“โรคบวมน้ำเหลือง” ไม่ใช่โรคใหม่ และตามการประเมินของแพทย์ คนไทยป่วยด้วยโรคนี้ประมาณ 2-3 แสนคน ลักษณะของโรค คล้ายโรคเท้าช้างซึ่งเป็นโรคเก่าแก่ของโลก และสามารถเป็นกันได้ทุกเพศทุกวัย คนไข้ที่เคยไปรักษากับแพทย์ อายุเพียงแค่ 2 เดือนก็มี
ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ ผู้อำนวยการสถาบันบุพโพวิทยาแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบุคคลากรทางการแพทย์รายแรกของโลกที่รักษาโรคบวมน้ำเหลืองได้โดยไม่ต้องใช้ยา ให้ความว่า โรคดังกล่าวนี้เกิดจากการถ่ายเทและดูดซับน้ำเหลืองที่ผิดปกติ ทำให้น้ำเหลืองไปค้างอยู่ในน้ำเยื่อจนเกิดการเจิ่งนอง โดยจะปรากฏร่วมกันการขยายตัวและการแพร่พันธุ์ของหลอดน้ำเหลืองอย่างดาษดื่น พบบ่อยที่แขน ขา ใบหน้า หน้าท้อง เต้านม สะโพก ถุงอัณฑะ แคมอวัยวะเพศ
“ในส่วนอาการ จะมีการบวมที่จุดดังกล่าว มากน้อยต่างกันไป แต่เท่าที่เคยพบ บางคนบวมถึงขนาดที่ขาที่บวมหนักถึง 90 กิโลกรัม และมีขนาดเท่ากับโอ่งมังกรใบย่อมๆ เลยทีเดียว แต่โรคนี้ก็มีหลายระดับ หากเป็นระดับผิวๆ ที่น้ำเหลืองมาคั่งที่ผิวด้านนอกจะบวมมากแต่ไม่รู้สึกเจ็บ หากแต่ถ้าเป็นบวมน้ำเหลืองระนาบลึกจะบวมน้อยแต่มีอาการปวดมาก โรคนี้มีวิธีการตรวจที่แน่นอนด้วยการทำเอ็มอาร์ไอเพื่อดูเนื้อเยื่อภายในร่างกาย ส่วนสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดของโรคนี้ก็คือ มีคนจำนวนมากเชื่อว่าโรคนี้รักษาไม่หาย รักษาไม่ได้ และเป็นโรคเวรโรคกรรม ทำให้คนไข้หมดกำลังใจและท้อจนไม่ขวนขวายรักษา
“วิธีรักษา เมื่อมันบวมขึ้นมาเราก็ทำให้มันแฟบลง เมื่อน้ำเหลืองคั่งเราก็บีบมันออก แทบไม่มีคนเชื่อว่าเราจะรักษาโรคยากๆ ด้วยวิธีพื้นฐานและถูกมากอย่างการขันชะเนาะ บางคนที่ปวดมากมาเป็นสิบๆ ปี เราสามารถใช้วิธีนี้ทำให้หายปวดได้ภายใน 2 วินาที ปัญหาก็คือตอนนี้เรามีผู้ป่วยมาก แต่มีผมเป็นหมอคนเดียวที่รักษา นอกนั้นเราได้ผู้ช่วยที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่ศึกษาในโครงการบ้าง หรือผู้ป่วยที่หายแล้วบ้าง ที่ได้รับการอบรมการขันชะเนาะเป็นอย่างดีมาช่วย เรามีคนไข้ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ 19 ประเทศ บินมารักษากับเรา ทำให้ขณะนี้คิวการรักษาแน่นมากไปจนถึงเดือนเมษายน นอกจากนี้ก็มีหลายประเทศที่เจอวิกฤตผู้ป่วยด้วยอาการเช่นนี้ติดต่อมาให้ไปรักษาและอบรมการขันชะเนาะ เราก็ไปให้ จึงอยากให้มีแพทย์หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้อง สนใจวิธีการรักษาแนวนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้พ้นทุกข์ทรมานให้ได้มากที่สุด”
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ นพ.วิชัย แนะนำว่าควรงดอาหารแสลงอย่างเด็ดขาด อาหารแสลงทั้งหมด ได้แก่ ไก่ทอด ไก่ย่าง เอ็นข้อไก่ ซุปไก่ ไข่ไก่ หมู หนังหมู หมูหัน กุ้งแม่น้ำ กุ้งกุลาดำ ลูกชิ้นกุ้ง หอยแครง หอยแมลงภู่ หอยลาย หอยดอง ปูทะเล ปูเค็ม ปลาร้า ปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลาทับทิม ปลากะพง ปลาทู ปลาทูน่า ปลาและไข่ปลาแซลมอน ปลากระป๋อง กะปิ น้ำปลา เป็ด ซุปเป็ด เนื้องู เนื้อเก้ง เนื้อวัว นมวัว นมผง ครีม เนย ชีส พิซซ่า หูฉลาม หมี่สำเร็จรูปรสหมูสับและรสหอยลายผัดฉ่า ไวน์ เบียร์ และเหล้าขาว
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo
ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ ผู้อำนวยการสถาบันบุพโพวิทยาแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบุคคลากรทางการแพทย์รายแรกของโลกที่รักษาโรคบวมน้ำเหลืองได้โดยไม่ต้องใช้ยา ให้ความว่า โรคดังกล่าวนี้เกิดจากการถ่ายเทและดูดซับน้ำเหลืองที่ผิดปกติ ทำให้น้ำเหลืองไปค้างอยู่ในน้ำเยื่อจนเกิดการเจิ่งนอง โดยจะปรากฏร่วมกันการขยายตัวและการแพร่พันธุ์ของหลอดน้ำเหลืองอย่างดาษดื่น พบบ่อยที่แขน ขา ใบหน้า หน้าท้อง เต้านม สะโพก ถุงอัณฑะ แคมอวัยวะเพศ
“ในส่วนอาการ จะมีการบวมที่จุดดังกล่าว มากน้อยต่างกันไป แต่เท่าที่เคยพบ บางคนบวมถึงขนาดที่ขาที่บวมหนักถึง 90 กิโลกรัม และมีขนาดเท่ากับโอ่งมังกรใบย่อมๆ เลยทีเดียว แต่โรคนี้ก็มีหลายระดับ หากเป็นระดับผิวๆ ที่น้ำเหลืองมาคั่งที่ผิวด้านนอกจะบวมมากแต่ไม่รู้สึกเจ็บ หากแต่ถ้าเป็นบวมน้ำเหลืองระนาบลึกจะบวมน้อยแต่มีอาการปวดมาก โรคนี้มีวิธีการตรวจที่แน่นอนด้วยการทำเอ็มอาร์ไอเพื่อดูเนื้อเยื่อภายในร่างกาย ส่วนสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดของโรคนี้ก็คือ มีคนจำนวนมากเชื่อว่าโรคนี้รักษาไม่หาย รักษาไม่ได้ และเป็นโรคเวรโรคกรรม ทำให้คนไข้หมดกำลังใจและท้อจนไม่ขวนขวายรักษา
“วิธีรักษา เมื่อมันบวมขึ้นมาเราก็ทำให้มันแฟบลง เมื่อน้ำเหลืองคั่งเราก็บีบมันออก แทบไม่มีคนเชื่อว่าเราจะรักษาโรคยากๆ ด้วยวิธีพื้นฐานและถูกมากอย่างการขันชะเนาะ บางคนที่ปวดมากมาเป็นสิบๆ ปี เราสามารถใช้วิธีนี้ทำให้หายปวดได้ภายใน 2 วินาที ปัญหาก็คือตอนนี้เรามีผู้ป่วยมาก แต่มีผมเป็นหมอคนเดียวที่รักษา นอกนั้นเราได้ผู้ช่วยที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่ศึกษาในโครงการบ้าง หรือผู้ป่วยที่หายแล้วบ้าง ที่ได้รับการอบรมการขันชะเนาะเป็นอย่างดีมาช่วย เรามีคนไข้ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ 19 ประเทศ บินมารักษากับเรา ทำให้ขณะนี้คิวการรักษาแน่นมากไปจนถึงเดือนเมษายน นอกจากนี้ก็มีหลายประเทศที่เจอวิกฤตผู้ป่วยด้วยอาการเช่นนี้ติดต่อมาให้ไปรักษาและอบรมการขันชะเนาะ เราก็ไปให้ จึงอยากให้มีแพทย์หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้อง สนใจวิธีการรักษาแนวนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้พ้นทุกข์ทรมานให้ได้มากที่สุด”
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ นพ.วิชัย แนะนำว่าควรงดอาหารแสลงอย่างเด็ดขาด อาหารแสลงทั้งหมด ได้แก่ ไก่ทอด ไก่ย่าง เอ็นข้อไก่ ซุปไก่ ไข่ไก่ หมู หนังหมู หมูหัน กุ้งแม่น้ำ กุ้งกุลาดำ ลูกชิ้นกุ้ง หอยแครง หอยแมลงภู่ หอยลาย หอยดอง ปูทะเล ปูเค็ม ปลาร้า ปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลาทับทิม ปลากะพง ปลาทู ปลาทูน่า ปลาและไข่ปลาแซลมอน ปลากระป๋อง กะปิ น้ำปลา เป็ด ซุปเป็ด เนื้องู เนื้อเก้ง เนื้อวัว นมวัว นมผง ครีม เนย ชีส พิซซ่า หูฉลาม หมี่สำเร็จรูปรสหมูสับและรสหอยลายผัดฉ่า ไวน์ เบียร์ และเหล้าขาว
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo