WHO ยังไม่ตอบเรื่องให้คำแนะนำสร้างโรงงานวัคซีน อภ.“หมอประดิษฐ” เล็งเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมถกอนาคตโครงการวัคซีน
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังส่งหนังสือสอบถามไปยังองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าได้ให้คำแนะนำองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จริงหรือไม่ ในการยกระดับการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนจากความปลอดภัยระดับ 2 เป็นระดับ 2 บวก จนทำให้การก่อสร้างมีความล่าช้า ว่า ล่าสุด WHO ยังไม่ได้ส่งจดหมายคำแนะนำในอดีตมาว่า เคยให้แนะนำอย่างไร แต่คาดว่าจะมีการส่งเข้ามาในเร็วๆ นี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการค้นหา เพราะเป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายปีแล้ว ส่วนที่ WHO ส่งมาขณะนี้จะเป็นข้อมูลทางวิชาการหรือทางเทคนิคที่อธิบายว่า หากปรับโรงงานจากระดับ 2 เป็นระดับ 2 บวก จะมีผลอย่างไรและในสเกลเท่าไร เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ตนสามารถพิจารณาอนาคตของโครงการวัคซีนได้ รวมไปถึงช่วยให้เข้าใจข้ออธิบายว่า ที่ผ่านมา อภ.มีการตัดสินใจจากพื้นฐานอะไร และสิ่งที่คิดหรือตัดสินใจในอดีตถูกต้องเหมาะสมอย่างไร
“แม้ WHO จะส่งจดหมายคำแนะนำมา แต่ต้องเข้าใจว่าเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไป ความเข้าใจเปลี่ยนไป สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ในปี 2009 กำลังมีไข้หวัดระบาดคนตัดสินใจก็ต้องคิดแบบหนึ่ง เราจะใช้เหตุผลในปี 2013 มาตัดสินใจปี 2009 เหตุผลอาจจะไม่ลงตรงกันพอดี ก็ต้องคิดในมุมนี้ด้วย แต่ในเวลานี้ผมคงยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เพราะจะเหมือนเป็นการตั้งธงผลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งอาจไม่ยุติธรรมกับหลายฝ่าย ขอให้ดีเอสไอสอบสวนหลายประเด็นให้ครบก่อน จึงจะสามารถพูดอะไรได้ชัดเจนขึ้น” รมว.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนจะยังเชิญผู้มีความรู้หรือมีชื่อเสียงในเรื่องของวัคซีนเข้ามาพูดคุยถึงการวางโครงสร้างของโรงงานวัคซีนในอนาคตจะเป็นอย่างไร รวมถึงตัดสินใจด้วยว่าควรจะเพิ่มวงเงินอีก 45 ล้านบาท ตามที่ อภ.เสนอมาหรือไม่ มีเหตุผลอะไรว่าเพิ่มเงินแล้วจะได้ประโยชน์ หรือเพิ่มแล้วจะเดินหน้าต่ออย่างไร ทั้งทิศทางการผลิตเชื้อเป็นเชื้อตาย ซึ่งตอนนี้เรากำลังเดินหน้าใน 2 เรื่องคือ เรื่องในอดีตที่จะต้องได้รับคำอธิบาย โดยจะเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ และเรื่องในอนาคตที่ต้องมีการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล เพราะขณะนี้โรงงานก่อสร้างล่าช้ามาหลายปีแล้ว
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังส่งหนังสือสอบถามไปยังองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าได้ให้คำแนะนำองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จริงหรือไม่ ในการยกระดับการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนจากความปลอดภัยระดับ 2 เป็นระดับ 2 บวก จนทำให้การก่อสร้างมีความล่าช้า ว่า ล่าสุด WHO ยังไม่ได้ส่งจดหมายคำแนะนำในอดีตมาว่า เคยให้แนะนำอย่างไร แต่คาดว่าจะมีการส่งเข้ามาในเร็วๆ นี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการค้นหา เพราะเป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายปีแล้ว ส่วนที่ WHO ส่งมาขณะนี้จะเป็นข้อมูลทางวิชาการหรือทางเทคนิคที่อธิบายว่า หากปรับโรงงานจากระดับ 2 เป็นระดับ 2 บวก จะมีผลอย่างไรและในสเกลเท่าไร เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ตนสามารถพิจารณาอนาคตของโครงการวัคซีนได้ รวมไปถึงช่วยให้เข้าใจข้ออธิบายว่า ที่ผ่านมา อภ.มีการตัดสินใจจากพื้นฐานอะไร และสิ่งที่คิดหรือตัดสินใจในอดีตถูกต้องเหมาะสมอย่างไร
“แม้ WHO จะส่งจดหมายคำแนะนำมา แต่ต้องเข้าใจว่าเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไป ความเข้าใจเปลี่ยนไป สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ในปี 2009 กำลังมีไข้หวัดระบาดคนตัดสินใจก็ต้องคิดแบบหนึ่ง เราจะใช้เหตุผลในปี 2013 มาตัดสินใจปี 2009 เหตุผลอาจจะไม่ลงตรงกันพอดี ก็ต้องคิดในมุมนี้ด้วย แต่ในเวลานี้ผมคงยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เพราะจะเหมือนเป็นการตั้งธงผลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งอาจไม่ยุติธรรมกับหลายฝ่าย ขอให้ดีเอสไอสอบสวนหลายประเด็นให้ครบก่อน จึงจะสามารถพูดอะไรได้ชัดเจนขึ้น” รมว.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนจะยังเชิญผู้มีความรู้หรือมีชื่อเสียงในเรื่องของวัคซีนเข้ามาพูดคุยถึงการวางโครงสร้างของโรงงานวัคซีนในอนาคตจะเป็นอย่างไร รวมถึงตัดสินใจด้วยว่าควรจะเพิ่มวงเงินอีก 45 ล้านบาท ตามที่ อภ.เสนอมาหรือไม่ มีเหตุผลอะไรว่าเพิ่มเงินแล้วจะได้ประโยชน์ หรือเพิ่มแล้วจะเดินหน้าต่ออย่างไร ทั้งทิศทางการผลิตเชื้อเป็นเชื้อตาย ซึ่งตอนนี้เรากำลังเดินหน้าใน 2 เรื่องคือ เรื่องในอดีตที่จะต้องได้รับคำอธิบาย โดยจะเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ และเรื่องในอนาคตที่ต้องมีการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล เพราะขณะนี้โรงงานก่อสร้างล่าช้ามาหลายปีแล้ว