xs
xsm
sm
md
lg

ส.ค.ศ.ท.ร่อน จม.เปิดผนึกแนะปรับหลักสูตรพื้นฐาน ชู 3 ทางเลือกแก้ปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธาน ส.ค.ศ.ท.ร่อน จม.เปิดผนึกแสดงความเห็นปรับหลักสูตรการศึกษาพื้นฐาน แนะต้องให้เด็กรู้จักตนเองและเลือกอีกก่อนจบภาคบังคับ พร้อมเสนอ 3 ช่องทางเป็นทางเลือกแก้ปัญหาว่างงาน-พัฒนาคุณภาพบัณฑิต

ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในฐานะประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) เปิดเผยว่า ตนได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงสื่อมวลชนเพื่อเสนอความเห็นผ่านไปยังคณะกรรมการปฏิรูป หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายว่าหลักสูตรที่เหมาะสมจะต้องช่วยให้เด็กรู้จักตนเอง และเลือกอาชีพได้ก่อนที่จะจบการศึกษาภาคบังคับในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจากนั้นให้เลือกเรียนในสายที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพ ความถนัด ความสนใจ ความสามารถ และจะทำให้มีงานทำเลี้ยงชีพได้ ทั้งนี้ ได้เสนอว่าภายหลังจากนักเรียนสำเร็จการศึกษาภาคบังคับแล้วควรเปิดทางเลือก ให้แก่นักเรียน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.สายวิชาการหรือวิชาชีพชั้นสูง เช่น แพทย์ เภสัชกร พยาบาล ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ นักกฎหมาย ครู วิศวกร สถาปนิก นักวิชาการบัญชี นักวิทยาศาสตร์ นักปกครอง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย บริหารธุรกิจ การจัดการ เป็นต้น

2.สายอาชีพหรืออาชีวศึกษา เช่น ช่างอุตสาหกรรม ช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ช่างโยธา ช่างเทคนิคทางการเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร ช่างอุตสาหกรรมรถยนต์ ช่างเครื่องกล ช่างโลหะ ช่างต่อเรือ นักบัญชีและพณิชยกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสายอาชีพเฉพาะทาง เช่น ตำรวจ ทหาร ผู้ช่วยพยาบาล เป็นต้น และ 3.สายการประกอบอาชีพ สำหรับผู้มีความสามารถ ความถนัดเป็นพิเศษ เช่น นักกีฬา (กอล์ฟ เทนนิส ฯลฯ) ศิลปินนักร้องนักแสดง ช่างฝีมือพิเศษ ซึ่งจะเข้าสู่การประกอบอาชีพมีรายได้เลี้ยงชีพหรือพึ่งตนเองได้อย่างมั่นคง ได้เลย

หลักสูตรและการเรียนการสอน จะต้องช่วยให้นักเรียนรู้จักตนเองและเลือกอาชีพมีงานทำเลี้ยงชีพได้ เพราะปัญหาในปัจจุบันคือเด็กไม่รู้จักตนเอง ครูก็ไม่รู้จักนักเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองก็เช่นกันทำให้ต้องส่งให้ลูกเรียนสายสามัญไว้ก่อน เพราะต้องจบปริญญาตรีให้ได้ แต่ในที่สุดก็จะกลายเป็นบัณฑิตตกงาน แต่หากผู้เรียนต้องการทำงานสายวิชาการ หรือวิชาชีพชั้นสูง ก็ให้เข้าเรียนสายสามัญศึกษา ซึ่งควรกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 40 ของนักเรียนทั้งประเทศ ส่วนผู้ที่ต้องการมีอาชีพให้เข้าเรียนสายอาชีพหรืออาชีวศึกษา ส่วนสายการประกอบอาชีพสามารถเรียนรู้นอกระบบและตามอัธยาศัยในขณะประกอบอาชีพได้” ผศ.ดร.สุรวาท กล่าว อย่างไรก็ตาม 3 ช่องทางดังกล่าวจะต้องมีระบบที่เปิดโอกาสให้ศึกษาต่อจนถึงระดับปริญญาเอกได้

ผศ.ดร.สุ รวาท กล่าวต่อว่า เหตุที่ตนทำจดหมายเปิดผนึกเพราะตนเห็นว่าหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะเป็นตัวกำหนด เป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหา เป็นปัจจัยของความสำเร็จหรือป้องกันปัญหาต่างๆ ของประเทศ หากตราบใดที่นักเรียนสายสามัญศึกษายังมีมากกว่าร้อยละ 60 เหมือนเช่นปัจจุบัน ปัญหาต่างๆ ก็จะยังคงเกิดขึ้น ทั้งปัญหาการแย่งชิงที่เรียนของเด็กมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ หรือนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาสายสามัญ ไม่สามารถเข้าทำงานได้ จำเป็นต้องเรียนต่อในระดับปริญญาตรี โดยเฉพาะปริญญาตรีทางสังคม เพราะมหาวิทยาลัยไม่สามารถเปิดสอนปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรือวิทยาศาสตร์สุขภาพได้มากพอ ก่อให้เกิดมหาวิทยาลัยจำนวนมากที่ไร้คุณภาพรับนักศึกษาไม่จำกัดจำนวน ผู้สำเร็จการศึกษา ต้องเข้าคิวตกงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น