สสจ.ปัตตานีเผย รพ.3 จังหวัดชายแดนใต้พร้อมรับมือผู้ป่วยฉุกเฉินจากเหตุการณ์ความไม่สงบแบบเต็มพิกัด โดยเฉพาะการรับส่งต่อผู้ป่วย พร้อมระดมรถและเจ้าหน้าที่ได้ทันที ส่วนสุขภาพจิตประชาชนในพื้นที่มีความเครียดสูงกว่าภาคอื่นเล็กน้อยเท่านั้น
นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงความพร้อมในการรับมือเหตุฉุกเฉินจากสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ขณะนี้ทุกโรงพยาบาลมีความพร้อมเต็มพิกัด ทั้งปัตตานี ยะลา นราธิวาส หาดใหญ่ และสงขลา เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่วิกฤตซึ่งหน้า แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามีการรับมือกับสถานการณ์ตรงนี้มานาน ทำให้มีประสบการณ์ที่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรับส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน เพราะแม้จำนวนผู้ป่วยฉุกเฉินจะไม่ทำให้ถึงกับตึงมือก็ตาม แต่เราก็มีเพดานในการรับมือ อย่างวันใดที่เกิดเหตุความไม่สงบจนมีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามาที่โรงพยาบาลปัตตานีจำนวนมากประมาณ 10 ราย แล้วจำเป็นต้องเปิดใช้ห้องผ่าตัดพร้อมกัน เรามีศักยภาพในการให้บริการประมาณ 4 รายเท่านั้น เนื่องจากมีห้องผ่าตัด 4-5 ห้อง และมีศัลยแพทย์เพียง 3-4 คน เราก็จะกระจายผู้ป่วยฉุกเฉินไปยังจังหวัดยะลา นราธิวาส หาดใหญ่ หรือสงขลา
“ระบบการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินมีความพร้อมอย่างมาก เมื่อเกิดความจำเป็นในการส่งต่อ เราสามารถระดมรถ เจ้าหน้าที่ เพื่อทำการส่งต่อผู้ป่วยได้อย่างทันที ไม่เพียงแต่ รพ.ปัตตานีส่งผู้ป่วยฉุกเฉินไปจังหวัดอื่นเท่านั้น หากจังหวัดอื่นเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถส่งผู้ป่วยมาที่ปัตตานีได้เช่นกัน” นายแพทย์ สสจ.ปัตตานี กล่าว
นพ.บรรเจิด กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนทั่วไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อาจเกิดความเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันบ้าง ซึ่งนับเป็นปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนึ่ง แต่จากการประเมินของศูนย์สุขภาพจิตสงขลา ซึ่งทำการตรวจประเมินอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จากระบบคัดกรองที่พัฒนาขึ้นโดยกรมสุขภาพจิต ซึ่งแบ่งประชาชนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ อาทิ ครอบครัวผู้เสียชีวิต หรือครอบครัวผู้ที่ได้รับความเสียหาย พบว่า จำนวนประชาชนที่มีความเครียดถือว่าอยู่ในระดับปกติ คือมีจำนวนสูงกว่าจังหวัดอื่นหรือภาคอื่นๆ เล็กน้อย แต่ไม่โดดไปกว่ากันมากนัก
นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงความพร้อมในการรับมือเหตุฉุกเฉินจากสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ขณะนี้ทุกโรงพยาบาลมีความพร้อมเต็มพิกัด ทั้งปัตตานี ยะลา นราธิวาส หาดใหญ่ และสงขลา เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่วิกฤตซึ่งหน้า แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามีการรับมือกับสถานการณ์ตรงนี้มานาน ทำให้มีประสบการณ์ที่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรับส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน เพราะแม้จำนวนผู้ป่วยฉุกเฉินจะไม่ทำให้ถึงกับตึงมือก็ตาม แต่เราก็มีเพดานในการรับมือ อย่างวันใดที่เกิดเหตุความไม่สงบจนมีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามาที่โรงพยาบาลปัตตานีจำนวนมากประมาณ 10 ราย แล้วจำเป็นต้องเปิดใช้ห้องผ่าตัดพร้อมกัน เรามีศักยภาพในการให้บริการประมาณ 4 รายเท่านั้น เนื่องจากมีห้องผ่าตัด 4-5 ห้อง และมีศัลยแพทย์เพียง 3-4 คน เราก็จะกระจายผู้ป่วยฉุกเฉินไปยังจังหวัดยะลา นราธิวาส หาดใหญ่ หรือสงขลา
“ระบบการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินมีความพร้อมอย่างมาก เมื่อเกิดความจำเป็นในการส่งต่อ เราสามารถระดมรถ เจ้าหน้าที่ เพื่อทำการส่งต่อผู้ป่วยได้อย่างทันที ไม่เพียงแต่ รพ.ปัตตานีส่งผู้ป่วยฉุกเฉินไปจังหวัดอื่นเท่านั้น หากจังหวัดอื่นเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถส่งผู้ป่วยมาที่ปัตตานีได้เช่นกัน” นายแพทย์ สสจ.ปัตตานี กล่าว
นพ.บรรเจิด กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนทั่วไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อาจเกิดความเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันบ้าง ซึ่งนับเป็นปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนึ่ง แต่จากการประเมินของศูนย์สุขภาพจิตสงขลา ซึ่งทำการตรวจประเมินอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จากระบบคัดกรองที่พัฒนาขึ้นโดยกรมสุขภาพจิต ซึ่งแบ่งประชาชนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ อาทิ ครอบครัวผู้เสียชีวิต หรือครอบครัวผู้ที่ได้รับความเสียหาย พบว่า จำนวนประชาชนที่มีความเครียดถือว่าอยู่ในระดับปกติ คือมีจำนวนสูงกว่าจังหวัดอื่นหรือภาคอื่นๆ เล็กน้อย แต่ไม่โดดไปกว่ากันมากนัก