“หมอณรงค์” คอนเฟอเรนซ์ “สสจ.-รพช.-รพศ.-รพท.” ทั่วประเทศ แจงการปรับวิธีจ่ายค่าตอบแทน ยันไม่ตัดวงเงินเบี้ยกันดาร แต่เปลี่ยนวิธีจ่ายให้เป็นไปตามภาระงาน ส่วนพื้นที่กันดารจริงๆ ยังได้เบี้ยเหมือนเดิม ด้าน “หมอประดิษฐ” ไม่แคร์ แพทย์ชนบทกล้าฝากก็กล้าส่ง นำหนังสือไล่พ้นเก้าอี้ยื่นนายกฯ พร้อมชี้แจงไม่ได้กลั่นแกล้ง
วันนี้ (14 มี.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เรื่อง “นโยบายค่าตอบแทนกำลังคนสาธารณสุข” ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากข้อเสนอทั้งของประธานชมรมแพทย์ รพช. รพศ รพท.และกรมบัญชีกลาง ในส่วนของหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนแบบใหม่จะมีการนำข้อเสนอมาปรับทบทวน แต่ในหลักการคือ ค่าจ้างในระบบสาธารณสุขมีทั้งหมด 91,000 ล้านบาท แบ่งเป็นก้อนแรกคือ เงินเดือน 51,000 ล้านบาท และเงินเดือนลูกจ้างชั่วคราว 14,000 ล้านบาท ก้อนที่ 2 คือ เงินพื้นที่พิเศษและวิชาชีพที่ขาดแคลน หรือเรียกง่ายๆ ว่า เงินค่าเสี่ยงภัย พื้นที่ทุรกันดาร 26,000 ล้านบาท ซึ่งวงเงินงบประมาณก้อนนี้จะไม่ลด เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการจ่ายเงิน และก้อน 3 คือ พื้นที่ที่อยู่ยาก หรือพื้นที่เฉพาะ หรือพื้นที่ทุรกันดารเดิม จะยังได้เงินอัตราตามเดิม โดยเกณฑ์พื้นที่ที่จะปรับเป็นพื้นที่ปกตินั้น มีหลักวิชาการอ้างอิง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ จะเร่งทำความเข้าใจและยืนยันว่า วันที่ 1 เม.ย.นี้จะเริ่มใช้เกณฑ์ใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนในเฟสแรกได้อย่างแน่นอน
“อยากเน้นว่าการปรับวิธีการจ่ายดังกล่าวไม่ใช่การตัดเบี้ยทิ้ง แต่เปลี่ยนวิธีการจ่ายให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน โดยดูจากสภาพรายได้ท้องถิ่น การเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวก ก็จะต้องเกิดการปรับเปลี่ยน แต่พื้นที่ทุรกันดารยังจะได้เบี้ยเหมือนเดิม แต่ยอมรับว่าบางพื้นที่มีความพิเศษ คือ อาจมีความเจริญตามหลักเกณฑ์แต่ไม่มีแพทย์อยากไปอยู่ เช่น พื้นที่เกาะ ก็จะต้องให้เป็นพื้นที่พิเศษ ซึ่งหมายถึงมีการทั้งเบี้ยพิเศษและการจ่ายแบบ P4P ทั้งนี้ พื้นที่ที่ต้องเปลี่ยนมาจ่ายแบบ P4P จะมีทำเกณฑ์การจ่ายให้เกิดความชัดเจน ซึ่งพบว่าจากการทดลองใช้ไปแล้วนั้น มีเพียงปัญหาทางเทคนิคเรื่องการกรอกเท่านั้น แต่จะพยายามจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างรพ.ใหญ่ รพ.เล็ก กับทุกวิชาชีพให้น้อยที่สุด” ปลัด สธ.กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีนัดหยุดงานช่วงสงกรานต์ของกลุ่มแพทย์ชนบท นพ.ณรงค์ กล่าวว่า เชื่อในความเป็นแพทย์ของทุกคนล้วนยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าจะสามารถคุยและแก้ปัญหาไปด้วยกันได้ เพราะทุกคนคงรักประชาชนเหมือนๆ กัน
ด้านนพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้นำหนังสือที่ประธานชมรมแพทย์ชนบทยื่นถึงนายกรัฐมนตรีผ่านตนเองให้กับนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ชี้แจงเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องตามข้อกล่าวหาต่อนายกรัฐมนตรีแล้วว่าสิ่งที่ดำเนินการไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง รังแก หรือปรับเรตค่าตอบแทน แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้ระบบการจ่ายค่าตอบแทนของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์มีความมั่นคงเท่านั้น จากนี้อยู่ที่การพิจารณาของนายกรัฐมนตรี ส่วนเรื่องที่แพทย์ใน รพช.จะนัดหยุดงานในช่วงใกล้สงกรานต์นั้นก็ไม่เป็นไร เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงวันหยุดราชการอยู่แล้ว ซึ่งปกติจะมีแพทย์ประจำในส่วนของแผนกฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ในทางการปฏิบัติหรือระบบเชื่อว่าแพทย์ซึ่งมีหน้าที่รักษาคนไข้ไม่ควรที่หยุดการดูแลรักษาคนไข้
วันนี้ (14 มี.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เรื่อง “นโยบายค่าตอบแทนกำลังคนสาธารณสุข” ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) เข้าร่วมรับฟังการชี้แจง
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จากข้อเสนอทั้งของประธานชมรมแพทย์ รพช. รพศ รพท.และกรมบัญชีกลาง ในส่วนของหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนแบบใหม่จะมีการนำข้อเสนอมาปรับทบทวน แต่ในหลักการคือ ค่าจ้างในระบบสาธารณสุขมีทั้งหมด 91,000 ล้านบาท แบ่งเป็นก้อนแรกคือ เงินเดือน 51,000 ล้านบาท และเงินเดือนลูกจ้างชั่วคราว 14,000 ล้านบาท ก้อนที่ 2 คือ เงินพื้นที่พิเศษและวิชาชีพที่ขาดแคลน หรือเรียกง่ายๆ ว่า เงินค่าเสี่ยงภัย พื้นที่ทุรกันดาร 26,000 ล้านบาท ซึ่งวงเงินงบประมาณก้อนนี้จะไม่ลด เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการจ่ายเงิน และก้อน 3 คือ พื้นที่ที่อยู่ยาก หรือพื้นที่เฉพาะ หรือพื้นที่ทุรกันดารเดิม จะยังได้เงินอัตราตามเดิม โดยเกณฑ์พื้นที่ที่จะปรับเป็นพื้นที่ปกตินั้น มีหลักวิชาการอ้างอิง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ จะเร่งทำความเข้าใจและยืนยันว่า วันที่ 1 เม.ย.นี้จะเริ่มใช้เกณฑ์ใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนในเฟสแรกได้อย่างแน่นอน
“อยากเน้นว่าการปรับวิธีการจ่ายดังกล่าวไม่ใช่การตัดเบี้ยทิ้ง แต่เปลี่ยนวิธีการจ่ายให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน โดยดูจากสภาพรายได้ท้องถิ่น การเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวก ก็จะต้องเกิดการปรับเปลี่ยน แต่พื้นที่ทุรกันดารยังจะได้เบี้ยเหมือนเดิม แต่ยอมรับว่าบางพื้นที่มีความพิเศษ คือ อาจมีความเจริญตามหลักเกณฑ์แต่ไม่มีแพทย์อยากไปอยู่ เช่น พื้นที่เกาะ ก็จะต้องให้เป็นพื้นที่พิเศษ ซึ่งหมายถึงมีการทั้งเบี้ยพิเศษและการจ่ายแบบ P4P ทั้งนี้ พื้นที่ที่ต้องเปลี่ยนมาจ่ายแบบ P4P จะมีทำเกณฑ์การจ่ายให้เกิดความชัดเจน ซึ่งพบว่าจากการทดลองใช้ไปแล้วนั้น มีเพียงปัญหาทางเทคนิคเรื่องการกรอกเท่านั้น แต่จะพยายามจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างรพ.ใหญ่ รพ.เล็ก กับทุกวิชาชีพให้น้อยที่สุด” ปลัด สธ.กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีนัดหยุดงานช่วงสงกรานต์ของกลุ่มแพทย์ชนบท นพ.ณรงค์ กล่าวว่า เชื่อในความเป็นแพทย์ของทุกคนล้วนยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าจะสามารถคุยและแก้ปัญหาไปด้วยกันได้ เพราะทุกคนคงรักประชาชนเหมือนๆ กัน
ด้านนพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้นำหนังสือที่ประธานชมรมแพทย์ชนบทยื่นถึงนายกรัฐมนตรีผ่านตนเองให้กับนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ชี้แจงเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องตามข้อกล่าวหาต่อนายกรัฐมนตรีแล้วว่าสิ่งที่ดำเนินการไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง รังแก หรือปรับเรตค่าตอบแทน แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้ระบบการจ่ายค่าตอบแทนของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์มีความมั่นคงเท่านั้น จากนี้อยู่ที่การพิจารณาของนายกรัฐมนตรี ส่วนเรื่องที่แพทย์ใน รพช.จะนัดหยุดงานในช่วงใกล้สงกรานต์นั้นก็ไม่เป็นไร เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงวันหยุดราชการอยู่แล้ว ซึ่งปกติจะมีแพทย์ประจำในส่วนของแผนกฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ในทางการปฏิบัติหรือระบบเชื่อว่าแพทย์ซึ่งมีหน้าที่รักษาคนไข้ไม่ควรที่หยุดการดูแลรักษาคนไข้
