กรมควบคุมโรคเผยยอดป่วยทางเดินอาหารปี 55 สูงกว่า 1.1 ล้านคน เป็นโรคท้องร่วงถึง 90% เหตุน้ำแข็ง อาหาร ไม่สะอาด แนะดื่มน้ำแช่เย็นดีกว่าผสมน้ำแข็ง
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การเจ็บป่วยของประชาชนด้วยระบบทางเดินอาหารในปี 2555 พบว่า มีผู้ป่วยทั้งหมด 1,164,902 ราย เสียชีวิต 38 ราย โรคที่พบมากอันดับ 1 กว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยทั้งหมด ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน จำนวน 1 ล้านกว่าราย เสียชีวิต 37 ราย รองลงมา คือ โรคอาหารเป็นพิษ พบผู้ป่วยประมาณ 98,000 ราย เสียชีวิต 1 ราย และโรคบิด จำนวน 5,645 ราย และสอดคล้องกับขณะนี้ที่มีสภาพอากาศร้อนจัดส่งผลให้มีผู้ป่วยมารักษาด้วยอาการอาหารเป็นพิษเยอะกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดท้องร่วงมาจากหลายปัจจัย อาทิ น้ำแข็ง เนื่องจากอาการร้อนทำให้ประชาชนซื้อน้ำแข็งมาผสมกับน้ำดื่มและหากน้ำที่นำมาทำน้ำแข็งไม่สะอาดก็จะทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการท้องร่วงได้ ดังนั้น การเลือกน้ำแข็งมารับประทาน ควรซื้อน้ำแข็งที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพราะผ่านการตรวจสอบมาแล้วว่าน้ำที่ใช้ในการผลิตสะอาดและได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม สำหรับร้านค้าที่ซื้อน้ำแข็งคิวบดควรเลือกซื้อกับแหล่งผลิตที่สะอาดด้วยเช่นกัน เนื่องจากเครื่องบดเองถ้าไม่มีมาตรฐานจะเป็นแหล่งรวมโรค เพราะฉะนั้นอยากแนะนำให้ประชาชนดื่มน้ำที่แช่เย็นมากกว่าผสมกินกับน้ำแข็ง
นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า อาหาร การกินอาหารควรกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หากซื้ออาหารสำเร็จรูปมารับประทานก็ควรรับประทานให้หมดในครั้งเดียวไม่ควรนำกลับมารับประทานอีกหากอาหารเหลือ เนื่องจากช่วงนี้อาหารถ้าหางปล่อยอาหารทิ้งไว้เพียง 2-3 ชั่วโมง อาหารก็บูดแล้ว โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ ทั้งนี้การรับประทานอาหารควรกินร้อน ช้อนกลางและล้างมือก่อนทุกครั้งและทำให้เป็นนิสัยเพราะวิธีนี้สามารถช่วยป้องกันได้ในเบื้องต้น อย่างไรก็ตามหากใครมีอาการท้องร่วงแต่ไม่มีไข้ก็ให้รับประทานเกลือแร่ แต่ถ้าไม่มีเกลือแร่ ก็ให้ผสมน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะกับเกลือ 1 ช้อนชา และน้ำ 750 ซีซี ก็สามารถใช้แทนเกลือแร่ได้ ส่วนคนที่มีไข้ร่วมด้วยควรรีบพบแพทย์ และในการท้องร่วงในวันแรกควรเลือกทานอาหารที่ อ่อนๆ ก่อน
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การเจ็บป่วยของประชาชนด้วยระบบทางเดินอาหารในปี 2555 พบว่า มีผู้ป่วยทั้งหมด 1,164,902 ราย เสียชีวิต 38 ราย โรคที่พบมากอันดับ 1 กว่าร้อยละ 90 ของผู้ป่วยทั้งหมด ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน จำนวน 1 ล้านกว่าราย เสียชีวิต 37 ราย รองลงมา คือ โรคอาหารเป็นพิษ พบผู้ป่วยประมาณ 98,000 ราย เสียชีวิต 1 ราย และโรคบิด จำนวน 5,645 ราย และสอดคล้องกับขณะนี้ที่มีสภาพอากาศร้อนจัดส่งผลให้มีผู้ป่วยมารักษาด้วยอาการอาหารเป็นพิษเยอะกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดท้องร่วงมาจากหลายปัจจัย อาทิ น้ำแข็ง เนื่องจากอาการร้อนทำให้ประชาชนซื้อน้ำแข็งมาผสมกับน้ำดื่มและหากน้ำที่นำมาทำน้ำแข็งไม่สะอาดก็จะทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการท้องร่วงได้ ดังนั้น การเลือกน้ำแข็งมารับประทาน ควรซื้อน้ำแข็งที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพราะผ่านการตรวจสอบมาแล้วว่าน้ำที่ใช้ในการผลิตสะอาดและได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม สำหรับร้านค้าที่ซื้อน้ำแข็งคิวบดควรเลือกซื้อกับแหล่งผลิตที่สะอาดด้วยเช่นกัน เนื่องจากเครื่องบดเองถ้าไม่มีมาตรฐานจะเป็นแหล่งรวมโรค เพราะฉะนั้นอยากแนะนำให้ประชาชนดื่มน้ำที่แช่เย็นมากกว่าผสมกินกับน้ำแข็ง
นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า อาหาร การกินอาหารควรกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หากซื้ออาหารสำเร็จรูปมารับประทานก็ควรรับประทานให้หมดในครั้งเดียวไม่ควรนำกลับมารับประทานอีกหากอาหารเหลือ เนื่องจากช่วงนี้อาหารถ้าหางปล่อยอาหารทิ้งไว้เพียง 2-3 ชั่วโมง อาหารก็บูดแล้ว โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของกะทิ ทั้งนี้การรับประทานอาหารควรกินร้อน ช้อนกลางและล้างมือก่อนทุกครั้งและทำให้เป็นนิสัยเพราะวิธีนี้สามารถช่วยป้องกันได้ในเบื้องต้น อย่างไรก็ตามหากใครมีอาการท้องร่วงแต่ไม่มีไข้ก็ให้รับประทานเกลือแร่ แต่ถ้าไม่มีเกลือแร่ ก็ให้ผสมน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะกับเกลือ 1 ช้อนชา และน้ำ 750 ซีซี ก็สามารถใช้แทนเกลือแร่ได้ ส่วนคนที่มีไข้ร่วมด้วยควรรีบพบแพทย์ และในการท้องร่วงในวันแรกควรเลือกทานอาหารที่ อ่อนๆ ก่อน