กรมอนามัย แนะประชาชนดูแลสุขภาพช่วงอากาศเปลี่ยน โดยเฉพาะเด็กอ่อน เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ย้ำออกกำลังกาย รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และอย่างอยู่ในที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในสัปดาห์เดียวกัน ประชาชนควรหันมาดูแลรักษาสุขภาพตนเองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอ่อน เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ เพราะหากดูแลสุขภาพไม่ดี อาจป่วยโรคไข้หวัดหรือโรคระบบทางเดินหายใจได้ ซึ่งจากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ปี 2555 พบผู้ป่วยโรคปอดบวมต่อแสนประชากร กว่า 168,490 ราย เสียชีวิต 1,074 ราย โดยกลุ่มที่พบมากที่สุดคือ อายุ 65 ปี 40,460 ราย รองลงมาอายุ 1 ปี 20,677 ราย และอายุ 2 ปี 9,473 ราย และช่วงอายุ 55-64 ปี 6,376 ราย สำหรับจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนของประชากร สูงสุด 5 อันดับแรก คือ แม่ฮ่องสอน 553.24 ฉะเชิงเทรา 542.17 ตาก 536.70 อ่างทอง 529.13 เชียงราย 485.97
นพ.เจษฎา กล่าวอีกไปว่า กลุ่มเด็กอ่อนควรได้กินนมแม่เป็นประจำ เนื่องจากช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี เป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เหมาะสมสำหรับทารกแรกเกิด - 6 เดือน หลังจากนั้นสามารถให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนลูกอายุครบ 2 ปี ส่วนเด็กเล็กต้องเน้นอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ สำหรับผู้สูงอายุควรมีการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวออกแรง อาทิ เดินเร็วๆ รำมวยจีน ควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลดหวาน มัน เค็ม และควรมีผักสดหรือผักลวก รวมทั้งผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง ในทุกมื้ออาหารก็จะช่วยป้องกันไข้หวัดและส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย
“ในช่วงอากาศแปรปรวน การปรุงอาหารเป็นสิ่งสำคัญคือ ควรปรุงให้สุกร้อนก่อนบริโภค ใส่ในภาชนะที่สะอาดและไม่ทิ้งระยะนานเกิน 2-4 ชั่วโมง ส่วนน้ำดื่มต้องเลือกที่สะอาด บรรจุผลิตภัณฑ์ปิดมิดชิดหรือต้มสุกก่อนดื่ม ที่สำคัญควรล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทุกครั้งก่อนและหลังที่ทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลานานในช่วงที่อากาศร้อนจัด หรืออยู่ในที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กเล็ก” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
