xs
xsm
sm
md
lg

คร.เผยยอดผู้ป่วยเบาหวาน-ความดันสูง รายใหม่พุ่งสูงหลักแสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พบผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่สูงกว่า 3 แสนคน ความดันโลหิตสูงรายใหม่ 8 แสนคน กรมควบคุมโรคจัดติวเข้มบุคลาการสาธารณสุข ตั้งเป้าคัดกรองให้ครอบคลุมมากกว่า 90% แนะ 3อ 2ส ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ

วันนี้ (18 มี.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ฯ กทม. นพ.วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่องนโยบายสู่การปฏิบัติ : ระบบเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงโรคและภัยสุขภาพเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงของกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ว่า ในปี 2556 นี้ สธ.มุ่งหวังให้คนไทยมีสุขภาพดี โดยจะเร่งรัดการดูแลส่งเสริมสุขภาพประชาชนตามกลุ่มวัยและกลุ่มโรค เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุนำของโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง รวมทั้งโรคไข้เลือดออกซึ่งเป็นปัญหาในระดับประเทศในขณะนี้ ซึ่งการจะพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพยิ่งขึ้น ทั้งด้านการส่งเสริม ป้องกัน รักษาและฟื้นฟู จำเป็นต้องร่วมกันทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะเครือข่ายบริการทั้ง 12 เขต โดยมีผู้ตรวจเขตสุขภาพและศูนย์วิชาการในระดับเขตให้การสนับสนุน และนำแนวทางการดำเนินงานในระดับนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

ด้าน นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาของประเทศไทยมาช้านาน โดยเฉพาะเบาหวานและความดันโลหิตสูง จากข้อมูลสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สธ. พบว่าประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป เมื่อปี 2554 มีผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่สูงกว่า 300,000 คน ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่สูงกว่า 800,000 คน มีภาวะแทรกซ้อนแล้ว 176,000 คน และจากข้อมูลในปี 2551 พบว่า รัฐต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในผู้ป่วย 5 โรค ได้แก่เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หลอดเลือดสมองและไตวาย ประมาณ 308,337 ล้านบาท ส่วนสถานการณ์ไข้เลือดออกของประเทศไทยพบว่า ในปี 2556 จะมีการระบาดของโรคไข้เลือดออกอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คร.มีการดำเนินงานเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันลูกน้ำยุงลายและแก้ไขปัญหาโรคไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา คร. ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 มี.ค. 2556 มีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมจำนวน 13,200 ราย เสียชีวิต 16 ราย (ผู้ป่วยตายเพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว 2 ราย ได้แก่ จังหวัดสงขลา และสมุทรปราการ) เพราะฉะนั้น ปีนี้จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ต้องสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นพ.นพพร กล่าวอีกว่า การประชุมในวันนี้เพื่อให้ผู้บริหาร นักวิชาการ และเครือข่ายบริการในระดับพื้นที่ได้รับทราบถึงแนวทางการดำเนินงานและนำนโยบายสู่การปฏิบัติในระบบเฝ้าระวัง ควบคุมป้องกัน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โดยการคัดกรองประชากรกลุ่มเป้าหมายอายุ 15 ปี ขึ้นไป ให้ครอบคลุมมากกว่า 90% และจัดระดับความรุนแรงให้เห็นกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วย และผู้มีภาวะแทรกซ้อนอย่างชัดเจน พร้อมประเมินผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และสอบสวนโรคในรายที่มีปัญหา ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขนิเทศก์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป นักวิชาการของสำนักงานป้องกันควบคุมโรค 12 เขต ศูนย์อนามัย 12 เขต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั่วประเทศ จำนวน 600 คน

ขอแนะนำประชาชนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังโดยเน้นมาตรการ 3อ 2ส กล่าวคือ 3อ ได้แก่ 1.อาหาร ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ที่มีกากใยสูง รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ เลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารค้างคืน อาหารที่มีรสจัด อาหารหมักดอง และดื่มน้ำที่สะอาด 2.ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 30 นาที และ 3.อารมณ์ ด้วยการทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ หาวิธีคลายเครียดหรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว เช่น ปลูกต้นไม้ เล่นดนตรี วาดภาพ ท่องเที่ยว เป็นต้น รวมทั้งควรพักผ่อนให้พอเพียงวันละ 6-8 ชั่วโมง ส่วน 2ส คือ ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุราบุหรี่” รองอธิบดี คร.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น