“สุขุมพันธุ์” ทิ้งทวนเซ็นต่ออายุเก็บค่าโดยสารรถเมล์บีอาร์ที 10 บาทตลอดสาย จนถึงสิ้นปีหน้า เสนอคณะ กก.ขนส่งทางบกกลาง ให้ความเห็นชอบหลังโครงการเดิมจะหมด 31 ธ.ค.นี้ อ้างช่วยเหลือประชาชน-ลดค่าครองชีพ แก้รถติดในเมืองกรุง
รายงานข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กทม.ได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขส.) กระทรวงคมนาคม นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ กทม.ขยายเวลาการจัดเก็บค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษแบบชิดเกาะกลาง (บีอาร์ที)ในเส้นทางหมวด 1 สายที่ 402 เส้นทางจากถนนสาทร-ถนนราชพฤกษ์ ซึ่ง กทม.ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถที่ใช้ขนส่งผู้โดยสารเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2553 (ใบอนุญาตเลขที่ 3/2553) อัตราเดียว 10 บาทตลอดสายออกไปอีกเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2556 พร้อมแนบข้อมูลปริมาณผู้โดยสารและรายได้จากการจัดเก็บค่าโดยสาร (10 บาทตลอดสาย) ที่ กทม.รวบรวมสถิติไว้ระหว่างช่วงเดือน ต.ค.2554-ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ตลอดจนรายละเอียดผลการพิจารณาของคณะผู้บริหาร กทม.และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ผู้ว่าฯ กทม.ได้ให้ความเห็นชอบภายใต้นโยบายการลดค่าครองชีพของประชาชน และสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะต่อไป ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าว กทม.ได้ส่งให้ทางกรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา และยังไม่ได้รับการประสานเพื่อเรียกตัวแทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางแต่อย่างใด
ด้านนายมานิต เตชอภิโชค รองปลัด กทม.ในฐานะกำกับดูแลสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวว่า หลังจากที่แผนจัดเก็บค่าโดยสารอัตราเดียว 10 บาทตลอดสาย ตามนโยบายของ กทม.จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ประกอบกับเมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ในฐานะที่ได้รับมอบหมายและว่าจ้างจาก กทม.ให้เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการเดินรถ โครงการให้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีสายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ได้มีหนังสือแจ้ง กทม.ว่า จากรายงานผลการสังเกตการณ์ปริมาณผู้โดยสารในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการในวันธรรมดามีจำนวนเข้าใกล้ 20,000 คนต่อวันแล้ว
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักและสนับสนุนการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายในยุคที่ค่าครองชีพมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น อีกทั้ง กทม.เองมีแผนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลมระยะทาง 5.3 กม.ช่วงจากสถานีตากสิน-บางหว้า ภายในปี 2556 ซึ่งมีจุดต่อเชื่อมกับโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีบริเวณสถานีราชพฤกษ์ ทางเคทีในฐานะผู้บริหารระบบ จึงเห็นว่า หาก กทม.ขยายเวลาจัดเก็บค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสายออกไปอีก 1 ปี ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากโครงการบีอารทีที่จะกลายเป็นระบบขนส่งประชาชนผู้โดยสารขนาดรอง (Feeder) ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต ซึ่ง สจส.กทม.ได้พิจารณาแล้วว่าสมควรแก่การดำเนินการตามที่เคทีให้ข้อเสนอแนะ และได้นำข้อมูลทั้งหมดรายงานต่อปลัด กทม.ก่อนส่งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ขออนุมัติและได้รับความเห็นชอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องรอให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติอนุมัติตามที่ กทม.เสนอไป กทม.จึงจะสามารถประกาศให้ประชาชนรับทราบการคงนโยบายการเก็บค่าตั๋วโดยสาร 10 บาทตลอดสาย จนถึงสิ้นปี 2556 อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
รายงานข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กทม.ได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขส.) กระทรวงคมนาคม นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ กทม.ขยายเวลาการจัดเก็บค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษแบบชิดเกาะกลาง (บีอาร์ที)ในเส้นทางหมวด 1 สายที่ 402 เส้นทางจากถนนสาทร-ถนนราชพฤกษ์ ซึ่ง กทม.ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถที่ใช้ขนส่งผู้โดยสารเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2553 (ใบอนุญาตเลขที่ 3/2553) อัตราเดียว 10 บาทตลอดสายออกไปอีกเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2556 พร้อมแนบข้อมูลปริมาณผู้โดยสารและรายได้จากการจัดเก็บค่าโดยสาร (10 บาทตลอดสาย) ที่ กทม.รวบรวมสถิติไว้ระหว่างช่วงเดือน ต.ค.2554-ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ตลอดจนรายละเอียดผลการพิจารณาของคณะผู้บริหาร กทม.และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ผู้ว่าฯ กทม.ได้ให้ความเห็นชอบภายใต้นโยบายการลดค่าครองชีพของประชาชน และสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะต่อไป ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าว กทม.ได้ส่งให้ทางกรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา และยังไม่ได้รับการประสานเพื่อเรียกตัวแทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางแต่อย่างใด
ด้านนายมานิต เตชอภิโชค รองปลัด กทม.ในฐานะกำกับดูแลสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวว่า หลังจากที่แผนจัดเก็บค่าโดยสารอัตราเดียว 10 บาทตลอดสาย ตามนโยบายของ กทม.จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ประกอบกับเมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ในฐานะที่ได้รับมอบหมายและว่าจ้างจาก กทม.ให้เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการเดินรถ โครงการให้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีสายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ได้มีหนังสือแจ้ง กทม.ว่า จากรายงานผลการสังเกตการณ์ปริมาณผู้โดยสารในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการในวันธรรมดามีจำนวนเข้าใกล้ 20,000 คนต่อวันแล้ว
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักและสนับสนุนการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายในยุคที่ค่าครองชีพมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น อีกทั้ง กทม.เองมีแผนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลมระยะทาง 5.3 กม.ช่วงจากสถานีตากสิน-บางหว้า ภายในปี 2556 ซึ่งมีจุดต่อเชื่อมกับโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีบริเวณสถานีราชพฤกษ์ ทางเคทีในฐานะผู้บริหารระบบ จึงเห็นว่า หาก กทม.ขยายเวลาจัดเก็บค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสายออกไปอีก 1 ปี ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากโครงการบีอารทีที่จะกลายเป็นระบบขนส่งประชาชนผู้โดยสารขนาดรอง (Feeder) ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต ซึ่ง สจส.กทม.ได้พิจารณาแล้วว่าสมควรแก่การดำเนินการตามที่เคทีให้ข้อเสนอแนะ และได้นำข้อมูลทั้งหมดรายงานต่อปลัด กทม.ก่อนส่งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ขออนุมัติและได้รับความเห็นชอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องรอให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติอนุมัติตามที่ กทม.เสนอไป กทม.จึงจะสามารถประกาศให้ประชาชนรับทราบการคงนโยบายการเก็บค่าตั๋วโดยสาร 10 บาทตลอดสาย จนถึงสิ้นปี 2556 อย่างเป็นทางการอีกครั้ง