xs
xsm
sm
md
lg

“พงศพัศ” บุก กกต.กทม.งัดเอกสารมายื่นแสดงความบริสุทธิ์ใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พงศพัศ” บุก กกต.กทม.ยื่นเอกสาร สตช.สั่งยุติเรื่องกรณีถูกกล่าวหาขโมยของที่สหรัฐฯ พร้อมเอกสารได้รับพระราชทานยศ พล.ต.ต.ขณะที่ยังชื่อ “ไพรัช” ชี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ห่วงพวกโพสต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก เจอ กม.เล่นงาน ระบุ พท.เตรียมฟ้องฐานทำให้เสียหาย แม้ตัวเองไม่ติดใจ ด้าน ปธ.กกต.กทม.ชี้ ใครเอามากล่าวหาอีก ถือว่าผิด กม.เพราะมีผลสอบยืนยันบริสุทธิ์ ขณะเดียวกัน ระบุ กรณีนี้ไม่มีปัญหาทำให้ “พงศพัศ” ขาดคุณสมบัติลงสมัคร

วันนี้ (16 ม.ค.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นเอกสารเกี่ยวกับผลการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีเคยถูกกล่าวหาว่า ต้องคดีขโมยวิทยุ ที่สหรัฐอเมริกา เอกสารเกี่ยวกับการได้รับพระราชทานยศ พล.ต.ต.รวมทั้งเอกสารการเปลี่ยนชื่อจาก “ไพรัช” เป็น “พงศพัศ” ต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร โดย พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า กรณีที่เป็นข่าวว่าตนมีปัญหาในเรื่องของคุณสมบัติการลงสมัครจาก 2 ประเด็นดังกล่าวนั้น เห็นว่า เป็นการคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยในเรื่องที่กล่าวหาว่าเคยต้องคดีขโมยวิทยุนั้น ข้อเท็จจริงมีการกล่าวหาเรื่องนี้เมื่อปี 41 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนแล้วเสร็จในปี 43 โดยสั่งให้ยุติเรื่องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 ก.ย.43 ซึ่งผลสรุปว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์

ส่วนที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศ พล.ต.ต.นั้น ตนติดยศ พ.ต.อ.ตั้งแต่ปี 38 ในชื่อ พ.ต.อ.ไพรัช พงษ์เจริญ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง พล.ต.ต.ในปี 40 ซึ่งก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ จนปี 41 เห็นว่า เรื่องร้ายที่เจอได้ผ่านพ้นไปแล้ว ภรรยาจึงได้ขอให้เปลี่ยนชื่อ จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อ “พงศพัศ” ดังนั้น ที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศ พล.ต.ต.จึงไม่เป็นความจริง
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
“ผมถูกให้ร้ายมานับสิบๆ ปี แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรมาก ถือว่าให้มันผ่านๆ ไป แต่เผอิญขณะนี้มีการเลือกตั้ง ฝ่ายกฎหมายของพรรค ก็พิจารณาอยู่ว่ามีจุดอยู่บ้างที่เป็นปัญหา ผมก็ขอว่าไม่ให้พิจารณาเรื่องนี้ เพราะจะนำมาให้กับ กกต.เอง เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นห่วงสื่อมวลชน และน้องๆ ที่ไปโพสต์ข้อความในโซเชียลเน็ตเวิร์กโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง ว่า อาจจะถูกดำเนินคดีได้ เพราะมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ใช้คำว่าห้าม “ผู้ใด” กระทำการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ อีกทั้งขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้ว เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้ทุกคนมีความผิด”

พล.ต.อ.พงศพัศ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่มีเจตนาที่จะไปฟ้องร้องใคร เพราะคิดว่าเรื่องผ่านไปนานแล้ว และไม่มีมูล อีกทั้งแนวนโยบายการหาเสียงก็เป็นเชิงบวก ไม่อยากใส่ร้ายใคร แต่หลังจากนี้ หากมีผู้นำเรื่องนี้มาพูด หรือเขียนถึง ก็จะรวบรวมไว้ เพราะพรรคก็ถือว่ามีส่วนเสียหาย

ด้านพล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า หลังปิดรับสมัครแล้วทาง กกต.ท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร ก็จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ดังนั้น ไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.ปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร ก็จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น ขออย่าได้กังวล เพราะจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติทั่วๆ ไป

เมื่อถามว่า หากมีผู้นำเรื่องดังกล่าวขึ้นมากล่าวหา พล.ต.อ.พงศพัศ อีก จะถือเป็นความผิดตามมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ ประธาน กกต.กทม. กล่าวว่า ถือว่าผิดแล้วเพราะขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดรับสมัคร แต่ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็ได้เปิดตัวแล้ว อีกทั้งมีผลสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ยุติเรื่องนี้ เมื่อถามต่อว่าหากมีข้อมูลว่าศาลสหรัฐมีคำพิพากษาลงโทษ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า ก็เอาข้อมูลมา และต้องมาดูว่ามีผลกับกฎหมายไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าดู พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นมาตรา 44 ประกอบ 45(5) ที่ระบุเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง (5) บัญญัติห้ามมิให้ผู้ที่ได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และพ้นโทษมายังไม่ถึง 5 วันจนถึงวันรับเลือกตั้ง เป็นผู้มีสิทธิลงสมัคร เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ดังนั้น ถ้าใครจะนำเรื่องนี้มากล่าวหา พล.ต.อ.พงศพัศ ว่า มีปัญหาคุณสมบัติในการรับสมัครไม่มีประโยชน์ และผู้กล่าวหาอาจเข้าข่ายผิดมาตรา 57 เสียเองด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น