อย.จับมือ วช.ลงนาม MOU การวิจัยและพัฒนาการผลิตยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างครบวงจร หวังหนุนผลิตยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีประสิทธิภาพทั้งระบบ และปลอดภัย แข่งขันธุรกิจยากับต่างชาติ และสร้างรายได้เข้าประเทศ
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่า ระบบการวิจัยและพัฒนาด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพมีความสำคัญต่อบทบาทหน้าที่การทำงานของ อย.ในการควบคุม กำกับ และติดตามยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริมการศึกษา วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี เพื่อผลิตยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพและปลอดภัย การลงนาม MOU ร่วมกับ วช.ในครั้งนี้ จึงเป็นการพัฒนาและดำเนินงานยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านการผลิตยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างครบวงจร
“วัตถุประสงค์คือจัดทำข้อมูลเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศให้ทันต่อสถานการณ์โลกและความต้องการของประเทศ รวมทั้งเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์และข้อมูลต่อฝ่ายบริหาร/รัฐบาล องค์การต่างๆ อันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาและการพัฒนาอุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศอย่างยั่งยืน รวมทั้งเกิดการพัฒนาวิทยาการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้วย ตลอดจนเพื่อพัฒนาความร่วมมือแบบบูรณาการในการพัฒนาและดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศต่อไป" เลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.บุญชัย กล่าวอีกว่า การร่วมลงนาม MOU ครั้งนี้ หวังว่าอุตสาหกรรมการผลิตยา อาหาร เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง และวัตถุอันตราย ที่ผลิตขึ้นในประเทศ จะเกิดการวิจัยพัฒนาในเชิงลึก ทั้งด้านคุณสมบัติ ด้านคุณภาพ ความปลอดภัยและประสิทธิผล ตลอดถึงกระบวนการในการขึ้นทะเบียน การควบคุม กำกับ และติดตามก่อนและออกสู่ตลาด สามารถดำเนินการอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมและสัมฤทธิ์ผล เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และให้ประชาชนได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัย ที่สำคัญเป็นการประสานความร่วมมือระหว่าง อย.กับ วช. ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนและพัฒนาความสามารถของผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินงานวิจัยที่มีประสิทธิภาพด้วย
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่า ระบบการวิจัยและพัฒนาด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพมีความสำคัญต่อบทบาทหน้าที่การทำงานของ อย.ในการควบคุม กำกับ และติดตามยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริมการศึกษา วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี เพื่อผลิตยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพและปลอดภัย การลงนาม MOU ร่วมกับ วช.ในครั้งนี้ จึงเป็นการพัฒนาและดำเนินงานยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านการผลิตยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างครบวงจร
“วัตถุประสงค์คือจัดทำข้อมูลเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศให้ทันต่อสถานการณ์โลกและความต้องการของประเทศ รวมทั้งเสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์และข้อมูลต่อฝ่ายบริหาร/รัฐบาล องค์การต่างๆ อันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาและการพัฒนาอุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศอย่างยั่งยืน รวมทั้งเกิดการพัฒนาวิทยาการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้วย ตลอดจนเพื่อพัฒนาความร่วมมือแบบบูรณาการในการพัฒนาและดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศต่อไป" เลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.บุญชัย กล่าวอีกว่า การร่วมลงนาม MOU ครั้งนี้ หวังว่าอุตสาหกรรมการผลิตยา อาหาร เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง และวัตถุอันตราย ที่ผลิตขึ้นในประเทศ จะเกิดการวิจัยพัฒนาในเชิงลึก ทั้งด้านคุณสมบัติ ด้านคุณภาพ ความปลอดภัยและประสิทธิผล ตลอดถึงกระบวนการในการขึ้นทะเบียน การควบคุม กำกับ และติดตามก่อนและออกสู่ตลาด สามารถดำเนินการอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมและสัมฤทธิ์ผล เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และให้ประชาชนได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัย ที่สำคัญเป็นการประสานความร่วมมือระหว่าง อย.กับ วช. ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนและพัฒนาความสามารถของผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินงานวิจัยที่มีประสิทธิภาพด้วย