คุมเข้ม! อาชีวะรับน้อง “พงศ์เทพ” สั่ง สอศ.กำชับวิทยาลัยทุกแห่งจัดกิจกรรมตามมาตรการ ส่วนตามสถาบันอุดมศึกษาสั่งห้ามรับน้องนอกสถานที่ ห้ามมีของมึนเมา ห้ามละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและทางเพศ เน้นกิจกรรมสร้างสรรค์ ย้ำผู้บริหารและครูดูแลใกล้ชิด พร้อมเปิดสายด่วน 1156 ให้แจ้งเหตุตลอด 24 ชม.
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการรับน้องใหม่ของนักเรียนอาชีวศึกษาว่า เพื่อป้องปรามไม่ไห้เกิดปัญหาตามมาภายหลังกิจกรรมรับน้อง จึงให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กำชับสถานศึกษาในสังกัดดูแลการจัดกิจกรรมรับน้องให้เป็นไปตามมาตรการรับน้องปีการศึกษา 2556 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยให้เน้นการจัดกิจกรรมรับน้องในเชิงสร้างสรรค์
“การรับน้องของอาชีวศึกษานั้นเป็นกิจกรรมที่มีมานาน หากห้ามปรามก็อาจจะทำให้บางส่วนต่อต้านและแอบไปรับน้องกันเองโดยพลการ กิจกรรมรับน้องเป็นสิ่งดีงาม แต่ต้องกระทำให้ถูกต้องเหมาะสมตามเจตนารมณ์ที่มุ่งหวังเชื่อมสัมพันธภาพของของรุ่นพี่รุ่นน้องให้มีความสามัคคี มีระเบียบวินัย ภาคภูมิใจในสถาบัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เคารพครู อาจารย์ หากกิจกรรมรับน้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ควรสนับสนุน” รมว.ศึกษาธิการกล่าว
นายพงศ์เทพกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายรับน้องในภาพรวมนั้น ห้ามไม่ให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมรับน้องใหม่นอกสถานศึกษาโดยเด็ดขาด และในการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่นั้นให้สถานศึกษาเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมโดยอยู่ในการดูแลรับผิดชอบร่วมกันของผู้บริหารและครู กิจกรรมต้องมีลักษณะสร้างสรรค์ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมไม่ขัดต่อระเบียบของวิทยาลัยและประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคม รวมถึงต้องเคารพเสรีภาพส่วนบุคคลด้วย ห้ามล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทั้งนี้ สถานศึกษาต้องจัดให้มีกลุ่มเครือข่ายนักเรียน ครูที่ปรึกษา ผู้ปกครองเพื่อช่วยกันดูแลพฤติกรรมของนักเรียนนักศึกษา แจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับวิทยาลัยทราบเพื่อป้องกันการรับน้องภายนอกสถานศึกษา
นายพงศ์เทพกล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ให้สถานศึกษาประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเช่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานพยาบาลชุมชน เพื่อเฝ้าระวังการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ พร้อมเปิดคอลเซ็นเตอร์ประจำสถานศึกษาเพื่อให้ผู้ปกครองและหน่วยงานเครือข่ายติดต่อสื่อสารกับสถานศึกษาในการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการรับน้องใหม่ของสถานศึกษานั้นๆ หากเครือข่ายครู ผู้ปกครองตลอดจนประชาชนผู้เกี่ยวข้องไม่สามารถแจ้งข้อมูลโดยตรงกับวิทยาลัยต่างๆได้ให้แจ้งไปที่สายด่วน สอศ. 1156 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“การรับน้องต้องจัดอย่างสร้างสรรค์ อยู่ในขอบเขตดีงาม หลีกเลี่ยงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ปราศจากอบายมุข สารเสพติด และการล่วงละเมิดทางเพศ ส่งเสริมให้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างหลากหลาย ให้จัดกิจกรรมอยู่ในสถานศึกษา และหากมีกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคมและชุมชนร่วมกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องต้องมีผู้บริหารและคุณครูดูแลอย่างใกล้ชิด หากสถานศึกษาจัดกิจกรรมรับน้องอย่างสร้างสรรค์ข้างต้นก็เชื่อได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาตามมาและได้รับการชื่นชมจากผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป” นายพงศ์เทพกล่าว
ด้าน นางวราภรณ์ สีหนาท รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ รมว.ศึกษาธิการ เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ เกี่ยวกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรื่องการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ และประชุมเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีการศึกษา 2556 โดยมีนโยบายให้การจัดกิจกรรมควรเคารพสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ไม่รุนแรงและห้ามล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ดื่มสุรา และเสพสิ่งมึนเมาทุกชนิด และไม่กระทบการเรียน รวมทั้งการจัดกิจกรรมต้องอยู่ในความรับผิดชอบของผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และรุ่นพี่ที่ต้องกำกับดูแลให้กิจกรรมเป็นไปในลักษณะสร้างสรรค์ ไม่ขัดต่อระเบียบ กฎหมาย วัฒนธรรมและมารยาททางสังคม และห้ามจัดกิจกรรมนอกสถานที่โดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ องค์กรนิสิต นักศึกษาที่จะจัดกิจกรรมต้องทำรายละเอียดโครงการเสนอขออนุมัติก่อน พร้อมทั้งให้สถาบันรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจในวัตถุประสงค์การรับน้อง และให้ผู้ปกครองสามารถเข้ามาสังเกตการณ์ได้ด้วย นอกจากนี้ให้สถาบันประเมินผลกิจกรรม และมีการยกย่องนิสิต นักศึกษาที่จัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งให้มีบทลงโทษทางวินัยกับผู้ที่จัดกิจกรรมขัดต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หลักความเสมอภาค และกฎ ระเบียบ ทั้งนี้ผู้บริหารแต่ละสถาบันต้องถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบในการดำเนินการตามนโยบายและมาตรการทั้งหมด
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการรับน้องใหม่ของนักเรียนอาชีวศึกษาว่า เพื่อป้องปรามไม่ไห้เกิดปัญหาตามมาภายหลังกิจกรรมรับน้อง จึงให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กำชับสถานศึกษาในสังกัดดูแลการจัดกิจกรรมรับน้องให้เป็นไปตามมาตรการรับน้องปีการศึกษา 2556 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยให้เน้นการจัดกิจกรรมรับน้องในเชิงสร้างสรรค์
“การรับน้องของอาชีวศึกษานั้นเป็นกิจกรรมที่มีมานาน หากห้ามปรามก็อาจจะทำให้บางส่วนต่อต้านและแอบไปรับน้องกันเองโดยพลการ กิจกรรมรับน้องเป็นสิ่งดีงาม แต่ต้องกระทำให้ถูกต้องเหมาะสมตามเจตนารมณ์ที่มุ่งหวังเชื่อมสัมพันธภาพของของรุ่นพี่รุ่นน้องให้มีความสามัคคี มีระเบียบวินัย ภาคภูมิใจในสถาบัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เคารพครู อาจารย์ หากกิจกรรมรับน้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ควรสนับสนุน” รมว.ศึกษาธิการกล่าว
นายพงศ์เทพกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายรับน้องในภาพรวมนั้น ห้ามไม่ให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมรับน้องใหม่นอกสถานศึกษาโดยเด็ดขาด และในการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่นั้นให้สถานศึกษาเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมโดยอยู่ในการดูแลรับผิดชอบร่วมกันของผู้บริหารและครู กิจกรรมต้องมีลักษณะสร้างสรรค์ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมไม่ขัดต่อระเบียบของวิทยาลัยและประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคม รวมถึงต้องเคารพเสรีภาพส่วนบุคคลด้วย ห้ามล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทั้งนี้ สถานศึกษาต้องจัดให้มีกลุ่มเครือข่ายนักเรียน ครูที่ปรึกษา ผู้ปกครองเพื่อช่วยกันดูแลพฤติกรรมของนักเรียนนักศึกษา แจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับวิทยาลัยทราบเพื่อป้องกันการรับน้องภายนอกสถานศึกษา
นายพงศ์เทพกล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ให้สถานศึกษาประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเช่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานพยาบาลชุมชน เพื่อเฝ้าระวังการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ พร้อมเปิดคอลเซ็นเตอร์ประจำสถานศึกษาเพื่อให้ผู้ปกครองและหน่วยงานเครือข่ายติดต่อสื่อสารกับสถานศึกษาในการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการรับน้องใหม่ของสถานศึกษานั้นๆ หากเครือข่ายครู ผู้ปกครองตลอดจนประชาชนผู้เกี่ยวข้องไม่สามารถแจ้งข้อมูลโดยตรงกับวิทยาลัยต่างๆได้ให้แจ้งไปที่สายด่วน สอศ. 1156 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“การรับน้องต้องจัดอย่างสร้างสรรค์ อยู่ในขอบเขตดีงาม หลีกเลี่ยงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ปราศจากอบายมุข สารเสพติด และการล่วงละเมิดทางเพศ ส่งเสริมให้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างหลากหลาย ให้จัดกิจกรรมอยู่ในสถานศึกษา และหากมีกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคมและชุมชนร่วมกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องต้องมีผู้บริหารและคุณครูดูแลอย่างใกล้ชิด หากสถานศึกษาจัดกิจกรรมรับน้องอย่างสร้างสรรค์ข้างต้นก็เชื่อได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาตามมาและได้รับการชื่นชมจากผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป” นายพงศ์เทพกล่าว
ด้าน นางวราภรณ์ สีหนาท รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ รมว.ศึกษาธิการ เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ เกี่ยวกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรื่องการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ และประชุมเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีการศึกษา 2556 โดยมีนโยบายให้การจัดกิจกรรมควรเคารพสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ไม่รุนแรงและห้ามล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ดื่มสุรา และเสพสิ่งมึนเมาทุกชนิด และไม่กระทบการเรียน รวมทั้งการจัดกิจกรรมต้องอยู่ในความรับผิดชอบของผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และรุ่นพี่ที่ต้องกำกับดูแลให้กิจกรรมเป็นไปในลักษณะสร้างสรรค์ ไม่ขัดต่อระเบียบ กฎหมาย วัฒนธรรมและมารยาททางสังคม และห้ามจัดกิจกรรมนอกสถานที่โดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ องค์กรนิสิต นักศึกษาที่จะจัดกิจกรรมต้องทำรายละเอียดโครงการเสนอขออนุมัติก่อน พร้อมทั้งให้สถาบันรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจในวัตถุประสงค์การรับน้อง และให้ผู้ปกครองสามารถเข้ามาสังเกตการณ์ได้ด้วย นอกจากนี้ให้สถาบันประเมินผลกิจกรรม และมีการยกย่องนิสิต นักศึกษาที่จัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งให้มีบทลงโทษทางวินัยกับผู้ที่จัดกิจกรรมขัดต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หลักความเสมอภาค และกฎ ระเบียบ ทั้งนี้ผู้บริหารแต่ละสถาบันต้องถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบในการดำเนินการตามนโยบายและมาตรการทั้งหมด