สภา กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาก่อสร้างถนนเลียบคลองทวีวัฒนา หลังชาวบ้านร้องเรียนผู้รับเหมา
วันนี้ (22 มี.ค.)นายสุไหง แสวงสุข สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) เขตทวีวัฒนา ในฐานะประธานคณะกรรมการโยธาและผังเมือง สภา กทม.พร้อมคณะ ประชุมและลงพื้นที่ตรวจปัญหาการก่อสร้างถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ช่วงถนนอุทยานถึงถนนเพชรเกษม โดยมีผู้บริหารสำนักการโยธา สำนักงานเขตทวีวัฒนา และผู้เกี่ยวข้องร่วมชี้แจง ณ ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา
นายสุไหง กล่าวว่า โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ช่วงถนนอุทยานถึงถนนเพชรเกษม เป็นระยะทาง 8.50 กม.โดยสำนักการโยธา กทม.ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อปรับปรุงถนนและทางเท้าเพื่อแก้ไขปัญหาจราจร และแก้ปัญหาน้ำท่วมรวมทั้งปรับภูมิทัศน์ในพื้นที่ โดยมีการขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร ก่อสร้างเกาะกลางถนน ทางจักรยาน ระบบระบายน้ำ ติดตั้งป้ายและระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ปรับปรุงสะพาน 12 แห่ง ก่อสร้างและปรับปรุงสะพานข้ามคลองและถนนทวีวัฒนาตามแนวถนนพุทธมณฑลสาย 3 โดยโครงการทั้งหมดใช้งบประมาณทั้งสิ้น 355 ล้านบาท มีความคืบหน้า 39% วางระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จ เดือนมกราคม 2557
ทั้งนี้จากการก่อสร้างมีประชาชนในพื้นที่ได้มีการสอบถามและร้องเรียนถึงปัญหาทางเชื่อมคอสะพานข้ามคลองที่ผู้รับเหมาได้ทำการรื้อถนนทางเชื่อมคอสะพานเพื่อฝังท่อระบบสาธารณูปโภค ยังไม่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมาในพื้นที่ ทั้งนี้ทางคณะกรรมการตั้งข้อสังเกตถึงความรับผิดชอบในการดำเนินการ ควรเร่งแก้ไขปัญหาพื้นทางเชื่อมโดยการถมหินคลุกหรือถนนลาดยาง (แอสฟัลต์) เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน นอกจากนี้ควรเตรียมดินและพื้นที่เพื่อปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ และดอกไม้สวยงามก่อนส่งมอบงานให้สำนักงานเขตดำเนินการปลูกต้นไม้ รวมทั้งควรปรับพื้นที่และกำหนดป้ายจุดรับส่งรถบริการตลอดเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน อีกทั้งผู้รับเหมาควรถมพื้นดินและก่อสร้างทางเดินเท้าให้มีมาตรฐานเพื่อไม่ให้พื้นมีการทรุดตัว เนื่องจากเคยเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
นายสุไหง กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สำนักการโยธาต้องเร่งรัดผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการให้เสร็จทันกำหนด ทั้งนี้ทางคณะกรรมการโยธาและผังเมือง สภา กทม.จะติดตามการแก้ไขปัญหาของสำนักการโยธาและผู้รับเหมา รวมทั้งจะเชิญหน่วยงานภายนอก อาทิ ประปานครหลวง องค์การโทรศัพท์ การไฟฟ้านครหลวง และหน่วยงานของ กทม.เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ได้ตั้งข้อสังเกตสำนักการโยธาควรปรับปรุงการทำงานให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ควรบูรณาการการทำงานเพื่อให้มีความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาเนื่องจากต้องรับผิดชอบถนนและทางเท้าต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงจำเป็นต้องมีการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล อีกทั้งการควบคุมผู้รับเหมาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเนื้องานล่าช้ากว่ากำหนด นอกจากนี้ควรเข้มงวดกับผู้รับเหมาในการดำเนินการแก้ปัญหาสาธารณูปโภคเพื่อไม่ให้นำมาเป็นข้ออ้างในการดำเนินการ อีกทั้งควรพิจารณาผู้รับเหมาที่มีความรับผิดชอบซึ่งจะทำให้ กทม.มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหามากขึ้น
วันนี้ (22 มี.ค.)นายสุไหง แสวงสุข สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) เขตทวีวัฒนา ในฐานะประธานคณะกรรมการโยธาและผังเมือง สภา กทม.พร้อมคณะ ประชุมและลงพื้นที่ตรวจปัญหาการก่อสร้างถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ช่วงถนนอุทยานถึงถนนเพชรเกษม โดยมีผู้บริหารสำนักการโยธา สำนักงานเขตทวีวัฒนา และผู้เกี่ยวข้องร่วมชี้แจง ณ ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา
นายสุไหง กล่าวว่า โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ช่วงถนนอุทยานถึงถนนเพชรเกษม เป็นระยะทาง 8.50 กม.โดยสำนักการโยธา กทม.ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อปรับปรุงถนนและทางเท้าเพื่อแก้ไขปัญหาจราจร และแก้ปัญหาน้ำท่วมรวมทั้งปรับภูมิทัศน์ในพื้นที่ โดยมีการขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร ก่อสร้างเกาะกลางถนน ทางจักรยาน ระบบระบายน้ำ ติดตั้งป้ายและระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ปรับปรุงสะพาน 12 แห่ง ก่อสร้างและปรับปรุงสะพานข้ามคลองและถนนทวีวัฒนาตามแนวถนนพุทธมณฑลสาย 3 โดยโครงการทั้งหมดใช้งบประมาณทั้งสิ้น 355 ล้านบาท มีความคืบหน้า 39% วางระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จ เดือนมกราคม 2557
ทั้งนี้จากการก่อสร้างมีประชาชนในพื้นที่ได้มีการสอบถามและร้องเรียนถึงปัญหาทางเชื่อมคอสะพานข้ามคลองที่ผู้รับเหมาได้ทำการรื้อถนนทางเชื่อมคอสะพานเพื่อฝังท่อระบบสาธารณูปโภค ยังไม่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมาในพื้นที่ ทั้งนี้ทางคณะกรรมการตั้งข้อสังเกตถึงความรับผิดชอบในการดำเนินการ ควรเร่งแก้ไขปัญหาพื้นทางเชื่อมโดยการถมหินคลุกหรือถนนลาดยาง (แอสฟัลต์) เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน นอกจากนี้ควรเตรียมดินและพื้นที่เพื่อปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ และดอกไม้สวยงามก่อนส่งมอบงานให้สำนักงานเขตดำเนินการปลูกต้นไม้ รวมทั้งควรปรับพื้นที่และกำหนดป้ายจุดรับส่งรถบริการตลอดเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน อีกทั้งผู้รับเหมาควรถมพื้นดินและก่อสร้างทางเดินเท้าให้มีมาตรฐานเพื่อไม่ให้พื้นมีการทรุดตัว เนื่องจากเคยเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
นายสุไหง กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สำนักการโยธาต้องเร่งรัดผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการให้เสร็จทันกำหนด ทั้งนี้ทางคณะกรรมการโยธาและผังเมือง สภา กทม.จะติดตามการแก้ไขปัญหาของสำนักการโยธาและผู้รับเหมา รวมทั้งจะเชิญหน่วยงานภายนอก อาทิ ประปานครหลวง องค์การโทรศัพท์ การไฟฟ้านครหลวง และหน่วยงานของ กทม.เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ได้ตั้งข้อสังเกตสำนักการโยธาควรปรับปรุงการทำงานให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ควรบูรณาการการทำงานเพื่อให้มีความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาเนื่องจากต้องรับผิดชอบถนนและทางเท้าต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงจำเป็นต้องมีการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล อีกทั้งการควบคุมผู้รับเหมาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเนื้องานล่าช้ากว่ากำหนด นอกจากนี้ควรเข้มงวดกับผู้รับเหมาในการดำเนินการแก้ปัญหาสาธารณูปโภคเพื่อไม่ให้นำมาเป็นข้ออ้างในการดำเนินการ อีกทั้งควรพิจารณาผู้รับเหมาที่มีความรับผิดชอบซึ่งจะทำให้ กทม.มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหามากขึ้น
