xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯดึง อสม.ร่วมแก้ปัญหายาเสพติด-พีอาร์โครงการสุขภาพ รบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ยิ่งลักษณ์” อวย อสม.1.4 ล้านคน มีความสำคัญต่อระบบสาธารณสุข วอนเป็นหูเป็นตาแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมทำหน้าที่พีอาร์โครงการสุขภาพรัฐบาล

วันนี้ (9 ม.ค.) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานและมอบนโยบายการประชุมปฏิบัติการโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบาย รัฐบาล และการสาธารณสุข “รวมพลัง อสม.คืนหัวใจให้พ่อแม่ คืนลูกหลานสู่อ้อมกอด” โดยมี อสม.เข้าร่วม 8,300 คน ว่า ปัจจุบัน อสม.ซึ่งทำงานด้านสาธารณสุข มีประมาณ 1.4 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงอยากฝากให้ อสม.ทุกคนทำหน้าที่แทนรัฐบาลในการสอดส่องปัญหายาเสพติด รวมทั้งดึงผู้ติดยาเข้ารับการบำบัด ซึ่งปีที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับการบำบัด 4 แสนคน จึงอยากขอความร่วมมือในการรณรงค์ในเรื่องนี้ และอยากให้ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการรัฐบาลในเรื่องสุขภาพ ทั้งนโยบายแพทย์ฉุกเฉินและการบูรณาการ 3 กองทุน ที่ช่วยลดการตายจากอุบัติเหตุลงได้ โดยล่าสุด ยังได้ขยายสิทธิไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และรัฐวิสาหกิจให้เข้าถึงสิทธิดังกล่าวด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงการบริการ 30 บาท ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยสามารถขอย้ายโรงพยาบาลกรณีย้ายที่ทำงาน ซึ่งสามารถย้ายได้ปีละ 4 ครั้ง นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลล่าสุดทราบว่า ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล พบว่า มีประชาชนที่เจ็บป่วยซื้อยากินเองถึงร้อยละ 72 ด้วยเหตุนี้รัฐบาลไม่อยากให้เสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ และอยากให้ประชาชนได้รับการรักษาที่ถูกวิธี จึงอยากฝากให้พี่น้อง อสม.เชิญชวนประชาชนมารับริการด้วย

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ และใช้ยุทธศาสตร์ “พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” เนื่องจากช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยยาเสพติดสูงขึ้นเป็น 3 เท่า ปัจจุบันคาดว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 1.3 ล้านคน หรือติดเป็นอัตราส่วน 19 คนต่อประชากร 1,000 คน โดยมีความชุกมากในพื้นที่ 31 จังหวัด 338 อำเภอ และ 60,584 หมู่บ้านจากทั้งหมด 84,302 หมู่บ้าน โดยมีหมู่บ้าน หรือชุมชนร้อยละ 13 หรือประมาณ 10,000 แห่งที่มีปัญหานี้มาก กลุ่มอายุที่ใช้ยาเสพติดมากสุด คือ อายุ 15-24 ปี ส่วนใหญ่รับจ้างและว่างงาน ยาเสพติดจึงเป็นปัญหาใกล้ตัว

นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ในปี 2556 ตั้งเป้าบำบัดผู้เสพยาเสพติดรายใหม่ให้ได้ 300,000 คน พร้อมทั้งจัดระบบติดตามป้องกันไม่ให้ผู้ผ่านการบำบัดแล้วกลับไปเสพอีก ซึ่งรวมแล้วมีประมาณ 700,000 คน เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่า อัตราการหวนเสพยาหลังบำบัดสูงถึงร้อยละ10 ซึ่งสูงกว่า 5 ปีที่ผ่านมาถึง 5 เท่า จึงต้องเพิ่มกลไกในเรื่องนี้ โดยรัฐบาลได้เปิดโครงการชุมชนอุ่นใจ ได้ลูกหลานกลับคืน ซึ่งเปิดพื้นที่ปฏิบัติการในชุมชนให้ดำเนินการในพื้นที่ นำร่องไปแล้ว 10 จังหวัด และจะขยายทั่วประเทศต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายกฯมอบนโยบายเสร็จ นายไพฑูรย์ บุญรักษา ประธานอสม.แห่งประเทศไทย ได้กล่าวนำปฏิญาณตนให้ อสม.รับภารกิจจากรัฐบาลในการนำไปปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น