ส่อทุจริต! สอบครูผู้ช่วย สพฐ.“พงศ์เทพ” เรียกด่วน บอร์ด ก.ค.ศ.วาระพิเศษ หลังพบผู้เข้าสอบ 1 รายมีชื่อเข้าสอบ และสอบติดขึ้นบัญชีทั้ง 2 แห่ง ทั้งที่ทั่วประเทศสอบวันเดียวกัน “ชินภัทร” เผย ผลตรวจสอบเบื้องต้นจากทั้ง 2 เขต พบมีผู้อื่นเข้าสอบแทน เตรียมตั้งกรรมการกลางของ ก.ค.ศ.ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบผิดจริงตัดสิทธิ์สอบ
วันนี้ (6 ก.พ.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่มี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมมีวาระด่วนเพื่อพิจารณาเรื่องการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หลายแห่งเพิ่งเปิดสอบไปช่วงต้นเดือน ม.ค.และประกาศผลวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า ผู้เข้าสอบ 1 ราย มีชื่อสอบผ่านการคัดเลือกและขึ้นบัญชีไว้ 2 แห่ง คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษา (สพป.) ศรีสะเกษ เขต 3 และ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ทั้งๆ ที่ เขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งได้จัดสอบคัดเลือกพร้อมกันในวันที่ 13 ม.ค.ดังนั้น เพื่อความรอบครอบ สพฐ.จึงนำกรณีดังกล่าวเข้าหารือในบอร์ด ก.ค.ศ.เพื่อหาทางแก้ปัญหา
ทั้งนี้ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 และขอนแก่น เขต 3 ได้แก้ไขปัญหาโดยตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และได้รายการผลอย่างไม่เป็นทางการมาแล้ว โดยทาง สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ตรวจสอบพบว่า ผู้เข้าสอบรายดังกล่าว เข้าสอบจริง มีหลักฐานยืนยันเป็นรูปถ่ายจากโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งติดตั้งในสถานที่สอบ และลายเซ็นในวันสอบของเจ้าตัวซึ่งตรงกันลายเซ็นที่ให้ไว้ในใบสมัคร ขณะที่ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ทำการตรวจสอบจากโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในห้องสอบ พบว่า มีผู้อื่นเข้าสอบแทน โดยใช้บัตรประจำตัวของผู้เข้าสอบ นอกจากนั้น ลายเซ็นในวันสอบก็ไม่เหมือนกันลายเซ็นในใบสมัครด้วย ซึ่งผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ได้นำเรื่องเข้า อ.ก.ค.ศ.ขอนแก่น เขต 3 แล้ว เพื่อเสนอแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เข้าสอบแทน
“ที่ประชุมได้อภิปรายเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง และเห็นว่า ยังไม่ควรตัดสิทธิ์ผู้เข้าสอบรายดังกล่าวในตอนนี้ ให้รอผลการสืบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งขณะนี้ เขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 2 แห่ง ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ในส่วนของ สพฐ.ก็ได้ตั้งกรรมการในส่วนกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน แต่เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง ที่ประชุมได้ให้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอีกชุด” นายชินภัทร กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าสอบดังกล่าวมีชื่ออยู่ในอันดับ 1 ของบัญชี สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 เอกวิชาภาษาไทย และอยู่ในอันดับ 15 ของ สพป.ขอนแก่น เขต 3 เอกวิชาทั่วไป ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อคนอื่นๆ ดังนั้น สำหรับบัญชีรายชื่อเอกภาษาไทยของ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ซึ่งจะเรียกบรรจุ 2 ตำแหน่งนั้น มีมติให้บรรจุผู้ที่ได้คะแนนอันดับ 2 ได้ทันที แต่ยังไม่ให้บรรจุเจ้าตัว ต้องรอผลการสอบออกมาก่อน ถ้าไม่มีความผิดก็จะให้บรรจุ แต่ถ้าพบความผิด ให้เรียกผู้ที่อยู่ในอันดับ 3 มาบรรจุแทน
ด้าน นายพงศ์เทพ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่โอกาสที่เจ้าตัวจะไม่รู้เห็นกับการที่มีผู้อื่นเข้าสอบแทนที่ สพป.ขอนแก่น เขต 3 คงเป็นไปได้ยาก
วันนี้ (6 ก.พ.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่มี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมมีวาระด่วนเพื่อพิจารณาเรื่องการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หลายแห่งเพิ่งเปิดสอบไปช่วงต้นเดือน ม.ค.และประกาศผลวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า ผู้เข้าสอบ 1 ราย มีชื่อสอบผ่านการคัดเลือกและขึ้นบัญชีไว้ 2 แห่ง คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษา (สพป.) ศรีสะเกษ เขต 3 และ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ทั้งๆ ที่ เขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งได้จัดสอบคัดเลือกพร้อมกันในวันที่ 13 ม.ค.ดังนั้น เพื่อความรอบครอบ สพฐ.จึงนำกรณีดังกล่าวเข้าหารือในบอร์ด ก.ค.ศ.เพื่อหาทางแก้ปัญหา
ทั้งนี้ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 และขอนแก่น เขต 3 ได้แก้ไขปัญหาโดยตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และได้รายการผลอย่างไม่เป็นทางการมาแล้ว โดยทาง สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ตรวจสอบพบว่า ผู้เข้าสอบรายดังกล่าว เข้าสอบจริง มีหลักฐานยืนยันเป็นรูปถ่ายจากโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งติดตั้งในสถานที่สอบ และลายเซ็นในวันสอบของเจ้าตัวซึ่งตรงกันลายเซ็นที่ให้ไว้ในใบสมัคร ขณะที่ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ทำการตรวจสอบจากโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในห้องสอบ พบว่า มีผู้อื่นเข้าสอบแทน โดยใช้บัตรประจำตัวของผู้เข้าสอบ นอกจากนั้น ลายเซ็นในวันสอบก็ไม่เหมือนกันลายเซ็นในใบสมัครด้วย ซึ่งผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ได้นำเรื่องเข้า อ.ก.ค.ศ.ขอนแก่น เขต 3 แล้ว เพื่อเสนอแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เข้าสอบแทน
“ที่ประชุมได้อภิปรายเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง และเห็นว่า ยังไม่ควรตัดสิทธิ์ผู้เข้าสอบรายดังกล่าวในตอนนี้ ให้รอผลการสืบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งขณะนี้ เขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 2 แห่ง ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ในส่วนของ สพฐ.ก็ได้ตั้งกรรมการในส่วนกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน แต่เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง ที่ประชุมได้ให้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอีกชุด” นายชินภัทร กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าสอบดังกล่าวมีชื่ออยู่ในอันดับ 1 ของบัญชี สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 เอกวิชาภาษาไทย และอยู่ในอันดับ 15 ของ สพป.ขอนแก่น เขต 3 เอกวิชาทั่วไป ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อคนอื่นๆ ดังนั้น สำหรับบัญชีรายชื่อเอกภาษาไทยของ สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ซึ่งจะเรียกบรรจุ 2 ตำแหน่งนั้น มีมติให้บรรจุผู้ที่ได้คะแนนอันดับ 2 ได้ทันที แต่ยังไม่ให้บรรจุเจ้าตัว ต้องรอผลการสอบออกมาก่อน ถ้าไม่มีความผิดก็จะให้บรรจุ แต่ถ้าพบความผิด ให้เรียกผู้ที่อยู่ในอันดับ 3 มาบรรจุแทน
ด้าน นายพงศ์เทพ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่โอกาสที่เจ้าตัวจะไม่รู้เห็นกับการที่มีผู้อื่นเข้าสอบแทนที่ สพป.ขอนแก่น เขต 3 คงเป็นไปได้ยาก