xs
xsm
sm
md
lg

รำลึก 5 ปี “นพ. สงวน ” กับการปฏิรูประบบสุขภาพคนไทยไม่ทิ้งกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หมอสงวน
ไม่ว่าจะรวยหรือจนทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ มีสิทธิในการเข้ารับบริการรักษาพยาบาล แต่คนไทยเพิ่งจะเข้าถึงสิทธิพื้นฐานดังกล่าวก็เมื่อช่วงประมาณ10 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ด้วยการบุกเบิกและผลักดันแนวคิดระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของ“นพ. สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ” จนรัฐบาลรับไปเป็นนโยบายใช้จริง

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ได้บรรยายพิเศษเรื่อง “จากหลักประกันสุขภาพ สู่คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน” ภายในงานมหกรรมคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน และรำลึก 5 ปีการจากไปของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ “รวมพลังพื้นที่ รวมพลคนจิตอาสา ร่วมสร้างหลักประกันสุขภาพที่ยั่งยืน” ซึ่งจัดโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)และมูลนิธิมิตรภาพบำบัด ว่า นพ.สงวน เปรียบดังบิดาแห่งหลักประกันสุขภาพไทยและมิตรภาพบำบัด เนื่องจาก นพ.สงวนและคณะได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงการปกครองไทยในด้านสุขภาพอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่คนยากจนต้องไปขอทานบริการ หรือไม่กล้าไป หรือต้องขายนาไร่จนหมดตัวเพื่อไปรักษาพยาบาล ก็สามารถมีสิทธิในการเข้าถึงการรักษา ได้รับบริการในฐานะมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

“แนวคิดระบบหลักประกันสุขภาพของ นพ.สงวน เป็นการปฏิรูปศีลธรรมและระบบสุขภาพอย่างถึงรากถึงโคน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ถึง 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1.ระบบการเงิน 2.หัวใจของความเป็นมนุษย์ มีการริเริ่มมิตรภาพบำบัด และ 3.คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน

แม้ นพ.สงวน จะจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด แต่แนวคิดและความตั้งใจในเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพ มิตรภาพบำบัด และคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน ยังคงมีการสานต่ออย่างจริงจัง

พญ. เรณู ศรีสมิต เลขาธิการมูลนิธิมิตรภาพบำบัด กล่าวว่า มูลนิธิฯก่อตั้งขึ้นตามเจตนารมณ์ของ นพ.สงวน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งทุกวันนี้มีการขยายพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจสู้โรคภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยอาศัยการให้กำลังใจจากผู้ป่วยด้วยกันเอง รวมไปถึงผู้ให้บริการรักษาอย่างแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แม้แต่ผู้ป่วยเมื่อหายจากการเจ็บไข้แล้วก็อาสาไปช่วยเหลือผู้ป่วยอื่นๆ ต่อ ซึ่งตรงกับคำขวัญที่ว่า “คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน”

พญ.เรณู กล่าวอีกว่า เพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในหมู่คนทำงานอาสาด้านมิตรภาพบำบัด จึงมีการร่วมกับ สปสช.จัดงานส่งเสริมขึ้นเป็นประจำทุกปี การมอบรางวัลมิตรภาพบำบัดดีเด่นประจำปี ซึ่งปีนี้เป็นการมอบรางวัลรวมตั้งแต่ปี 2554-2555 แบ่งเป็น 4ประเภท ได้แก่ 1. ผู้ป่วย/ทีมอาสาสมัครมิตรภาพบำบัดดีเด่น ลำดับที่ 1 คือ นาย สมพร ถมหนวด จ.ร้อยเอ็ด ผู้ป่วยทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครมูลนิธิเมาไม่ขับให้คำปรึกษาและแนะนำทักษะการดำรงชีวิตของคนพิการ และรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ลำดับที่ 2 นาย คำอ้าย สุนันต๊ะ จ.เชียงราย เป็นอาสาสมัครชมรมผู้พิการในท้องถิ่น

2.เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการงานมิตรภาพบำบัดดีเด่น ลำดับที่ 1 นาง กันยารัตน์ มาเกตุ พยาบาล รพ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ผู้ผลักดันมิตรภาพบำบัดในรพ.และชุมชน ลำดับที่ 2 พญ. รุจิรา มังคละศิริ จ.นครราชสีมา ผู้เปลี่ยนโรคมะเร็งเป็นพลังในการช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งด้วยกัน

3.หน่วยงาน/องค์กรสนับสนุนงานมิตรภาพบำบัด ลำดับที่ 1 วัดโพธิ์ชัยศรี จ.บึงกาฬ พัฒนาวัดเป็นสถานีสาธารณะต้นแบบการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของชุมชน ลำดับที่ 2 รพ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด สร้างเครือข่ายจิตอาสามิตรภาพบำบัดดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
และ4.สื่อสนับสนุนงานมิตรภาพบำบัดดีเด่น ได้แก่ เครือข่ายพุทธิกา ที่สร้างความรู้ความเข้าใจพุทธศาสนาและงานจิตอาสาให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว นอกจากเพื่อสืบสานปณิธานที่มุ่งขยายจิตอาสา มิตรภาพบำบัด สร้างหลักประกันสุขภาพให้ยั่งยืนของ นพ.สงวน แล้ว นพ. วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ยังเป็นการขยายแนวคิดและการดำเนินงานจิตอาสามิตรภาพบำบัด คนไทยไม่ทอดทิ้งกันให้เป็นเครือข่าย และขยายเข้าสู่ระบบสุขภาพชุมชนผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.และเทศบาล ขยายเครือข่ายจิตอาสา มิตรภาพบำบัด และเครือข่ายประชาสังคม ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด ตลอดจนขยายบทบาทการสนับสนุนงานจิตอาสาของมูลนิธิมิตรภาพบำบัดควบคู่กัน
กำลังโหลดความคิดเห็น