xs
xsm
sm
md
lg

“White Ocean Strategy”สร้างกำไรให้ธุรกิจเพิ่ม 6เท่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน”แนะผู้ประกอบการไทยเตรียมรับมือต่างชาติ หลังเปิด AEC ชี้นักลงทุนต่างชาติย้ายฐานผลิต-ลงทุนซบเพื่อนบ้าน เหตุไทยมีปัญหาทุจริตคอรัปชันสูงถึง 30% เร่งนักลงทุนทำธุรกิจด้วยกลยุทธ์“White Ocean” ด้าน“ดนัย จันทร์เจ้าฉาย”โชว์ธุรกิจที่ทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรม มีผลกำไรสูงกว่าการทำธุรกิจแบบปกติถึง 6 เท่า

ในอีก 2 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(ASEAN Economic Community:AEC) อย่างเต็มตัว ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสังคมและเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค องค์กรหลายภาคส่วนของไทยต่างตื่นตัวเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ
ดังนั้น การวางแผนเตรียมการรับมือ การปรับกลยุทธ์ การหาจุดยืนของผู้ประกอบการไทย จึงมีส่วนสำคัญต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ทางการค้าในระยะยาว โดยควรจะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีจริยธรรม เพื่อสร้างความได้เปรียบในโลกการค้าอย่างยั่งยืน
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการไทยควรจะเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการเปิดเสรีทางการค้า เพราะถ้าไม่เตรียมตัวให้พร้อมก็จะไม่สามารถรับมือกับคู่แข่งในเวทีอาเซียนได้ ทั้งนี้ การเปิด AEC นั้น เกี่ยวข้องกับการค้าขาย การลงทุน การส่งออก เกี่ยวข้องกับทุกอาชีพ ฉะนั้น รัฐบาลควรจะจัดตั้งแผนกพิเศษสำหรับการดูแลเรื่องอาเซียนโดยเฉพาะ เพื่อรองรับประชากรเกือบ 600 ล้านคน ที่จะรวมเป็นตลาดเดียวกัน
ประเทศไทยมีจุดอ่อนตรงที่มีปัญหาการทุจริต คอรัปชันค่อนข้างมาก เห็นได้จากประเทศถูกจัดอันดับเรื่องความโปร่งใสอยู่ในระดับ Low มีการทุจริตคอรัปชันกันทุกหน่วยงาน ทุกขั้นตอน เฉลี่ยมีเงินรั่วไหลจากการคอรัปชันสูงถึง 30% ซึ่งนักลงทุนจากต่างประเทศไม่ยอมรับในเรื่องนี้ ทำให้ย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนแทน เพราะไม่ต้องการเสียเงินค่าทุจริตคอรัปชัน ซึ่งนั่นหมายถึงจะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง
ในปี 2554 มีการลงทุนในอาเซียนคิดเป็นจำนวน 80,000 ล้านดอลล่าร์ แต่เงินลงทุนส่วนใหญ่ไปลงที่ประเทศอื่น ๆ ไม่ใช่ประเทศไทย เพราะต่างชาติไม่ต้องการเสียเงินใต้โต๊ะมากถึง 30% ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสที่จะมีธุรกิจเกิดใหม่ ทั้งที่ในช่วง 15 ปีก่อน ประเทศไทยมีนโยบายดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย และต้องการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน แต่ปัจจุบันนี้ นักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศอื่นแทน
ดร.สุรินทร์ กล่าวว่า มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่คิดว่า “โกงได้โกงไป แต่แบ่งเราบ้าง หรือคอรัปชันแล้วทำงานไม่เป็นไร” เหล่านี้ล้วนเป็นค่านิยมที่ผิด ดังนั้น เราควรสร้างนิยมใหม่ให้กับสังคมไทย โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส มีจริยธรรม ตรวสอบได้ ซึ่งจะทำให้ต่างชาติต้องการมาค้าขายและลงทุนในไทย เพราะการมาลงทุนในไทยสามารถติดต่อค้าขายได้อีก 9 ประเทศในอาเซียน เนื่องจากทำเลที่ตั้งของประเทศไทยอยู่ในทำเลที่ดี เป็นจุดศูนย์กลางการค้าขาย และขนส่ง
การดำเนินธุรกิจในลักษณะดังกล่าว เป็นการดำเนินธุรกิจแบบน่านน้ำสีขาว (White Ocean Strategy) เป็นการดำเนินธุรกิจแบบโปร่งใส ตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้ และมีจริยธรรม
ด้านนายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี และผู้เขียนหนังสือ กลยุทธ์น่านน้ำสีขาว กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์น่านน้ำสีขาว จะต้องทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เป็นองค์กรสีขาว ทั้งนี้ องค์กรสีขาวไม่ใช่องค์กรการกุศล เป็นการเนินธุรกิจที่มุ่งหวังผลกำไรเช่นเดียวกันธุรกิจอื่น แต่ผลลัพธ์ของการเป็นองค์กรสีขาว คือ จะมีผลกำไรสูงกว่าการทำธุรกิจเดียวกันถึง 6 เท่า และยังเป็นองค์กรแห่งความสุข พนักงานมีความสุขในการทำงาน ที่สำคัญที่สุดคือเป็นองค์กรที่มีความยั่งยืน
“White Ocean Strategy ไม่ใช่เรื่องเดียวกับ CSR เพราะ CSR เป็นเรื่องปลายทาง ขณะที่ White Ocean Strategy เป็นเรื่องต้นทาง”นายดนัยกล่าวย้ำ เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น