรมกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

หลักเกณฑ์ที่ท่านได้วางไว้ทำให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมเป็นวิทยากรแล้ว สามารถนำวิธีการและแนวทางการสอนของท่านไปให้การอบรมพัฒนาจิตและเผยแผ่ไปยังบุคคลทั่วไปในสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ คุณแม่ ดร.สิริ กรินชัย จึงนับเป็นปูชนียบุคคลผู้เป็นกำลังสำคัญที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่วงการพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมให้ผู้คนในสังคมไทยทั่วไปได้หันมาสนใจการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง

เมื่อคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ คุณจะเห็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของคุณแม่สิริ เพื่อให้ผู้คนมากมายได้พับกับปัญญาและสันติสุขที่แท้จริง นอกจากนั้น หนังสือเล่มนี้ยังเป็นเสมือนคู่มือพื้นฐานที่แจกแจงวิธีปฏิบัติธรรมไว้อย่างละเอียด เป็นขั้นเป็นตอน จนสามารถปฏิบัติตามได้ในเบื้องต้น สำหรับผู้ที่ยังไม่มีเวลาเข้าอบรม
กำลังโหลดความคิดเห็น