สธ.ยันแม้มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก H7N9 ที่ไต้หวัน แต่ไทยยังติดเชื้อ ฟุ้งมีมาตรการป้องกันที่ดี เผย 3 พ.ค.นี้ เตรียมประชุมคณะกรรมการชาติรับมือสถานการณ์ที่ทำเนียบฯ แนะคนกลับจากต่างประเทศหากมีไข้ให้รีบพบแพทย์ ส่วนประชาชนขอให้รักษาสุขภาพ เลี่ยงสัมผัสสัตว์ปีก
วันนี้ (25 เม.ย.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ที่ไต้หวัน ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยรายแรกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นชายวัย 53 ปี ทำงานที่เมืองซูโจว มีอาการป่วย 3 วัน ก่อนเดินทางกลับไต้หวัน และเข้ารับรักษาตัวเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีอาการค่อนข้างหนัก ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนให้ทุกประเทศเฝ้าระวังไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 อย่างใกล้ชิด เพราะล่าสุดในจีนมีผู้ป่วยติดเชื้อ 108 ราย เสียชีวิต 22 ราย ส่วนไทยยังไม่มีการแพร่ระบาดทั้งในคนและในสัตว์ปีก แต่มีการเตรียมการรับมือเต็มที่ 4 ระบบ คือ การเฝ้าระวังป้องกันโรค การดูแลรักษา การควบคุมการแพร่ระบาดโรค และระบบการตรวจชันสูตรยืนยันทางห้องปฏิบัติการ มีการร่วมมือทำงานกับกรมปศุสัตว์ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเน้นการเฝ้าระวังจับสัญญาณการระบาด โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคปอดบวม ส่วนในระดับพื้นที่ได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวังทุกวัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณผิดปกติ
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า วันที่ 3 พ.ค. 2556 จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ พ.ศ. 2556-2559 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีรัฐมนตรีว่ากระทรวงและปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ สธ. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กทม.เป็นกรรมการ ร่วมประเมินสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมทุกระบบ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในการรับมือปัญหาของประเทศให้มีความพร้อมในระดับสูงสุด
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผอ.สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้ WHO ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 จากคนสู่คน ไม่พบเชื้อในไทย และยังไม่มีข้อห้ามการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ สธ.ขอแนะนำให้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาและการควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด และขอให้ประชาชนปฏิบัติดังนี้ ล้างมือบ่อยๆ หากป่วยเป็นไข้หวัด ขอให้พักผ่อนที่บ้านจนกว่าจะหาย และใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น หลีกเลี่ยงสัมผัสสัตว์ปีกทั้งเป็นและตาย โดยเฉพาะเด็กๆ ส่วนกลุ่มผู้ทำงานสัมผัสสัตว์ปีกขอให้ปฏิบัติตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ และต้องไม่นำสัตว์ปีกที่ป่วยตายมาชำแหละขายหรือรับประทานอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (25 เม.ย.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ที่ไต้หวัน ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยรายแรกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นชายวัย 53 ปี ทำงานที่เมืองซูโจว มีอาการป่วย 3 วัน ก่อนเดินทางกลับไต้หวัน และเข้ารับรักษาตัวเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีอาการค่อนข้างหนัก ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนให้ทุกประเทศเฝ้าระวังไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 อย่างใกล้ชิด เพราะล่าสุดในจีนมีผู้ป่วยติดเชื้อ 108 ราย เสียชีวิต 22 ราย ส่วนไทยยังไม่มีการแพร่ระบาดทั้งในคนและในสัตว์ปีก แต่มีการเตรียมการรับมือเต็มที่ 4 ระบบ คือ การเฝ้าระวังป้องกันโรค การดูแลรักษา การควบคุมการแพร่ระบาดโรค และระบบการตรวจชันสูตรยืนยันทางห้องปฏิบัติการ มีการร่วมมือทำงานกับกรมปศุสัตว์ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเน้นการเฝ้าระวังจับสัญญาณการระบาด โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคปอดบวม ส่วนในระดับพื้นที่ได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวังทุกวัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณผิดปกติ
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า วันที่ 3 พ.ค. 2556 จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ พ.ศ. 2556-2559 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีรัฐมนตรีว่ากระทรวงและปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ สธ. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กทม.เป็นกรรมการ ร่วมประเมินสถานการณ์และการเตรียมความพร้อมทุกระบบ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในการรับมือปัญหาของประเทศให้มีความพร้อมในระดับสูงสุด
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผอ.สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้ WHO ยังไม่พบหลักฐานการติดต่อโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 จากคนสู่คน ไม่พบเชื้อในไทย และยังไม่มีข้อห้ามการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ สธ.ขอแนะนำให้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาและการควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด และขอให้ประชาชนปฏิบัติดังนี้ ล้างมือบ่อยๆ หากป่วยเป็นไข้หวัด ขอให้พักผ่อนที่บ้านจนกว่าจะหาย และใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น หลีกเลี่ยงสัมผัสสัตว์ปีกทั้งเป็นและตาย โดยเฉพาะเด็กๆ ส่วนกลุ่มผู้ทำงานสัมผัสสัตว์ปีกขอให้ปฏิบัติตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ และต้องไม่นำสัตว์ปีกที่ป่วยตายมาชำแหละขายหรือรับประทานอย่างเด็ดขาด
