“พงศ์เทพ” ไฟเขียวเลื่อนประชุมบอร์ด ก.ค.ศ.13 มี.ค.นี้ รอผลสอบดีเอสไอ ค่อยนัดถกชี้ขาดล้มสอบหรือไม่ หรือล้มสอบใหม่บางเขต
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สรุปผลการสอบสวนให้ซึ่งคาดว่าจะได้ในเร็วๆ นี้ ก็จะนำผลสอบดังกล่าวมาประกอบการตัดสินใจ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เชื่อว่าผลสอบดีเอสไอและผลสอบของคณะกรรมการชุดอื่นๆ น่าจะสามารถบ่งบอกได้ว่า มีการทุจริตในการจัดสอบครูผู้ช่วยหรือไม่ และการทุจริตนี้ครอบคลุมพื้นที่ใดบ้าง ผู้เข้าสอบรายใดที่คะแนนผิดปกติส่อทุจริต อย่างไรก็ตามการสอบสวนครั้งนี้ใช้ผลคะแนน ของผู้ที่ได้คะแนนสูงผิดปกติ เป็นตัวตั้งต้นสอบหาข้อเท็จจริง เขตพื้นที่ฯใดที่มีผู้สอบได้คะแนนสูงผิดปกติก็จะต้องถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เช่น บางเขตพื้นที่ฯ มีคนได้คะแนนเต็มทั้ง 3 วิชา อีกวิชาหนึ่งขาดอีก 2 คะแนนถึงจะเต็ม กรณีแบบนี้ต้องไปดูว่าที่ทำคะแนนได้สูงนั้นเป็นปกติหรือไม่ ทั้งนี้ ได้มอบหมายไปแล้วให้ สพฐ.ไปแยกแยะคะแนนในแต่ละพื้นที่มา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าการแยกแยะว่า ใครทำคะแนนได้เองหรือใครที่ทำคะแนนได้โดยผิดปกตินั้น จะสามารถแยกได้หรือไม่
“ถ้าพบว่า เขตพื้นที่ฯที่มีคะแนนสูงผิดปกติ และผู้ที่มีรายชื่อผ่านการคัดเลือกในเขตพื้นที่ฯนั้น ได้คะแนนสูงผิดปกติทุกคน และมีข้อมูลอื่นๆ สนับสนุนว่ามีการทุจริต เขตพื้นที่นั้น ก็อาจจะอยู่ในข่ายที่จะต้องประกาศยกเลิกการสอบ แต่ถ้าคะแนนมีความคละกันไป ระหว่างคนที่สอบได้เองกับคนที่สอบได้แบบผิดปกติ กรณีนี้น่าจะใช้แนวทางเดียวกับ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 คือไม่เรียกบรรจุคนที่มีปัญหา แต่ข้ามไปเรียกคนในอันดับถัดไปและไม่มีปัญหามาบรรจุแทน ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ผู้ที่สอบได้เองเสียโอกาส อย่างไรก็ตามก่อนจะดำเนินการตามนั้นได้ จะต้องสามารถแยกแยะออกมาได้ก่อนว่าใครที่สอบได้เอง หรือใครสอบได้โดยผิดปกติ ซึ่งต้องรอดูว่า สพฐ.จะแยกแยะได้หรือไม่” นายพงศ์เทพ กล่าวและว่า สำหรับการประชุมก.ค.ศ. ซึ่งเดิมกำหนดไว้วันที่ 13 มีนาคมนี้ และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ขอให้เลื่อนการประชุมเพื่อรอผลสอบของดีเอสไอนั้น ตนเห็นด้วยกับการเลื่อนการประชุมออกไป เพื่อรอให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อนำมาพิจารณาซึ่งก็เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร
