xs
xsm
sm
md
lg

ไฟเขียวเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.3 มี.ค.สมัคร 21-25 ม.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กกต.กทม.เห็นชอบเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.3 มี.ค.เปิดรับสมัคร 21-25 ม.ค.เตือนผู้สมัครอบรมผู้ช่วยหาเสียงรู้ กม.หวั่นทำนายเจอใบแดง ขณะเดียวกัน เตือนอย่าใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กหาเสียงใส่ร้าย

วันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.ท ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุม กกต.กทม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่ปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครเสนอร่างประกาศเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 3 มี.ค.และกำหนดให้เปิดรับสมัครเลือกตั้งวันที่ 21-25 ม.ค.เวลา 08.30-16.30 น.ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยทาง กกต.กทม.จะเสนอมติดังกล่าวไปยังปลัด กทม.ในวันเดียวกันนี้ เพื่อลงนามซึ่งก็จะทำให้ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับในทันที ดังนั้น การหาเสียงต่างของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งควรยึดกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการร้องเรียนตามมา อย่างไรก็ตาม ในวันสมัครรับเลือกตั้ง ผู้สมัครสามารถจัดกองเชียร์ไปสนับสนุนได้แต่ต้องระวังไม่ให้เข้าข่ายการจัดมหรสพ รื่นเริง ซึ่งเชื่อว่าผู้สมัครเข้าใจดีว่าควรจัดในลักษณะใด

พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยังกล่าวว่าด้วยว่า ทาง กกต.กทม.เป็นห่วงเรื่องการหาเสียงใส่ร้าย ซึ่งอยากให้ผู้สมัครได้ศึกษาข้อกฎหมายและประกาศ กกต.2 ฉบับที่เกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยเฉพาะในเรื่องที่ห้ามมิให้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาหาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงที่กำหนดให้ผู้สมัครต้องอบรมผู้ช่วยหาเสียงให้รู้จักกฎหมายเลือกตั้งอย่างครบถ้วน เพราะว่าผู้ช่วยหาเสียงเข้าข่ายเป็น “ผู้ใด” ในความหมายของมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2545 ที่บัญญัติว่า ห้ามมิให้กระทำการใดๆ ที่เป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับตนเอง หรืองดเว้นการลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครใดด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เพราะในอดีตเมื่อมีการกระทำผิดของผู้ช่วยหาเสียง ผู้สมัครมักจะอ้างว่าตนเองไม่รู้เห็น กกต.จะพิจารณาให้สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือใบเหลือง แต่เมื่อมีประกาศฉบับดังกล่าว ผู้สมัครจะอ้างไม่รู้เห็นกับการกระทำของผู้ช่วยหาเสียงไม่ได้แล้ว ต้องคำนึงเสมอว่าการกระทำของผู้ช่วยหาเสียงมีผลต่อการประกาศหรือไม่ประกาศรับรองผลให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ของ กกต.

“ข้อห้ามในการหาเสียงตามมาตรา 57(5) ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ ห้ามมิให้หาเสียงด้วยการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งอยากให้ผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียงระมัดระวัง เรื่องใดที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ถ้ายังไม่ถึงที่สุด การหาเสียงอย่าไปชี้ถูกผิด จะเข้าข่ายผิดมาตรานี้ แต่ถ้าเป็นการพูดถึงการถูกกล่าวหาสามารถพูดได้”

ประธาน กกต.กทม.กล่าวต่อว่า ส่วนการหาเสียงผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น กกต.เปิดโอกาสให้ผู้สมัครหาเสียงผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ทุกประเภท ทั้งสื่อเปิด สื่อปิด ซึ่งเราได้มีการจัดเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบ รวมถึงประสานกับกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้ทำการตรวจสอบกรณีมีการโพสต์ข้อความใส่ร้ายผู้สมัคร เพราะการโพสต์ข้อความต่างๆ สามารถตรวจสอบเลขหมาย IP ของผู้ที่โพสต์ข้อความได้ อย่างไรก็ตาม การโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิที่ทำได้ตามกฎหมายแต่ต้องไม่เป็นการใสร้ายผู้หนึ่งผู้ใด เพราะถ้าโพสต์ใส่ร้ายผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.นอกจากทำให้ผู้สมัครที่ตนเองสนับสนุนอาจถูกใบเหลือง ใบแดงแล้ว ผู้โพสต์ยังอาจต้องถูกดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 118 จำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2แสนบาท ยังไม่รวมความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น