“พระพยอม” เตือนรัฐบาลหยุดพนันเก่าไม่ได้ อย่าเพิ่มพนันใหม่ ลั่นยอมให้วัดร้างดีกว่าคนข้างวัดเลว จี้พระสงฆ์เลิกใบ้หวย ด้านเอแบคโพลล์เผย พระรับรู้ปัญหาชาวบ้านเล่นพนัน เหตุชอบเสี่ยงโชค หวังรวยทางลัด สุดท้ายก่อหนี้สิน ครอบครัวเดือดร้อน ค้านรัฐผุดหวยตู้ เชื่อทำคนงมงาย บ่มเพาะอบายมุข ไม่ช่วยแก้ปัญหาหวยใต้ดิน แนะควบคุมปราบพนันจริงจัง
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวในการเสวนา “ความเสื่อมกับการพนันในทางพุทธศาสนา” ระหว่างงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรมรณรงค์ “วัดปลอดพนัน” จัดโดยเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับ มูลนิธิเครือข่ายครอบครัวและภาคี มี 35 วัดในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเขตภาคกลางเข้าร่วม ว่า มูลนิธิฯ ร่วมกับศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบคโพลล์) สำรวจความคิดเห็น “พระสงฆ์คิดอย่างไรกับการพนันของญาติโยม” ในพระสงฆ์อายุ 20-39 ปี จำนวน 909 รูป จาก 4 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา พบว่า พระสงฆ์ 50.9% รับทราบปัญหาในชุมชน โดยมี 3 สาเหตุหลักคือ ความยากจน ยาเสพติด และการพนัน นอกจากนี้ ยังพบเห็นความเดือนร้อนของชาวบ้านที่เกิดจากการเล่นพนันคือ 56.2% ต้องกู้หนี้ยืมสิน 19.1% ทะเลาะวิวาท 18.8% ขโมย 14.5% ปัญหาครอบครัว 9.4% ฆ่าชิงทรัพย์/ทำร้ายร่างกาย เมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำให้ชาวบ้านเล่นหวย 59.8% ระบุว่า ชอบเสี่ยงโชค 50.6% หวังรวยทางลัด สำหรับการเสี่ยงโชคที่ชาวบ้านนิยมเล่นมากที่สุดคือ 79% สลากกินแบ่งรัฐบาล 77% หวยใต้ดิน 30%สลากออมสิน 20% หวยบนดิน
“พระสงฆ์มากกว่า 92% รับรู้ว่าการเล่นหวยเป็นสิ่งที่ผิดหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และไม่เห็นด้วยกับการเล่นการพนันหรือมีแหล่งพนันเกิดขึ้นในวัด นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยหากจะมีการเปิดจำหน่ายสลากอัตโนมัติที่ถูกฎหมาย เนื่องจากเป็นสิ่งไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสีย เป็นแหล่งบ่มเพาะอบายมุขและผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย หลอกลวง งมงาย มอมเมาประชาชน และนำไปสู่หนี้สิน ปัญหาอาชญากรรมตามมา” นางฐาณิชชา กล่าว
เมื่อถามถึงการนำหวยตู้มาจำหน่ายเพื่อแก้ปัญหาหวยใต้ดิน พระสงฆ์ 78.3% ไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้ ขณะที่เกินครึ่ง หรือ 57.5% ระบุว่าไม่เหมาะสมหากมีนโยบายตั้งตู้ขายสลากออนไลน์ (หวยตู้) ห่างจากรั้ววัดเพียง 50 เมตร โดยมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหวย คือ 43.5% ต้องการให้ปราบปรามการเล่นหวยที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง 23% ต้องการให้ยกเลิกหวยทุกชนิด 11.7% สอดส่องดูแล/ปลูกจิตสำนึก 7.1% ปลูกฝังสถาบันครอบครัว และ 5.4% เลิกออกสลากกินแบ่งรัฐบาล/ถ้าพบเพิ่มโทษหนัก
นางฐาณิชชา กล่าวต่อว่า จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า วัดกับชาวบ้านใกล้ชิดกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และพระสงฆ์ก็รับรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อนจากการเล่นพนันของชาวบ้านในชุมชน โดยเฉพาะเรื่องการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มักมีตัวเลขทิ้งห่างจากการพนันรูปแบบอื่นที่ชาวบ้านนิยมเล่น ที่สำคัญสิ่งที่พระสงฆ์ให้เหตุผลกับเรื่องที่ชาวบ้านเล่นหวย อันดับแรกๆ คือ เสี่ยงโชค รวยทางลัด เห็นคนใกล้ชิดในครอบครัวเล่น ทำให้เห็นว่าคนยังมีเรื่องที่เป็นความต้องการ หรือมีกิเลส สุดท้ายปัญหาที่ตามมาคือ หนี้สินและปัญหาครอบครัว นอกจากนี้ การที่รัฐบาลจะนำหวยตู้มาแก้ปัญหาสลากเกินราคา กลุ่มตัวอย่างยังสะท้อนชัดเจนว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ยิ่งจะทำให้ประชาชนเล่นพนันมากขึ้น มอมเมางมงายมากขึ้น และต้องการให้แก้ปัญหาโดยเร่งควบคุมดูแลปราบปรามอย่างจริงจัง
ด้าน พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า บทบาทของสถาบันศาสนาต้องช่วยให้ปัญหาการพนันไม่เป็นภัยร้ายต่อสังคม ที่วัดสวนแก้วมีนโยบายห้ามเล่นการพนันและห้ามขายหวยในบริเวณวัดอย่างเด็ดขาด ใครเข้ามาขายจะถูกไล่ หรือหากผู้มาปฏิบัติธรรมซื้อหวยก็จะไล่ให้กลับบ้าน เพราะไม่ต้องการให้อบายมุขครอบงำประชาชน และทางวัดจะไม่อาศัยอบายมุขเป็นที่มาของทรัพย์ ดังนั้นนโยบายของวัดที่ดีต้องชัดเจน ไม่ใช่เอาเรื่องอบายมุขนำหน้าเอาหลักธรรมไว้ข้างหลัง เช่น หากวัดมีนโยบายหาเงินเข้าวัด ด้วยการจับสลาก สอยดาว ชิงรางวัล ผลสุดท้ายก็กลายเป็นการปลูกฝังค่านิยมการเล่นพนันให้กับชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม อาตมาอยากเสนอให้ทางคณะสงฆ์มีนโยบายให้ชัดเจน ว่าวัดต้องไม่มีอบายมุข ไม่มีการพนันทุกรูปแบบ วัดต้องมีหลักการหารายได้เข้าวัดโดยที่ไม่อิงอบายมุข
“การปล่อยให้วัดร้างดีกว่าให้คนข้างวัดเลว เพราะถ้าวัดได้เงินบริจาคจากคนที่เอาดีไม่ได้ด้วยการเล่นพนันมันยิ่งดูแย่ และพระสงฆ์ก็ไม่ควรใบ้หวย เพราะจะเข้าทำนองฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมาเจอกัน จึงไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้จะดีกว่า เพราะเมื่อเล่นเสียก็ปลอบใจตัวเองจึงเป็นการพายเรือในอ่างเป็นวัฏจักรที่คนฉลาดไม่ทำกัน ยิ่งถ้ารัฐบาลจะเพิ่มรูปแบบการเล่นพนันชนิดใหม่ๆ อาตมาไม่เห็นด้วยและขอเสนอว่า ถ้ารัฐบาลแน่จริงต้องกำจัดบ่อนทั้งหลายให้ได้ก่อน ถ้าลดการพนันเดิมลงได้ก็จะดีมาก แต่ถ้าเพิ่มการพนันทุกรูปแบบในเวลาเดียวกัน สุดท้ายผู้ได้รับผลกระทบก็คือประชาชน อาตมารับไม่ได้” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าว
พระพยอม กล่าวอีกว่า การพนันถือเป็นอบายมุข ทำให้ฉิบหาย หรือเรียกอีกอย่างว่าทางเสื่อม เสื่อมทรัพย์ เสื่อมสุขภาพ หากเล่นการพนันถือเป็นการฆ่าความเป็นมนุษย์ภาพลักษณ์ที่น่านับถือย่อมหมดไป และทำลายความสุข สติปัญญาในการประกอบอาชีพ ดังคำโบราณที่ว่าไว้ โจรปล้นบ้าน บ้านยังอยู่ ไฟไหม้บ้านที่ดินยังอยู่ แต่ถ้าผีการพนันเข้าสิง สามารถเอาบ้านเอาที่ดินไปจำนำได้ แม้มนุษย์จะถือว่าเป็นผู้มีใจสูง แต่พอเล่นการพนัน จิตใจก็สูงไม่ได้ เพราะความโลภอยากได้อยากชนะ ถ้าแพ้ก็โกรธ ร้อนรุ่มกลุ้มทุกข์
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวในการเสวนา “ความเสื่อมกับการพนันในทางพุทธศาสนา” ระหว่างงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรมรณรงค์ “วัดปลอดพนัน” จัดโดยเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับ มูลนิธิเครือข่ายครอบครัวและภาคี มี 35 วัดในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเขตภาคกลางเข้าร่วม ว่า มูลนิธิฯ ร่วมกับศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบคโพลล์) สำรวจความคิดเห็น “พระสงฆ์คิดอย่างไรกับการพนันของญาติโยม” ในพระสงฆ์อายุ 20-39 ปี จำนวน 909 รูป จาก 4 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา พบว่า พระสงฆ์ 50.9% รับทราบปัญหาในชุมชน โดยมี 3 สาเหตุหลักคือ ความยากจน ยาเสพติด และการพนัน นอกจากนี้ ยังพบเห็นความเดือนร้อนของชาวบ้านที่เกิดจากการเล่นพนันคือ 56.2% ต้องกู้หนี้ยืมสิน 19.1% ทะเลาะวิวาท 18.8% ขโมย 14.5% ปัญหาครอบครัว 9.4% ฆ่าชิงทรัพย์/ทำร้ายร่างกาย เมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำให้ชาวบ้านเล่นหวย 59.8% ระบุว่า ชอบเสี่ยงโชค 50.6% หวังรวยทางลัด สำหรับการเสี่ยงโชคที่ชาวบ้านนิยมเล่นมากที่สุดคือ 79% สลากกินแบ่งรัฐบาล 77% หวยใต้ดิน 30%สลากออมสิน 20% หวยบนดิน
“พระสงฆ์มากกว่า 92% รับรู้ว่าการเล่นหวยเป็นสิ่งที่ผิดหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และไม่เห็นด้วยกับการเล่นการพนันหรือมีแหล่งพนันเกิดขึ้นในวัด นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยหากจะมีการเปิดจำหน่ายสลากอัตโนมัติที่ถูกฎหมาย เนื่องจากเป็นสิ่งไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสีย เป็นแหล่งบ่มเพาะอบายมุขและผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย หลอกลวง งมงาย มอมเมาประชาชน และนำไปสู่หนี้สิน ปัญหาอาชญากรรมตามมา” นางฐาณิชชา กล่าว
เมื่อถามถึงการนำหวยตู้มาจำหน่ายเพื่อแก้ปัญหาหวยใต้ดิน พระสงฆ์ 78.3% ไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้ ขณะที่เกินครึ่ง หรือ 57.5% ระบุว่าไม่เหมาะสมหากมีนโยบายตั้งตู้ขายสลากออนไลน์ (หวยตู้) ห่างจากรั้ววัดเพียง 50 เมตร โดยมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหวย คือ 43.5% ต้องการให้ปราบปรามการเล่นหวยที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง 23% ต้องการให้ยกเลิกหวยทุกชนิด 11.7% สอดส่องดูแล/ปลูกจิตสำนึก 7.1% ปลูกฝังสถาบันครอบครัว และ 5.4% เลิกออกสลากกินแบ่งรัฐบาล/ถ้าพบเพิ่มโทษหนัก
นางฐาณิชชา กล่าวต่อว่า จากผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า วัดกับชาวบ้านใกล้ชิดกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และพระสงฆ์ก็รับรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อนจากการเล่นพนันของชาวบ้านในชุมชน โดยเฉพาะเรื่องการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มักมีตัวเลขทิ้งห่างจากการพนันรูปแบบอื่นที่ชาวบ้านนิยมเล่น ที่สำคัญสิ่งที่พระสงฆ์ให้เหตุผลกับเรื่องที่ชาวบ้านเล่นหวย อันดับแรกๆ คือ เสี่ยงโชค รวยทางลัด เห็นคนใกล้ชิดในครอบครัวเล่น ทำให้เห็นว่าคนยังมีเรื่องที่เป็นความต้องการ หรือมีกิเลส สุดท้ายปัญหาที่ตามมาคือ หนี้สินและปัญหาครอบครัว นอกจากนี้ การที่รัฐบาลจะนำหวยตู้มาแก้ปัญหาสลากเกินราคา กลุ่มตัวอย่างยังสะท้อนชัดเจนว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ยิ่งจะทำให้ประชาชนเล่นพนันมากขึ้น มอมเมางมงายมากขึ้น และต้องการให้แก้ปัญหาโดยเร่งควบคุมดูแลปราบปรามอย่างจริงจัง
ด้าน พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า บทบาทของสถาบันศาสนาต้องช่วยให้ปัญหาการพนันไม่เป็นภัยร้ายต่อสังคม ที่วัดสวนแก้วมีนโยบายห้ามเล่นการพนันและห้ามขายหวยในบริเวณวัดอย่างเด็ดขาด ใครเข้ามาขายจะถูกไล่ หรือหากผู้มาปฏิบัติธรรมซื้อหวยก็จะไล่ให้กลับบ้าน เพราะไม่ต้องการให้อบายมุขครอบงำประชาชน และทางวัดจะไม่อาศัยอบายมุขเป็นที่มาของทรัพย์ ดังนั้นนโยบายของวัดที่ดีต้องชัดเจน ไม่ใช่เอาเรื่องอบายมุขนำหน้าเอาหลักธรรมไว้ข้างหลัง เช่น หากวัดมีนโยบายหาเงินเข้าวัด ด้วยการจับสลาก สอยดาว ชิงรางวัล ผลสุดท้ายก็กลายเป็นการปลูกฝังค่านิยมการเล่นพนันให้กับชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม อาตมาอยากเสนอให้ทางคณะสงฆ์มีนโยบายให้ชัดเจน ว่าวัดต้องไม่มีอบายมุข ไม่มีการพนันทุกรูปแบบ วัดต้องมีหลักการหารายได้เข้าวัดโดยที่ไม่อิงอบายมุข
“การปล่อยให้วัดร้างดีกว่าให้คนข้างวัดเลว เพราะถ้าวัดได้เงินบริจาคจากคนที่เอาดีไม่ได้ด้วยการเล่นพนันมันยิ่งดูแย่ และพระสงฆ์ก็ไม่ควรใบ้หวย เพราะจะเข้าทำนองฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมาเจอกัน จึงไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้จะดีกว่า เพราะเมื่อเล่นเสียก็ปลอบใจตัวเองจึงเป็นการพายเรือในอ่างเป็นวัฏจักรที่คนฉลาดไม่ทำกัน ยิ่งถ้ารัฐบาลจะเพิ่มรูปแบบการเล่นพนันชนิดใหม่ๆ อาตมาไม่เห็นด้วยและขอเสนอว่า ถ้ารัฐบาลแน่จริงต้องกำจัดบ่อนทั้งหลายให้ได้ก่อน ถ้าลดการพนันเดิมลงได้ก็จะดีมาก แต่ถ้าเพิ่มการพนันทุกรูปแบบในเวลาเดียวกัน สุดท้ายผู้ได้รับผลกระทบก็คือประชาชน อาตมารับไม่ได้” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าว
พระพยอม กล่าวอีกว่า การพนันถือเป็นอบายมุข ทำให้ฉิบหาย หรือเรียกอีกอย่างว่าทางเสื่อม เสื่อมทรัพย์ เสื่อมสุขภาพ หากเล่นการพนันถือเป็นการฆ่าความเป็นมนุษย์ภาพลักษณ์ที่น่านับถือย่อมหมดไป และทำลายความสุข สติปัญญาในการประกอบอาชีพ ดังคำโบราณที่ว่าไว้ โจรปล้นบ้าน บ้านยังอยู่ ไฟไหม้บ้านที่ดินยังอยู่ แต่ถ้าผีการพนันเข้าสิง สามารถเอาบ้านเอาที่ดินไปจำนำได้ แม้มนุษย์จะถือว่าเป็นผู้มีใจสูง แต่พอเล่นการพนัน จิตใจก็สูงไม่ได้ เพราะความโลภอยากได้อยากชนะ ถ้าแพ้ก็โกรธ ร้อนรุ่มกลุ้มทุกข์