อชก.กทม.อนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกรยากจนในพื้นที่เขตสายไหม
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายอรรถพร สุวัธนเดชา รองปลัด กทม.เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนกรุงเทพมหานคร (อชก.กทม.) ประกอบด้วย สำนักพัฒนาสังคม กทม. ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อพิจารณาและอนุมัติให้กู้ยืมเงินจากกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546 นำไปชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยสูง โดยในวันนี้เป็นการพิจารณาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เขตสายไหม จำนวน 1 ราย ซึ่งยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือเพื่อไถ่ถอนที่ดินจากการจำนอง ตั้งแต่ปี 2553 รวมเป็นวงเงินหนี้ที่ต้องชำระ 450,000 บาท ทั้งนี้ ประชุมเห็นชอบอนุมัติความช่วยเหลือแล้ว คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายเงินจากกองทุนและชำระหนี้ได้ภายใน 2 เดือน
นายอรรถพร กล่าวว่า กองทุนดังกล่าวนับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนไม่ให้สูญเสียที่ดินทำกิน จากการนำที่ดินที่มีอยู่ไปจำนอง หรือขายฝาก เพื่อนำเงินทุนมาประกอบอาชีพ โดยผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินจากกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนนี้ จะต้องเป็นเกษตรกรที่ยากจน หรือเป็นผู้ยากจน ซึ่งมีรายได้ต่อคนไม่เกิน 87,000 บาท อีกทั้งหนี้ที่เกิดขึ้นโดยสุจริต โดยเกษตรกรที่ยากจนในพื้นที่กรุงเทพฯจะต้องยื่นเรื่องต่อคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนระดับเขต เพื่อพิจารณาความช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินงานของกองทุนหมุนเวียนฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (กชก.) ซึ่งในการดำเนินงาน กชก.ได้มอบอำนาจการพิจารณาอนุมัติเงินกู้กองทุนหมุนเวียนฯ ให้คณะอนุกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (อชก.) เป็นผู้อนุมัติเงินกู้แทน กชก.ประกอบด้วย 1.อชก.เขต/อำเภอ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนหมุนเวียนฯ ภายในวงเงินที่ขอกู้รายละไม่เกิน 300,000 บาท 2.อชก.กทม./อชก.จังหวัด พิจารณาอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนหมุนเวียนฯ สำหรับวงเงินที่ขอกู้รายละเกินกว่า 300,000 บาท แต่ไม่เกินรายละ 500,000 บาท 3. อชก.ส่วนกลาง เป็นผู้พิจารณาอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนหมุนเวียนฯ สำหรับวงเงินที่ขอกู้รายละเกินกว่า 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 2,500,000 บาท
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายอรรถพร สุวัธนเดชา รองปลัด กทม.เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนกรุงเทพมหานคร (อชก.กทม.) ประกอบด้วย สำนักพัฒนาสังคม กทม. ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อพิจารณาและอนุมัติให้กู้ยืมเงินจากกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ.2546 นำไปชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยสูง โดยในวันนี้เป็นการพิจารณาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เขตสายไหม จำนวน 1 ราย ซึ่งยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือเพื่อไถ่ถอนที่ดินจากการจำนอง ตั้งแต่ปี 2553 รวมเป็นวงเงินหนี้ที่ต้องชำระ 450,000 บาท ทั้งนี้ ประชุมเห็นชอบอนุมัติความช่วยเหลือแล้ว คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายเงินจากกองทุนและชำระหนี้ได้ภายใน 2 เดือน
นายอรรถพร กล่าวว่า กองทุนดังกล่าวนับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนไม่ให้สูญเสียที่ดินทำกิน จากการนำที่ดินที่มีอยู่ไปจำนอง หรือขายฝาก เพื่อนำเงินทุนมาประกอบอาชีพ โดยผู้มีสิทธิกู้ยืมเงินจากกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนนี้ จะต้องเป็นเกษตรกรที่ยากจน หรือเป็นผู้ยากจน ซึ่งมีรายได้ต่อคนไม่เกิน 87,000 บาท อีกทั้งหนี้ที่เกิดขึ้นโดยสุจริต โดยเกษตรกรที่ยากจนในพื้นที่กรุงเทพฯจะต้องยื่นเรื่องต่อคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนระดับเขต เพื่อพิจารณาความช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินงานของกองทุนหมุนเวียนฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (กชก.) ซึ่งในการดำเนินงาน กชก.ได้มอบอำนาจการพิจารณาอนุมัติเงินกู้กองทุนหมุนเวียนฯ ให้คณะอนุกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (อชก.) เป็นผู้อนุมัติเงินกู้แทน กชก.ประกอบด้วย 1.อชก.เขต/อำเภอ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนหมุนเวียนฯ ภายในวงเงินที่ขอกู้รายละไม่เกิน 300,000 บาท 2.อชก.กทม./อชก.จังหวัด พิจารณาอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนหมุนเวียนฯ สำหรับวงเงินที่ขอกู้รายละเกินกว่า 300,000 บาท แต่ไม่เกินรายละ 500,000 บาท 3. อชก.ส่วนกลาง เป็นผู้พิจารณาอนุมัติคำขอกู้เงินกองทุนหมุนเวียนฯ สำหรับวงเงินที่ขอกู้รายละเกินกว่า 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 2,500,000 บาท
