อยากผอม อยากสวย อยากดูดี ดูเหมือนจะเป็นกระแสฮิตของคนสมัยนี้อย่างไม่อาจปฏิเสธ แต่ถ้าอ้วนแล้วต้องทำอย่างไร “สง่า ดามาพงษ์” ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข และรองประธานคณะกรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก
อ้วน คืออะไร?
“คำว่าอ้วน คนแปลไปกันต่างๆ นานา อย่างเช่น อ้วน คืออวบๆ น้ำหนักเยอะ อ้วนสำหรับหลายคนบอกว่าเหมือนอาเสี่ย ดูดี แต่จริงๆ อ้วนในทางการแพทย์คือภาวะไขมนที่สะสมอยู่ในร่างกายมากเกินปกติ ไขมันเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีอยู่ในระดับที่พอดี แต่สำหรับคนที่เก็บไขมันไว้ในร่างกายมากเกินกว่าปกติ จะนำไปสู่การเป็นโรค”
3 ไขมันอันตราย
1.ไขมันใต้ผิวหนัง จะแสดงออกผ่านสะโพกใหญ่ๆ ขาใหญ่ๆ ไขมันจุดนี้ปล่อยไว้ก็อันตราย
2.ไขมันในหลอดเลือด หลอดเลือดคนเรามีเป็นล้านๆ หลอด หลอดเลือดเหมือนท่อประปา มีหน้าที่นำเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ถ้าไม่มีหลอดเลือด ก็เสียชีวิต คนที่มีไขมันเยอะ ไขมันจะไปอุดตันอยู่ที่หลอดเลือด ปกติหลอดเลือดคนเรามันจะถ่าง แต่พอไขมันไปอุดตัน จะทำให้เลือดเดินไม่สะดวก ไปหล่อเลี้ยงหัวใจไม่พอ สามารถช็อกและเสียชีวิตได้ อย่างนี้คือโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือด และไม่ใช่แค่คนอ้วนเท่านั้นที่เป็นโรคนี้ได้ เพราะคนที่ร่างกายผอมๆ แต่ไขมันไปอุดตันอยู่ในหลอดเลือดก็เยอะแยะ
3.ไขมันที่ตับและหน้าท้อง หรือพุง ถือเป็นไขมันตัวที่ร้ายที่สุด เพราะว่ามันพร้อมที่จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระ และทำให้ระบบร่างกายรวน หนึ่งในนั้นก็คือจะเข้าไปบังคับไม่ให้อินซูลินหลั่งออกมา อินซูลินสร้างด้วยตับอ่อน พอหลั่งออกมาไม่ได้เยอะ ก็คุมน้ำตาลไม่ได้ เพราะอินซูลินมีหน้าที่คุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับพอดี ไขมันที่พุง จึงนำไปสู่การเป็นเบาหวาน ความดัน ไขมัน หลอดเลือด สารพัดโรค
หลัก 3 อ.ลดอ้วนลงพุง
1.อาหาร สาเหตุที่ทำให้เราอ้วน คือน้ำตาล หวานๆ ไขมัน อาหารผัดๆ ทอดๆ และอาหารจำพวกแป้ง
2.ออกกำลังกาย
3.อารมณ์ เชื่อหรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่รู้กันแล้วว่าเรื่องอาหาร อย่ากินหวานอย่ากินมัน อย่ากินแป้งเยอะ ออกกำลังกายเยอะๆ รู้หมดเลยแต่ยังอ้วนอยู่ ดังนั้น คนที่จะลดน้ำหนักต้องรู้จักที่จะบิวท์ตัวเองขึ้นมาก่อน หรือบิวท์อารมณ์ขึ้นมา คนที่จะลดน้ำหนักจะต้องถามตัวเองว่าจะลดไปเพื่ออะไร ถ้าไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีวันลดได้สำเร็จ แรงจูงใจที่ตั้งขึ้นมานั้น ต้องดูแรงๆ หน่อย อย่างเช่น ลดน้ำหนักเพราะไม่อยากเป็นเบาหวาน กลัวถูกตัดขา หรือลดเพราะอยากกลับไปใส่เสื้อเบอร์เอส ลดเพราะกลัวสามีไปมีเมียน้อย ลดเพราะอยากจะอยู่ดูลูกรับปริญญา ถ้าไม่ลดวันนี้ วันที่ลูกของคุณรับปริญญา คุณจะนอนติดเตียง ไปไหนไม่ได้
เพราะฉะนั้น การลดน้ำหนัก คุณต้องสร้างเป้าหมายและมองไกลๆ อันดับต่อมาก็คือมุ่งมั่นและคิดไว้เลยว่าการลดน้ำหนักต้องใช้เวลา สุดท้ายก็คือตั้งเป้ามาย การตั้งเป้าหมายไม่ต้องเยอะมาก เอาแค่เดือนละหนึ่งถึงสองกิโลก็พอแล้ว เพราะเดือนละสองกิโล ครบปีหนึ่งก็ 24 กิโลกรัมแล้ว
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo