ศธ.ปรับโครงสร้างใหม่ยกฐานะ กศน.แท่งที่ 6 ชี้ เหตุภาระงานมาก “พงศ์เทพ” ระบุ มีการดำเนินการมาแต่ก่อนที่มารับตำแหน่ง ยันการปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่ใหญ่เช่นตอนปรับปี 42 ด้าน “พนิตา” คาดการผลักดันโครงสร้างอาจใช้เวลานานถึง 2 ปี
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการเสนอปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า การผลักดันเรื่องนี้น่าจะใช้เวลานานอาจจะถึงสองปีเพราะหลังจากที่ ศธ.ได้เสนอร่างการปรับโครงสร้าง ศธ.ไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) แล้วก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการชุดที่มี นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะต้องมีการเชิญ ศธ.ไปชี้แจงอีกหลายครั้งและหากได้ข้อสรุปจาก ก.พ.ร.แล้วจึงจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนั้นจะนำเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อ ซึ่งในขั้นตอนนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี เพราะจะต้องมีการพิจารณาร่วมกันกับ ศธ.เพื่อแก้ไขกฎหมายต่างๆ และเมื่อเสร็จแล้วจะนำเสนอเข้าที่ประชุมครม.อีกครั้งหนึ่งเมื่อเห็นชอบจึงจะนำเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นตนไม่แน่ใจว่า 2 ปี จะดำเนินการเรื่องนี้เสร็จหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สำหรับร่างที่จะปรับให้สำนักงานปลัดเป็นตัวกลางในการควบคุมนโยบายและงบประมาณ และให้มีการเสนอเรื่องไปยัง รมว.ศึกษาธิการ ขององค์กรหลักอื่นๆ ต้องผ่านสำนักงานปลัดนั้นเป็นร่างของการเมืองสมัย นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในสมัย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ ที่ต้องการให้รวมศูนย์ที่ สป.จะช่วยตัดความซ้ำซ้อน และจะเห็นภาพของ ศธ.ชัดเจนขึ้น ซึ่งร่างของฝ่ายการเมืองที่เสนอนั้นไม่ได้เสนอไปที่ ก.พ.ร.เพราะปกติจะนำเสนอไปประกอบในช่วงที่ศธ.จะเสนอร่างของ ศธ.เข้าสู่สภาผู้แทนฯ ทั้งนี้ เท่าที่หารือเบื้องต้นร่างของนายโสภณนั้น ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรที่แตกต่างจากของ ศธ.และไม่ได้มีการเสนอให้ปรับโครงสร้าง ศธ.ให้กลับไปเป็นกรมเหมือนเดิม
ส่วนที่มีข้อเสนอแนะจากนักวิชาการไม่เห็นด้วยกับการยกฐานะสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นแท่งนั้น นางพนิตา กล่าวว่า เนื่องจากปริมาณงาน กศน.มีเยอะมาก ทั้งต้องดูแลนักเรียน กศน.หลายล้านคนและยังมีครู กศน.อีกทั่วประเทศที่ดูแล กศน.ตั้งแต่ระดับจังหวัดไปจนถึงระดับตำบล ดังนั้น จึงมีเหตุผลและจำเป็นที่จะต้องยกฐานะเป็นแท่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ ก.พ.ร.และ ศธ.ที่ต้องพูดคุยกันและศธ.ก็ต้องให้คำตอบแก่ ก.พ.ร.ได้ถึงหตุผลและความจำเป็นในการยก กศน.เป็นแท่ง
ด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การยกฐานะสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ขึ้นเป็นนิติบุคลภายใต้สำนักงานปลัด ศธ.และยก กศน.เป็นแท่งที่ 6เป็นเรื่องที่ได้ดำเนินการมาก่อนที่ตนจะมาแล้ว และยืนยันว่า เป็นการปรับโครงสร้างเล็กไม่ได้มีการปรับรื้อใหญ่โตเหมือนปี 2542 ทั้งนี้ กรณีของกศน.เป็นการดูภาระงานที่มาก ซึ่งตนก็เห็นว่ามีเหตุผลที่จะยกเป็นแท่ง
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการเสนอปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า การผลักดันเรื่องนี้น่าจะใช้เวลานานอาจจะถึงสองปีเพราะหลังจากที่ ศธ.ได้เสนอร่างการปรับโครงสร้าง ศธ.ไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) แล้วก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการชุดที่มี นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะต้องมีการเชิญ ศธ.ไปชี้แจงอีกหลายครั้งและหากได้ข้อสรุปจาก ก.พ.ร.แล้วจึงจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนั้นจะนำเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อ ซึ่งในขั้นตอนนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี เพราะจะต้องมีการพิจารณาร่วมกันกับ ศธ.เพื่อแก้ไขกฎหมายต่างๆ และเมื่อเสร็จแล้วจะนำเสนอเข้าที่ประชุมครม.อีกครั้งหนึ่งเมื่อเห็นชอบจึงจะนำเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นตนไม่แน่ใจว่า 2 ปี จะดำเนินการเรื่องนี้เสร็จหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สำหรับร่างที่จะปรับให้สำนักงานปลัดเป็นตัวกลางในการควบคุมนโยบายและงบประมาณ และให้มีการเสนอเรื่องไปยัง รมว.ศึกษาธิการ ขององค์กรหลักอื่นๆ ต้องผ่านสำนักงานปลัดนั้นเป็นร่างของการเมืองสมัย นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในสมัย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ ที่ต้องการให้รวมศูนย์ที่ สป.จะช่วยตัดความซ้ำซ้อน และจะเห็นภาพของ ศธ.ชัดเจนขึ้น ซึ่งร่างของฝ่ายการเมืองที่เสนอนั้นไม่ได้เสนอไปที่ ก.พ.ร.เพราะปกติจะนำเสนอไปประกอบในช่วงที่ศธ.จะเสนอร่างของ ศธ.เข้าสู่สภาผู้แทนฯ ทั้งนี้ เท่าที่หารือเบื้องต้นร่างของนายโสภณนั้น ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรที่แตกต่างจากของ ศธ.และไม่ได้มีการเสนอให้ปรับโครงสร้าง ศธ.ให้กลับไปเป็นกรมเหมือนเดิม
ส่วนที่มีข้อเสนอแนะจากนักวิชาการไม่เห็นด้วยกับการยกฐานะสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เป็นแท่งนั้น นางพนิตา กล่าวว่า เนื่องจากปริมาณงาน กศน.มีเยอะมาก ทั้งต้องดูแลนักเรียน กศน.หลายล้านคนและยังมีครู กศน.อีกทั่วประเทศที่ดูแล กศน.ตั้งแต่ระดับจังหวัดไปจนถึงระดับตำบล ดังนั้น จึงมีเหตุผลและจำเป็นที่จะต้องยกฐานะเป็นแท่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ ก.พ.ร.และ ศธ.ที่ต้องพูดคุยกันและศธ.ก็ต้องให้คำตอบแก่ ก.พ.ร.ได้ถึงหตุผลและความจำเป็นในการยก กศน.เป็นแท่ง
ด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การยกฐานะสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ขึ้นเป็นนิติบุคลภายใต้สำนักงานปลัด ศธ.และยก กศน.เป็นแท่งที่ 6เป็นเรื่องที่ได้ดำเนินการมาก่อนที่ตนจะมาแล้ว และยืนยันว่า เป็นการปรับโครงสร้างเล็กไม่ได้มีการปรับรื้อใหญ่โตเหมือนปี 2542 ทั้งนี้ กรณีของกศน.เป็นการดูภาระงานที่มาก ซึ่งตนก็เห็นว่ามีเหตุผลที่จะยกเป็นแท่ง