xs
xsm
sm
md
lg

สธ.หนุนเต้นฮูลาฮูป ลดอ้วนลงพุง-ป้องโรคไม่ติดต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
คนไทยตายจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังปีละกว่า 1 แสนคน เผชิญโรคอ้วนลงพุงอีกกว่า 17 ล้านคน สธ.เตรียมจัด “มหกรรมสุขภาพดี หุ่นสวย เอวบาง สร้างได้ด้วยฮูลาฮูป” รณรงค์ ปชช.ดูแลสุขภาพตนเองด้วยการออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม เน้นหลัก 3 อ.2 ส.เตรียมดึง ปชช.กว่า 3,000 คน เต้นฮูลาฮูปสร้างสถิติโลก

วันนี้ (1 ก.พ.) นายสุรชัย เบ้าจรรยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานแถลงข่าว “มหกรรมสุขภาพดี หุ่นสวย เอวบาง สร้างได้ด้วยฮูลาฮูป” ว่า สถานการณ์การเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของคนไทยปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้น จากรายงานการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในประเทศไทยของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2553 พบว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และอ้วน ปีละกว่า 1 แสนคน คิดเป็น 1 ใน 3 ของการเสียชีวิตทุกสาเหตุ โดยผู้เสียชีวิตร้อยละ 40 มีอายุน้อยกว่า 60 ปี และพบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีภาวะอ้วนและอ้วนลงพุงกว่า 17 ล้านคน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประเทศสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลปีละประมาณ 300,000 ล้านบาท

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า สธ.มีนโยบายเร่งรัดมาตรการสร้างสุขภาพเพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังดังกล่าว โดยรณรงค์สร้างความตระหนักถึงอันตรายและปัจจัยเสี่ยงของโรคอ้วนลงพุงและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การให้ความรู้ในวงกว้าง การรณรงค์เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้วยหลัก 3 อ.คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ และ 2 ส.คือ ไม่ดื่มสุรา และไม่สูบบุหรี่ โดยในปี 2556 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดมหกรรมสุขภาพดี หุ่นสวย เอวบาง สร้างได้ด้วยฮูลาฮูป เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักและใส่ใจสุขภาพ รวมทั้งปลูกฝังพฤติกรรมการออกกำลังกาย โดยการเต้นฮูลาฮูปบันทึกสถิติโลกเป้าหมายมากกว่า 3,000 คน ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ ณ สนามกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมทั้งรวมพลังคนไทยกว่า 30,000 คน เต้นฮูลาฮูป 30 นาที พร้อมกันทั่วประเทศ โดยภาคเหนือ ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา ภาคใต้ ณ สนามจิระนคร จังหวัดสงขลา และภาคกลาง ณ สนามกีฬาโรงเรียนเทพศิรินทร์พุแค จังหวัดสระบุรี

“ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมการออกกำลังกายของประชาชนอายุ 11 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 57.7 ล้านคน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2554 พบว่า คนไทยมีการออกกำลังกายเพียงร้อยละ 26 หรือ 15 ล้านกว่าคน ลดลงจากปี 2550 ที่มีเกือบร้อยละ 30 แสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ จำนวน 42 ล้านคน กำลังมีวิถีชีวิตเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและโรคอ้วน เพราะขาดการออกกำลังกาย การเต้นฮูลาฮูปเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายที่นิยมไปทั่วโลก ซึ่งมีข้อมูลทางวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศรับรองว่าการออกกำลังกายด้วยฮูลาฮูปช่วยลดอ้วน ลดเอว เนื่องจากสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 210 กิโลแคลอรี ภายในเวลา 30 นาที หรือเฉลี่ย 7 กิโลแคลอรี/นาที และหากออกกำลังกายด้วยฮูลาฮูปอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้หัวใจแข็งแรง ลดความดันโลหิต สามารถเผาผลาญไขมันได้ดีทำให้ปริมาณไขมันใต้ชั้นผิวหนังลดน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักและเอวลดลงด้วย” ที่ปรึกษา รมช.สาธารณสุข กล่าว

ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้สนับสนุนให้ทุกกลุ่มวัยมีการเคลื่อนไหวออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วันๆ ละ 30 นาที พร้อมทั้งจัดตั้งคลินิก DPAC (Diet and Physical Activity Clinic) ทั้งในส่วนกลางและศูนย์อนามัยเขต 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นคลินิกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกายและการบริโภคอาหารทั้งในกลุ่มคนปกติ กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มที่เป็นโรค ซึ่งขณะนี้ได้ขยายผลการดำเนินงานคลินิก DPAC ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ครอบคลุมสถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ นอกจากนี้ ภายหลังการจัดมหกรรมสุขภาพดี หุ่นสวย เอวบาง สร้างได้ด้วยฮูลาฮูป กรมอนามัยได้มีมาตรการติดตามเฝ้าระวังให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง โดยให้ทุกจังหวัดมีการรวมกลุ่มจัดตั้งชมรมออกกำลังกาย เป้าหมาย 1 จังหวัด 1 ชมรมฮูลาฮูปสะบัดสะโพก สลัดโรค และขยายเป็น 1 อำเภอ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน และ 1 โรงเรียน 1 ชมรมฮูลาฮูปสะบัดสะโพก สลัดโรค ในปีต่อๆ ไป พร้อมทั้งส่งเสริมการจัดกิจกรรมออกกำลังกายด้วยการเต้นฮูลาฮูปของแต่ละชมรมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วันๆ ละ 30 นาที ร่วมกับการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ โดยมี อสม.และบุคลากรทางด้านสาธารณสุขเป็นทูตในการรวมพลังและดำเนินงานร่วมกับประชาชน องค์กรท้องถิ่น โรงเรียน เพื่อเป็นการวางรากฐานที่เข้มแข็งของท้องถิ่นในการเฝ้าระวังให้ประชาชนมีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น