“พงศ์เทพ” รับหลักสูตรที่เรียนอยู่ไม่สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงถึง 90% เล็งปรับหลักสูตรให้ทันสมัย ใช้ในชีวิตจริงได้ เน้นการอยู่ร่วมกันในสังคม แนะปฏิรูปการศึกษาต้องหาแนวทางว่าเด็กควรเรียนอะไร เรียนอย่างไร และแบ่งเวลาให้เหมาะสม
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังเปิดการประชุมระดมความคิดกรอบแนวทางการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมอบนโยบายเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางปฏิรูปหลักสูตรและตำราเรียน ซึ่งมีการนำเสนอผลการวิจัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา โดยได้เร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยการยกระดับความรู้ให้ได้มาตรฐานสากล จัดให้มีโครงการตำราแห่งชาติ ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ และภาษาถิ่น มีระบบจัดการความรู้ปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาทุกระดับรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก
“หลักสูตรที่ผ่านมาร้อยละ 90 ไม่สามารถนำสิ่งที่เรียนมาใช้ในชีวิตจริงได้ แต่เด็กกลับถูกบังคับให้จำ จึงควรปรับหลักสูตรการศึกษาให้มีความทันสมัยสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ โดยเฉพาะหลักสูตรการอยู่ร่วมกันในสังคมท่ามกลางความคิดที่แตกต่าง การปฏิรูปการศึกษาควรหาแนวทางว่า เด็กไทยควรเรียนอย่างไร ควรเรียนอะไร รวมถึงควรแบ่งเวลาให้เหมาะสมว่า เด็กควรใช้เวลาอยู่ในห้องเรียนและเวลาในการทำกิจกรรมอย่างไร” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุมได้นำเสนอการปฏิรูปหลักสูตรตามกรอบแนวคิดทักษะศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษาของประเทศไทยกับภาพรวมของต่างประเทศ และการวิเคราะห์การศึกษาไทยจากหลักสูตรสู่การปฏิบัติในชั้นเรียน
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังเปิดการประชุมระดมความคิดกรอบแนวทางการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมอบนโยบายเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางปฏิรูปหลักสูตรและตำราเรียน ซึ่งมีการนำเสนอผลการวิจัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา โดยได้เร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยการยกระดับความรู้ให้ได้มาตรฐานสากล จัดให้มีโครงการตำราแห่งชาติ ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ และภาษาถิ่น มีระบบจัดการความรู้ปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาทุกระดับรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก
“หลักสูตรที่ผ่านมาร้อยละ 90 ไม่สามารถนำสิ่งที่เรียนมาใช้ในชีวิตจริงได้ แต่เด็กกลับถูกบังคับให้จำ จึงควรปรับหลักสูตรการศึกษาให้มีความทันสมัยสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ โดยเฉพาะหลักสูตรการอยู่ร่วมกันในสังคมท่ามกลางความคิดที่แตกต่าง การปฏิรูปการศึกษาควรหาแนวทางว่า เด็กไทยควรเรียนอย่างไร ควรเรียนอะไร รวมถึงควรแบ่งเวลาให้เหมาะสมว่า เด็กควรใช้เวลาอยู่ในห้องเรียนและเวลาในการทำกิจกรรมอย่างไร” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุมได้นำเสนอการปฏิรูปหลักสูตรตามกรอบแนวคิดทักษะศตวรรษที่ 21 กรณีศึกษาของประเทศไทยกับภาพรวมของต่างประเทศ และการวิเคราะห์การศึกษาไทยจากหลักสูตรสู่การปฏิบัติในชั้นเรียน
