“หมอประดิษฐ” สั่งการบ้านผู้บริหาร สธ.กำหนดเดตไลน์เขตบริการสุขภาพ 1 ก.ค.ดีเดย์บัตรประกันสุขภาพเด็กแรงงานต่างด้าว 1 มิ.ย.เร่งเดินหน้าสร้างคลังสต๊อกยา หลังเสร็จแล้ว 4 แห่ง และเตรียมปรับแผนทำงาน รพ.สต.หลังเน้นรักษามากกว่าส่งเสริมสุขภาพ ลั่นไม่ถอย P4P ให้กลุ่มแพทย์ชนบท เพราะหลักเกณฑ์ทบทวนได้ตลอดเวลา
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามงานกับผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่า ในที่ประชุมตนได้กำชับการดำเนินการ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การเดินหน้าปรับโครงสร้างระบบสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องเขตบริการสุขภาพ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 ก.ค.2556 เพื่อแสดงถึงการปรับปรุงคุณภาพบริการ มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และลดความซ้ำซ้อนการใช้กำลังคนของสถานพยาบาลภายในเขตบริการเดียวกัน สอดคล้องกับการใช้อัตรากำลังคนเพิ่มในการบรรจุลูกจ้างประจำของ สธ.เป็นข้าราชการที่จะดำเนินการในช่วง ต.ค.2556 ที่สำคัญจะส่งผลดีเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในเชิงคุณภาพ เช่น การได้รับบริการที่ดีขึ้น ลดการรอคิวผ่าตัดหัวใจ หรือต้อกระจก เป็นต้น
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า 2.บัตรสุขภาพสำหรับเด็กแรงงานต่างด้าวที่เกิดในไทย มีสิทธิซื้อประกันสุขภาพในอัตรา 365 บาทต่อปี โดยจะเริ่มในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ สำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นคนต่างด้าวในประเทศต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเองเช่นกัน โดยสั่งการให้คำนวณต้นทุนการให้บริการใหม่เป็นอัตราที่เหมาะสมโดยไม่ให้ประเทศต้องขาดทุน และหากไม่ยินยอมซื้อประกันสุขภาพ เพราะราคาครั้งเดียวสูง ให้พิจารณาทบทวนต้นทุนราคาการใช้บริการต่อครั้ง เพราะขณะนี้คิดค่าบริการตามต้นทุนเก่า
3.การทำคลังสินค้าตามภาคต่างๆ ระหว่าง สธ.และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อให้มีการเก็บยาในอัตราส่วนที่เหมาะสมและสำรองกรณีฉุกเฉินต่างๆ และลดค่าใช้จ่ายในการเก็บสต๊อกยา ซึ่งได้รับรายงานว่าดำเนินการไปแล้ว 4 แห่ง และในปี 2556 จะดำเนินการอีก 10 แห่ง และ 4.ดำเนินการให้บทบาทโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพราะปัจจุบันเน้นเรื่องเชิงการรักษามากกว่าการส่งเสริมสุขภาพ ทำให้ต้องมีการเพิ่มบุคลากร
“ส่วนการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน (Pay For Performance :P4P ) จะไม่มีการถอยในเรื่องนี้ และเดินหน้าตามหลักการต่อไปตามปกติ แต่ในส่วนของหลักเกณฑ์การดำเนินการ เช่น การจัดแบ่งพื้นที่สถานพยาบาล ผมย้ำเสมอว่าสามารถมาหารือทบทวนร่วมกันได้ ซึ่งการดำเนินการมีการทบทวนปรับปรุงตลอดเวลาอยู่แล้ว” รมว.สาธารณสุข กล่าว
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามงานกับผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่า ในที่ประชุมตนได้กำชับการดำเนินการ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การเดินหน้าปรับโครงสร้างระบบสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องเขตบริการสุขภาพ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 ก.ค.2556 เพื่อแสดงถึงการปรับปรุงคุณภาพบริการ มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และลดความซ้ำซ้อนการใช้กำลังคนของสถานพยาบาลภายในเขตบริการเดียวกัน สอดคล้องกับการใช้อัตรากำลังคนเพิ่มในการบรรจุลูกจ้างประจำของ สธ.เป็นข้าราชการที่จะดำเนินการในช่วง ต.ค.2556 ที่สำคัญจะส่งผลดีเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในเชิงคุณภาพ เช่น การได้รับบริการที่ดีขึ้น ลดการรอคิวผ่าตัดหัวใจ หรือต้อกระจก เป็นต้น
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า 2.บัตรสุขภาพสำหรับเด็กแรงงานต่างด้าวที่เกิดในไทย มีสิทธิซื้อประกันสุขภาพในอัตรา 365 บาทต่อปี โดยจะเริ่มในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ สำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นคนต่างด้าวในประเทศต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเองเช่นกัน โดยสั่งการให้คำนวณต้นทุนการให้บริการใหม่เป็นอัตราที่เหมาะสมโดยไม่ให้ประเทศต้องขาดทุน และหากไม่ยินยอมซื้อประกันสุขภาพ เพราะราคาครั้งเดียวสูง ให้พิจารณาทบทวนต้นทุนราคาการใช้บริการต่อครั้ง เพราะขณะนี้คิดค่าบริการตามต้นทุนเก่า
3.การทำคลังสินค้าตามภาคต่างๆ ระหว่าง สธ.และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อให้มีการเก็บยาในอัตราส่วนที่เหมาะสมและสำรองกรณีฉุกเฉินต่างๆ และลดค่าใช้จ่ายในการเก็บสต๊อกยา ซึ่งได้รับรายงานว่าดำเนินการไปแล้ว 4 แห่ง และในปี 2556 จะดำเนินการอีก 10 แห่ง และ 4.ดำเนินการให้บทบาทโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพราะปัจจุบันเน้นเรื่องเชิงการรักษามากกว่าการส่งเสริมสุขภาพ ทำให้ต้องมีการเพิ่มบุคลากร
“ส่วนการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน (Pay For Performance :P4P ) จะไม่มีการถอยในเรื่องนี้ และเดินหน้าตามหลักการต่อไปตามปกติ แต่ในส่วนของหลักเกณฑ์การดำเนินการ เช่น การจัดแบ่งพื้นที่สถานพยาบาล ผมย้ำเสมอว่าสามารถมาหารือทบทวนร่วมกันได้ ซึ่งการดำเนินการมีการทบทวนปรับปรุงตลอดเวลาอยู่แล้ว” รมว.สาธารณสุข กล่าว