xs
xsm
sm
md
lg

เล็งออก พ.ร.บ.เชื้อโรคฯ หลังพบเชื้ออันตรายอยู่กับรัฐทั้งหมด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ.เตรียมออก พ.ร.บ.เชื้อโรคฯ คุมเข้มหน่วยงานรัฐต้องขออนุญาตครอบครองเชื้อโรค หลังพบเชื้ออันตรายอยู่กับรัฐทั้งหมด หวั่นเกิดปัญหาภายหลัง เผยผ่านกฤษฎีกาวาระ 1 แล้ว รอพิจารณาวาระ 2 ก่อนเข้าสู่สภา

นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. ... ผ่านความเห็นชอบวาระที่ 1 ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระที่ 2 หากผ่านก็จะนำเสนอเข้าสู่สภาผู้เทนราษฎรเพื่อบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 1 ต่อไป คาดว่าภายใน เม.ย.นี้ สคก.น่าจะเชิญกรมฯไปชี้แจงในวาระที่ 2 ซึ่งโดยหลักการของร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ไม่แตกต่างจากกฎหมายฉบับที่ผ่านมา คือ เฝ้าระวังอันตราย การครอบครอง นำเข้า ส่งออก และการผลิตที่ว่าด้วยเชื้อโรคและพิษจากสัตว์
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
นพ.นิพนธ์ กล่าวอีกว่า สาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ.เชื้อโรคฯ ฉบับใหม่ จะแก้ไขเพิ่มเติม 3 ข้อหลัก คือ 1.กำหนดให้หน่วยงานของรัฐทั้งโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการวิจัย ต้องขออนุญาตการครอบครองเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ จากเดิมที่ไม่ต้องขอ เพราะเมื่อปี 2555 สำรวจพบว่า เชื้อโรคที่มีอันตรายสูงอยู่ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐทั้งสิ้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วง การที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอทำให้ไม่สามารถรับรู้การกระจายเชื้อโรคและไม่มีข้อมูลในการเฝ้าระวังอันตราย 2.การจำแนกประเภทเชื้อโรคในการกำกับดูแล ซึ่งจะเน้นเชื้อโรคที่มีความรุนแรงและอันตราย อย่างเชื้อโรคที่ไม่รุนแรงมากและใช้อยู่ในอุตสาหกรรมจะผ่อนปรนไม่ต้องกำกับดูแล และ 3.การกำกับดูแลเชื้อโรคตามร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ จะดำเนินการพร้อมกับการกำกับดูแลห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) ให้มีชีวนิรภัย หรือไบโอเซฟตี (BioSafety) ตามระดับความรุนแรงของเชื้อโรค เช่น เชื้อโรคมีความรุนแรงระดับ 1 ซึ่งไม่รุนแรงมากนัก มาตรฐานห้องแล็บก็ต้องอยู่ในมาตรฐานระดับ 1 แต่หากเชื้อโรคอยู่ในความรุนแรงระดับ 4 ที่รุนแรงมากและแพร่ติดต่อได้ง่าย ห้องแล็บจะต้องมีมาตรฐานระดับ 4 เช่นกัน จึงจะได้รับการอนุญาตให้ครอบครองเชื้อโรคชนิดนั้นๆ

ปัจจุบันสหประชาชาติประกาศเรื่องจำกัดและกำกับอาวุธทำลายล้างสูง ทั้งอาวุธเคมี นิวเคลียร์ และเชื้อโรค อีกทั้งสากลพูดถึงสินค้าที่ใช้ได้ 2 ด้าน เช่น รังสีที่เป็นทั้งอาวุธและใช้ทางการแพทย์ หรือเชื้อโรคที่เป็นอันตรายและใช้ในการผลิตวัคซีน อาหาร และยา เป็นต้น จึงต้องใช้กฎหมายในการกำกับดูแลเพื่อให้มีการใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ โดยประเทศไทยมี พ.ร.บ.เชื้อโรคฯ เป็นกฎหมายฉบับเดียวที่กำกับดูแลเรื่องนี้ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมายให้เกิดความเท่าเทียมทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะหากยกเว้นให้ภาครัฐแล้วเกิดปัญหาโดยที่รัฐไม่รู้เรื่อง รัฐจะตกเป็นจำเลย อีกทั้ง พ.ร.บ.เชื้อโรคฯฉบับเก่ายังอ่อนอยู่ หากไม่มีปรับปรุงจะแย่แน่” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น