เผยอุบัติเหตุทางถนนเกือบครึ่งตายเพราะรถชนวัตถุข้างทาง “โคราช” ขึ้นแท่นแชมป์ชนข้างทาง พบถนน 4 ช่องเกิดมากสุดโดยเฉพาะทางตรง
นายดนัย เรืองสอน ประธานมูลนิธิไทยโรดส์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจสาเหตุและลักษณะการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ของมูลนิธิไทยโรดส์และเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนพบว่า การเกิดอุบัติเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่สิ่งของที่อยู่บริเวณข้างทาง อาทิ ต้นไม้ หลักกิโลเมตร เสาไฟ เสาป้าย ฯลฯ จะเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายมากขึ้น หากเกิดอุบัติเหตุแล้วรถเสียหลักพุ่งออกนอกเส้นทาง ซึ่งจากการสำรวจถนนทางหลวงเมื่อปี 2554 พบว่า การเกิดอุบัติเหตุข้างทางคิดเป็นร้อยละ 41 ของอุบัติเหตุทั้งหมด ในจำนวนนี้ร้อยละ 77 ชนวัตถุอันตรายข้างทาง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตถึงร้อยละ 48 จากจำนวนอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด
สำหรับ 10 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุชนวัตถุข้างทางสูงมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา สงขลา ชลบุรี สระบุรี ระยอง นครศรีธรรมราช ขอนแก่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และ จันทบุรี ส่วนจังหวัดที่มีความรุนแรงของอุบัติเหตุชนกับวัตถุข้างทางมากที่สุด มีผู้เสียชีวิตต่ออุบัติเหตุเกิดขึ้น 100 ครั้ง 10 อันดับแรก คือ พะเยา ภูเก็ต ชุมพร สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ นครสวรรค์ เลย เพชรบูรณ์ จันทบุรี และยโสธร
นายดนัย กล่าวอีกว่า ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุชนวัตถุข้างทางพบว่า ถนน 4 ช่องจราจรมีโอกาสเกิดมากที่สุดร้อยละ 56 รองลงมาคือ ถนน 8 ช่องจราจร ร้อยละ 15 ถนน 6 ช่องจราจร ร้อยละ 8 และถนน 2 ช่องจราจร ร้อยละ 2 ส่วนรถที่เกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ รถกระบะร้อยละ 33 รถยนต์ร้อยละ 28 รถมอเตอร์ไซค์ร้อยละ 22 และรถบัสร้อยละ 17 ขณะที่ลักษณะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตเกิดกับถนนทางตรงร้อยละ 67 เกิดในเวลากลางคืนร้อยละ 56 และทางโค้งร้อยละ 33 ทั้งนี้ ระยะปลอดภัยในการตั้งวัตถุข้างทางควรอยู่ที่ 5-7 เมตร แต่บนทางหลวงไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 เมตรเท่านั้น จึงต้องสร้างมาตรการแก้ปัญหาต่อไป
นายดนัย เรืองสอน ประธานมูลนิธิไทยโรดส์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจสาเหตุและลักษณะการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ของมูลนิธิไทยโรดส์และเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนพบว่า การเกิดอุบัติเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่สิ่งของที่อยู่บริเวณข้างทาง อาทิ ต้นไม้ หลักกิโลเมตร เสาไฟ เสาป้าย ฯลฯ จะเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตรายมากขึ้น หากเกิดอุบัติเหตุแล้วรถเสียหลักพุ่งออกนอกเส้นทาง ซึ่งจากการสำรวจถนนทางหลวงเมื่อปี 2554 พบว่า การเกิดอุบัติเหตุข้างทางคิดเป็นร้อยละ 41 ของอุบัติเหตุทั้งหมด ในจำนวนนี้ร้อยละ 77 ชนวัตถุอันตรายข้างทาง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตถึงร้อยละ 48 จากจำนวนอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด
สำหรับ 10 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุชนวัตถุข้างทางสูงมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา สงขลา ชลบุรี สระบุรี ระยอง นครศรีธรรมราช ขอนแก่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และ จันทบุรี ส่วนจังหวัดที่มีความรุนแรงของอุบัติเหตุชนกับวัตถุข้างทางมากที่สุด มีผู้เสียชีวิตต่ออุบัติเหตุเกิดขึ้น 100 ครั้ง 10 อันดับแรก คือ พะเยา ภูเก็ต ชุมพร สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ นครสวรรค์ เลย เพชรบูรณ์ จันทบุรี และยโสธร
นายดนัย กล่าวอีกว่า ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุชนวัตถุข้างทางพบว่า ถนน 4 ช่องจราจรมีโอกาสเกิดมากที่สุดร้อยละ 56 รองลงมาคือ ถนน 8 ช่องจราจร ร้อยละ 15 ถนน 6 ช่องจราจร ร้อยละ 8 และถนน 2 ช่องจราจร ร้อยละ 2 ส่วนรถที่เกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ รถกระบะร้อยละ 33 รถยนต์ร้อยละ 28 รถมอเตอร์ไซค์ร้อยละ 22 และรถบัสร้อยละ 17 ขณะที่ลักษณะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตเกิดกับถนนทางตรงร้อยละ 67 เกิดในเวลากลางคืนร้อยละ 56 และทางโค้งร้อยละ 33 ทั้งนี้ ระยะปลอดภัยในการตั้งวัตถุข้างทางควรอยู่ที่ 5-7 เมตร แต่บนทางหลวงไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 เมตรเท่านั้น จึงต้องสร้างมาตรการแก้ปัญหาต่อไป
