xs
xsm
sm
md
lg

เซฟเซ็กซ์อย่างไรไม่ให้ท้อง?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ! ว่าทุกวันนี้มีสาวไทยวัยแรกแย้มจะมีปัญหา “ท้องไม่พร้อม” เสียเกลื่อนเมือง เพราะจากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่าวัยรุ่นสาวไทยปีละกว่า 70,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ท้องไม่พร้อม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 ต่อปี
ดร.นพ.เกษมสิษฐ์  แก้วเ กียรติคุณ
ที่น่าห่วงคือ...ไม่มีความรู้เรื่องเพศและการคุมกำเนิดเพียงพอ!

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประเทศไทยถึงมีปัญหาคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม สาเหตุหลักเกิดจากการลืมกินยาคุมกำเนิด ใช้วิธีนับระยะปลอดภัย หลั่งภายนอก หรือไม่คิดว่าจะมีเพศสัมพันธ์ แต่สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากการไม่ได้รับข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้อง การร่วมกันป้องกันและแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังจึงต้องรณรงค์เรื่องการเคารพเพศตรงข้าม มีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมทางเพศของตนเองทั้งชายและหญิง และการให้ความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ ตลอดจนการคุมกำเนิดที่ปลอดภัย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.นพ.เกษมสิษฐ์ แก้วเกียรติคุณ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า เหตุผลที่ผู้หญิงยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์เป็นอันดับต้นๆ คือการขาดความรู้ที่จะคุมกำเนิดที่ปลอดภัย ตามมาด้วยไม่แน่ใจว่าจะเลือกวิธีไหนดี ส่วนใหญ่จะใช้วิธีซื้อยาเม็ดคุมกำเนิดรับประทานเอง ซึ่งอาจรับประทานยาไม่ถูกต้อง หรือลืมรับประทานยา ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ บางคนก็อาจมีอาการข้างเคียงจากยาเม็ดคุมกำเนิดจนต้องหยุดยา หรือก็ไม่คุมกำเนิดเลย เพราะไม่มีความรู้ในการคุมกำเนิด โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ทำให้มีปัญหาตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร

“การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่เป็นฮอร์โมนมีหลายวิธี ได้แก่ ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด และยาฝังคุมกำเนิด ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับแต่ละคนขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาที่ต้องการคุมกำเนิด ภาวะหรือโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามในแต่ละวิธี รวมทั้งอาการข้างเคียงของแต่ละวิธี ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเริ่มคุมกำเนิด”

แม้การคุมกำเนิดจะช่วยลดการตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้ แต่สิ่งที่ต้องพึงระลึกไว้เสมอก็คือ ข้อเสียและปัญหาของการคุมกำเนิด โดย ดร.นพ.เกษมสิษฐ์ กล่าวว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดที่นิยมใช้ เพราะหาซื้อได้ง่าย มีข้อเสียคือต้องรับประทานทุกวันในเวลาเดิม ปัญหาที่พบบ่อยคือลืมรับประทานยา ทำให้ประสิทธิผลของยาลดลง นอกจากนั้นยาเม็ดคุมกำเนิดบางชนิดมีระดับฮอร์โมนสูง ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ เป็นฝ้าได้ สำหรับยาฉีดและยาฝังคุมกำเนิดก็อาจมีปัญหาประจำเดือนผิดปกติ เลือดออกกะปริดกะปรอย หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ผลข้างเคียงเหล่านี้ทำให้คุณผู้หญิงบางคนไม่มีทางเลือกที่ดีในการคุมกำเนิด

เมื่อวิธีคุมกำเนิดแบบทั่วไปต่างมีปัญหา ปัจจุบันจึงมีการพัฒนานวัตกรรมการคุมกำเนิดแบบใหม่ขึ้น คือ การคุมกำเนิดด้วยวงแหวนคุมกำเนิด ซึ่งมีลักษณะเป็นวงแหวนพลาสติกนุ่ม ยืดหยุ่นได้ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 5 เซนติเมตร ประกอบด้วยฮอร์โมนเช่นเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิด แต่ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทันที โดยจะปล่อยฮอร์โมนออกมาในปริมาณต่ำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดทำให้ประสิทธิผลดีกว่ายาเม็ดคุมกำเนิด ผลข้างเคียงน้อยกว่า และประจำเดือนมาสม่ำเสมอ หรือในรายที่มีปัญหาจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอหรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากยาฉีดและยาฝังคุมกำเนิด นอกจากนั้น ผู้ที่ลืมรับประทานยาคุมกำเนิดบ่อยๆ หรือเวลาการทำงานไม่แน่นอน เช่น ทำงานเป็นกะก็ใช้วงแหวนคุมกำเนิดได้ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาการรับประทานยาคุมกำเนิด

สำหรับวิธีใช้สามารถใส่ด้วยตนเอง โดยสอดเข้าไปในช่องคลอดคล้ายกับการเหน็บยาในช่องคลอด ปล่อยไว้ 3 สัปดาห์ ในระหว่างนี้สามารถมีกิจกรรมทางเพศได้ตามปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งผู้ใช้และคู่สมรส ไม่ระคายเคือง ไม่ทำให้ตกขาวหรือติดเชื้อในช่องคลอด แต่จะทำให้สภาวะแวดล้อมในช่องคลอดเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดไม่แห้ง การตกขาวติดเชื้อลดลงเมื่อครบ 3 สัปดาห์ก็เอาออก เว้นไป 1 สัปดาห์ จะมีประจำเดือนมาตามปกติ

“ปัจจุบันนี้มีทางเลือกในการคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิงยุคใหม่มากมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดให้เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน หากไม่แน่ใจว่าวิธีใดเหมาะสม ก็ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือดีที่สุดคือไม่มีเพศสัมพันธ์เมื่อไม่พร้อม ถือเป็นทางออกป้องกันปัญหาสังคม ท้องและ แท้ง ตามมา”
กำลังโหลดความคิดเห็น