xs
xsm
sm
md
lg

เดินหน้างาน Donor Care ดูแลผู้บริจาคเลือดค้นหาพาหะธาลัสซีเมีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พบเกินครึ่งคนบริจาคเลือดให้สภากาชาดแค่ปีละครั้ง เพราะเลือดจาง เหตุผู้บริจาคส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่มักมีประจำเดือนมากกว่าปกติ พ่วงพาหะธาลัสซีเมีย ดันงาน Donor Care ดูแลผู้บริจาค ค้นหาพาหะธาลัสซีเมีย
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
พ.อ.นพ.ดำรง เชี่ยวศิลป์ ที่ปรึกษาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กล่าวในการประชุมวิชาการงานบริการโลหิตระดับชาติ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2556 เมื่อเร็วๆ นี้ เรื่อง “Donor Care” ว่า จากการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริจาคของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ พบว่า มีผู้บริจาค 3 แสนกว่าคน เป็นผู้หญิงประมาณ 60% ผู้ชายประมาณ 40% เกินกว่าครึ่งบริจาคโลหิตเพียงปีละ 1 ครั้ง สาเหตุสำคัญที่บริจาคไม่ได้เพราะ โลหิตจาง ซึ่งมีประมาณ 7-10% ของผู้บริจาคทั้งหมด หรือประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ที่บริจาคไม่ได้ โดย 80-90% เป็นผู้หญิง เนื่องจากเสียโลหิตประจำเดือนมากกว่าปกติ นอกจากนี้ 70-80% ของผู้บริจาคที่โลหิตจางเป็นพาหะของโลหิตจางธารัสซีเมีย ซึ่งในคนไทยปกติจะพบการเป็นพาหะโรคนี้ 40-50%

พ.อ.นพ.ดำรง กล่าวอีกว่า งาน Donor Care หรือการดูแลผู้บริจาคโลหิต จึงเป็นงานสำคัญ เพราะผู้บริจาคไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ผู้ปฏิบัติงานในงานบริการโลหิต ก็ควรจะต้องดูแลผู้บริจาค หรือ Care Donor ให้ความรัก ผูกพันและห่วงใยให้การดูแล สนใจและเอาใจใส่ให้เกิดความประทับใจ และเพื่อให้เข้ากับมาตรฐาน GMP มีความระมัดระวังให้บริการมีคุณภาพและปลอดภัย เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นจะโดยประมาทหรือเป็นอุบัติเหตุ หรือความไม่รู้ก็ต้องให้ความช่วยเหลือและรักษาพยาบาลเต็มความสามารถ และจะต้องขวนขวายหาความรู้เพิ่มขึ้นเมื่อพบกับปัญหาที่ยังไม่เข้าใจและแก้ไขไม่ได้ ซึ่งภารกิจแรกของงาน Donor Care ในขณะนี้คือ การตรวจความสมบูรณ์ของเลือดในผู้ที่พบว่าโลหิตจาง และตรวจภาวะยีนแฝงธารัสซีเมีย เมื่อสงสัยรวมทั้งตรวจหาปริมาณเหล็กสะสม (serum ferritin) ในผู้บริจาคที่พบโลหิตจางและผู้สูงอายุ และจะขยายไปจนครอบคลุมผู้บริจาคทุกคนปีละครั้งเมื่อมีโอกาส ซึ่งโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็กนอกจากทำให้บริจาคโลหิตไม่ได้แล้วยังทำให้เม็ดโลหิตแดงจับกับออกซิเจนได้น้อยลง และยังทำให้น้ำเหลืองมีสีเขียวไม่ได้มาตรฐาน เพราะมีสารเซรูโลพลาสมิน (Ceruloplasmin) เพิ่มขึ้น เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น