สสวท.เร่งแก้ปัญหาเด็กไทยวิทย์-คณิต อ่อน จัดทำสื่อดิจิตอลเสริมความรู้เด็กทั้งในและนอกห้องเรียน
นางพรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ของเด็กไทยในภาพรวมของประเทศมีผลคะแนนตกต่ำ ทั้งที่ที่ผ่านมา มีการอบรม และพัฒนาครูด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพราะสาเหตุของปัญหาเกิดจากหลายปัจจัย เช่น บริบทของโรงเรียนที่มีปัญหาขาดแคลนสื่อ จำนวนครูไม่พอ อย่างไรก็ตาม สสวท.มีหลายทางเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว เช่น เร่งพัฒนาครูให้มีทักษะ และวิธีการที่จะสามารถบูรณาการการสอนให้น่าสนใจและสนุกสนาน เพื่อให้เด็กสามารถต่อยอดในการเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ซึ่งต้องอาศัยครูเป็นตัวกระตุ้น ขณะเดียวกันจะมีการผลิตสื่อการเรียนรู้ดิจิตอลต่างๆ เพื่อให้เป็นเครื่องมือที่นักเรียนจะสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ได้
ทั้งนี้ การจัดทำสื่อการเรียนรู้ดิจิตอลนั้น จะต้องจัดทำหลายรูปแบบ เพราะโรงเรียนมีความหลากหลาย ซึ่งบางแห่งอาจจะยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ก็จะต้องมีแค่หนังสือ หรือเอกสารก่อน ขณะที่บางแห่งมีคอมพิวเตอร์อยู่ที่โรงเรียน แต่เป็นระบบปิดไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ก็อาจจะเป็นดีวีดี ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในเมือง หรือกรุงเทพฯ ไม่น่าห่วง เพราะโรงเรียนเหล่านี้มีทางเลือกที่หลากหลายอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าทุกฝ่ายร่วมกันกระตุ้นทั้งครู และจัดหาสื่อเรียนรู้ให้เด็กสามารถเรียนรู้นอกห้องเรียนได้ น่าจะช่วยทำให้ผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ดีขึ้น
“จริงๆ แล้วขณะนี้เวลาเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ในชั้นเรียนของเด็กก็มีไม่เพียงพออยู่แล้ว เพราะต้องเรียนถึง 8กลุ่มวิชา โดยรัฐบาลก็เห็นภาพในส่วนนี้ และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็กำลังที่จะเข้ามาจัดการโครงสร้างเวลาเรียน หลักสูตร ตลอดจนกระตุ้นครู ขณะเดียวกัน ก็จะต้องมีการกระตุ้นเรื่องการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี2558 ที่ต้องคำนึงถึงการใช้ภาษา โดยภาษาแม่ก็ต้องใช้ได้ ถึงจะเรียนรู้วิชาต่างๆได้ ส่วนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษก็มีความสำคัญ เพื่อจะรู้เท่าทันการแข่งขันประเทศอาเซียนได้ สำหรับการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะเป็นฐานการเรียนรู้ของนักเรียนทุกระดับ และทุกสังกัด ไม่ว่าจะเป็น ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา เอกชน ท้องถิ่น ดังนั้นเวลาทำงาน สสวท.ก็จะครอบคลุมนักเรียนทุกสังกัดอย่างทั่วถึง” นางพรพรรณ กล่าว
นางพรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ของเด็กไทยในภาพรวมของประเทศมีผลคะแนนตกต่ำ ทั้งที่ที่ผ่านมา มีการอบรม และพัฒนาครูด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพราะสาเหตุของปัญหาเกิดจากหลายปัจจัย เช่น บริบทของโรงเรียนที่มีปัญหาขาดแคลนสื่อ จำนวนครูไม่พอ อย่างไรก็ตาม สสวท.มีหลายทางเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว เช่น เร่งพัฒนาครูให้มีทักษะ และวิธีการที่จะสามารถบูรณาการการสอนให้น่าสนใจและสนุกสนาน เพื่อให้เด็กสามารถต่อยอดในการเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ซึ่งต้องอาศัยครูเป็นตัวกระตุ้น ขณะเดียวกันจะมีการผลิตสื่อการเรียนรู้ดิจิตอลต่างๆ เพื่อให้เป็นเครื่องมือที่นักเรียนจะสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ได้
ทั้งนี้ การจัดทำสื่อการเรียนรู้ดิจิตอลนั้น จะต้องจัดทำหลายรูปแบบ เพราะโรงเรียนมีความหลากหลาย ซึ่งบางแห่งอาจจะยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ก็จะต้องมีแค่หนังสือ หรือเอกสารก่อน ขณะที่บางแห่งมีคอมพิวเตอร์อยู่ที่โรงเรียน แต่เป็นระบบปิดไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ก็อาจจะเป็นดีวีดี ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในเมือง หรือกรุงเทพฯ ไม่น่าห่วง เพราะโรงเรียนเหล่านี้มีทางเลือกที่หลากหลายอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าทุกฝ่ายร่วมกันกระตุ้นทั้งครู และจัดหาสื่อเรียนรู้ให้เด็กสามารถเรียนรู้นอกห้องเรียนได้ น่าจะช่วยทำให้ผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ดีขึ้น
“จริงๆ แล้วขณะนี้เวลาเรียนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ในชั้นเรียนของเด็กก็มีไม่เพียงพออยู่แล้ว เพราะต้องเรียนถึง 8กลุ่มวิชา โดยรัฐบาลก็เห็นภาพในส่วนนี้ และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็กำลังที่จะเข้ามาจัดการโครงสร้างเวลาเรียน หลักสูตร ตลอดจนกระตุ้นครู ขณะเดียวกัน ก็จะต้องมีการกระตุ้นเรื่องการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี2558 ที่ต้องคำนึงถึงการใช้ภาษา โดยภาษาแม่ก็ต้องใช้ได้ ถึงจะเรียนรู้วิชาต่างๆได้ ส่วนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษก็มีความสำคัญ เพื่อจะรู้เท่าทันการแข่งขันประเทศอาเซียนได้ สำหรับการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะเป็นฐานการเรียนรู้ของนักเรียนทุกระดับ และทุกสังกัด ไม่ว่าจะเป็น ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา เอกชน ท้องถิ่น ดังนั้นเวลาทำงาน สสวท.ก็จะครอบคลุมนักเรียนทุกสังกัดอย่างทั่วถึง” นางพรพรรณ กล่าว