อย.เตือนผลิตภัณฑ์ “ลองกานอยด์” สารสกัดจากเมล็ดลำไยจดแจ้งเป็นเครื่องสำอาง แต่โฆษณาสรรพคุณเกินจริง ใช้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ชี้หากมีงานวิจัยทางยาต้องขึ้นทะเบียนตำรับยา หากไม่ปฏิบัติตามจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า อย.มีนโยบายส่งเสริมการผลิตยาจากสมุนไพรไทยและสนับสนุนผู้ผลิตยาแผนไทยในทุกรูปแบบ เพราะตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาไทยเป็นอย่างดี แต่ขอให้ผู้ประกอบการทุกรายมายื่นขอจดทะเบียนตำรับยากับ อย.ให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าลักลอบโอ้อวดสรรพคุณผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้ขออนุญาตจาก อย.เพราะปัจจุบันพบมีการโฆษณาผลิตภัณฑ์สารสกัดจากเมล็ดลำไย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นวดผิวกายภายใต้ชื่อ “ลองกานอยด์” ผ่านทางสื่อต่างๆ ทั้งเอกสารแผ่นพับ ใบปลิว ใบแทรกในกล่อง ฉลากข้างกล่อง อินเทอร์เน็ต และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย แม้กระทั่งใช้บุคคลในวงการแพทย์ หรือนักวิจัย บรรยายสรรพคุณว่าผลิตภัณฑ์ครีมลองกานอยด์ที่เป็นสารสกัดจากเมล็ดลำไย สามารถช่วยรักษาผู้มีอาการข้อเสื่อม โดยเฉพาะข้อเข่าเสื่อม ซึ่งเป็นเพียงการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น
“ขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากมีวัตถุประสงค์พัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นยา ควรจะดำเนินการขอจดทะเบียนตำรับยากับ อย.เนื่องจาก อย.มีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนการผลิตยาจากสมุนไพรที่มีข้อมูลการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือ ที่ผ่านมายาจากสมุนไพรที่ผ่านการขึ้นทะเบียนตำรับยาจาก อย.แล้ว เช่น ครีมจากไพล, ครีมจากพริก, บัวบก, พญายอ และได้รับการบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติด้วย อย.พร้อมที่จะส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนายาสมุนไพรต่อไป เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยาสมุนไพรให้เป็นทางเลือกในการใช้ยาของประชาชน” เลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.ฐูญชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ “ลองกานอยด์” ที่โฆษณาว่าเป็นสารสกัดจากเมล็ดลำไย ไม่ได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนตำรับยากับ อย.เพียงแต่พบจดแจ้งเป็นเครื่องสำอางที่ใช้ทาและนวดผิวกาย ทั้งนี้ การที่นำมาโฆษณาอวดสรรพคุณในทางยารักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ถือว่าเป็นการโฆษณาสรรพคุณเกินจริงและฝ่าฝืนพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง เพราะตามกฎหมายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาดและเพื่อความสวยงามเท่านั้น หากเป็นยาต้องมีการขึ้นทะเบียนตำรับยา และมีหลักฐานการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือมาประกอบการพิจารณาสนับสนุนการใช้ในสรรพคุณที่กล่าวอ้าง รวมทั้งการโฆษณาสรรพคุณยาทางสื่อต่างๆ ต้องขออนุญาตโฆษณาอย่างถูกต้องตามกฎหมายยา มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
นพ.บุญชัย กล่าวด้วยว่า ขอเตือนมายังผู้พิมพ์/ผู้โฆษณา สื่อต่างๆ ให้ยุติการโฆษณาอวดสรรพคุณผลิตภัณฑ์ลองกานอยด์ในทางยา เพราะหาก อย.ตรวจพบจะถูกดำเนินคดีปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และปรับทุกครั้งที่พบกระทำผิดเช่นกัน นอกจากนี้ อย.ขอความร่วมมือนักวิจัย/นักวิชาการ และสถาบันวิจัยต่างๆ หากมีงานวิจัยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ใด โดยมีการใช้ในสรรพคุณทางยา และต้องการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ขอให้ปรึกษา อย.เพื่อจะได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า อย.มีนโยบายส่งเสริมการผลิตยาจากสมุนไพรไทยและสนับสนุนผู้ผลิตยาแผนไทยในทุกรูปแบบ เพราะตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาไทยเป็นอย่างดี แต่ขอให้ผู้ประกอบการทุกรายมายื่นขอจดทะเบียนตำรับยากับ อย.ให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าลักลอบโอ้อวดสรรพคุณผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้ขออนุญาตจาก อย.เพราะปัจจุบันพบมีการโฆษณาผลิตภัณฑ์สารสกัดจากเมล็ดลำไย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นวดผิวกายภายใต้ชื่อ “ลองกานอยด์” ผ่านทางสื่อต่างๆ ทั้งเอกสารแผ่นพับ ใบปลิว ใบแทรกในกล่อง ฉลากข้างกล่อง อินเทอร์เน็ต และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย แม้กระทั่งใช้บุคคลในวงการแพทย์ หรือนักวิจัย บรรยายสรรพคุณว่าผลิตภัณฑ์ครีมลองกานอยด์ที่เป็นสารสกัดจากเมล็ดลำไย สามารถช่วยรักษาผู้มีอาการข้อเสื่อม โดยเฉพาะข้อเข่าเสื่อม ซึ่งเป็นเพียงการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น
“ขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากมีวัตถุประสงค์พัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นยา ควรจะดำเนินการขอจดทะเบียนตำรับยากับ อย.เนื่องจาก อย.มีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนการผลิตยาจากสมุนไพรที่มีข้อมูลการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือ ที่ผ่านมายาจากสมุนไพรที่ผ่านการขึ้นทะเบียนตำรับยาจาก อย.แล้ว เช่น ครีมจากไพล, ครีมจากพริก, บัวบก, พญายอ และได้รับการบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติด้วย อย.พร้อมที่จะส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนายาสมุนไพรต่อไป เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยาสมุนไพรให้เป็นทางเลือกในการใช้ยาของประชาชน” เลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.ฐูญชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ “ลองกานอยด์” ที่โฆษณาว่าเป็นสารสกัดจากเมล็ดลำไย ไม่ได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนตำรับยากับ อย.เพียงแต่พบจดแจ้งเป็นเครื่องสำอางที่ใช้ทาและนวดผิวกาย ทั้งนี้ การที่นำมาโฆษณาอวดสรรพคุณในทางยารักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ถือว่าเป็นการโฆษณาสรรพคุณเกินจริงและฝ่าฝืนพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง เพราะตามกฎหมายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาดและเพื่อความสวยงามเท่านั้น หากเป็นยาต้องมีการขึ้นทะเบียนตำรับยา และมีหลักฐานการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือมาประกอบการพิจารณาสนับสนุนการใช้ในสรรพคุณที่กล่าวอ้าง รวมทั้งการโฆษณาสรรพคุณยาทางสื่อต่างๆ ต้องขออนุญาตโฆษณาอย่างถูกต้องตามกฎหมายยา มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
นพ.บุญชัย กล่าวด้วยว่า ขอเตือนมายังผู้พิมพ์/ผู้โฆษณา สื่อต่างๆ ให้ยุติการโฆษณาอวดสรรพคุณผลิตภัณฑ์ลองกานอยด์ในทางยา เพราะหาก อย.ตรวจพบจะถูกดำเนินคดีปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และปรับทุกครั้งที่พบกระทำผิดเช่นกัน นอกจากนี้ อย.ขอความร่วมมือนักวิจัย/นักวิชาการ และสถาบันวิจัยต่างๆ หากมีงานวิจัยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ใด โดยมีการใช้ในสรรพคุณทางยา และต้องการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ขอให้ปรึกษา อย.เพื่อจะได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน
