มุกดาหาร - ประชุมเจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์ไทย-ลาว-เวียดนาม อำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง 3 ประเทศ วางกรอบพัฒนาเส้นทางขนส่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวทั้งที่มุกดาหาร และนครพนม พร้อมเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ด้านภาคเอกชนฝันรัฐต่อยอดทางด่วนมุกดาหาร-โคราช เชื่อมเพื่อนบ้านสู่เมืองหลวงไทยได้สะดวก
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่โรงแรมมุกดาหารแกรนด์โฮเทล อำเภอเมืองมุกดาหาร นายบุญยืน คำหงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดการประชุมเจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์สามฝ่ายไทย-ลาว-เวียดนาม ในการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งเชื่อมต่อสามประเทศ โดยจังหวัดมุกดาหารฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเป็นครั้งแรก มีนายเหวียน ฮู หยุง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกวางตรี เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายเวียดนาม นายสิง ไซยะบัวสี หัวหน้าแผนกการต่างประเทศแขวงสะหวันนะเขต เป็นหัวหน้าคณะฝ่าย สปป.ลาว
นายบุญยืน คำหงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จากการประชุมระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ 3 ฝ่าย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขนส่งระหว่างประเทศที่เมืองดงฮา จังหวัดกวางตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การอำนวยความสะดวกการขนส่งระหว่าง 3 ประเทศ ทั้ง 3 เมืองชายแดน ประกอบด้วย เมืองกวางตรี แขวงสะหวันนะเขต และจังหวัดมุกดาหาร จะร่วมกันพัฒนาเส้นทางคมนาคมที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งระหว่างประเทศได้ ประกอบด้วย
การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ วิเทศสัมพันธ์ทั้ง 3 ฝ่ายไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อประสานงานระหว่างกันอย่างใกล้ชิด ขยายเวลาเปิด-ปิด ด่านพรมแดนลาวบาว บนเส้นทางขนส่ง R9 ให้เป็นเอกภาพเหมือกันทั้ง 3 จังหวัด/แขวง โดยจังหวัดกวางตรี รับจะนำเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาขยายเวลาในการเปิด-ปิด ให้เหมือนกับแขวงสะหวันนะเขต และจังหวัดมุกดาหาร
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยินดีที่รัฐบาลลาวได้ทำการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข R9 เพื่อยกระดับคุณภาพถนนหมายเลข 9 ให้เป็นเส้นทางขนส่งท่องเที่ยวได้ระดับมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น ทั้ง 3 ฝ่ายจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมผ่านแดน รวมทั้งค่าเบี้ยประกันภัย เพื่อปรับปรุงค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้เสมอภาคเท่าเทียมกันในโอกาสต่อไป
ที่สำคัญจะร่วมกันผลักดันให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลง GMS-CBTA เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งให้เป็นรูปธรรม และที่ประชุมตกลงว่าจะจัดประชุมระดับเจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์สามจังหวัด/แขวง ปีละ 1 ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนเป็นเจ้าภาพ ปี 2013 หรือ พ.ศ.2556 แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว รับเป็นเจ้าภาพ
ด้านนายมงคล ตันสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เส้นทางคมนาคมขนส่งที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ศึกษาร่วมกับหอการค้ากลุ่มจังหวัดสนุก ประกอบด้วย สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ที่ผ่านมานั้น หอการค้านครพนมเห็นชอบกับการเปิดใช้เส้นทางด่วนพิเศษมุกดาหาร-นครราชสีมา ที่เชื่อมต่อการเดินทางขนส่งท่องเที่ยวได้กว้างไกลจากกรุงเทพฯ ตรงสู่อีสาน-ลาว-เวียดนาม-จีนตอนใต้
โดยศักยภาพของกลุ่มจังหวัดสนุก มีประตูเชื่อมต่ออาเซียนทางทิศตะวันออกได้ถึง 2 แห่ง ประกอบด้วย สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต ตามแนวเส้นทาง R9 ใน สปป.ลาว หรือ สาย EWEC ทิศตะวันออกจากเมืองท่าดานัง ประเทศเวียดนาม ผ่านจังหวัดมุกดาหารออกทางทิศตะวันตกผ่านอำเภอแม่สอดไปเมืองเมาะละแหม่ง ประเทศพม่า
เส้นทางที่สอง คือ ผ่านจังหวัดนครพนม มีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน ผ่านเส้นทางหมายเลข R8 และ R12 ใน สปป.ลาว เป็นเส้นทางสายประวัติศาสตร์ที่ลุงโฮจิมินห์ ใช้เดินทางเคลื่อนไหวอยู่ที่จังหวัดนครพนม ยังเป็นเส้นทางเชื่อมสู่นครหลวงฮานอย ระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร สามารถเดินทางต่อไปสู่ประเทศจีนตอนใต้ ระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร นับว่าเป็นเส้นทางบกใกล้ที่สุดจากไทยสู่จีนสำหรับรถยนต์ขนส่งระหว่างประเทศเพียง 48 ชั่วโมง สินค้าจากจีน และไทยก็จะส่งถึงจุดหมายในเวลาสั้นที่สุด
ด้านนายธนโชติ โชติบุญยศักดิ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า การเปิดขยายเส้นทางด่วนพิเศษจากมุกดาหาร-โคราช ต่อยอดเส้นทางมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ประชากรในภูมิภาคนี้จะเดินทางสู่ศูนย์กลางของประเทศไทยได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้เส้นทางขนส่งท่องเที่ยวจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่เมืองหลวงของประเทศไทย สามารถเชื่อมต่อเส้นทางสายอาเซียนผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวมุกดาหาร และนครพนมทั้ง 2 แห่งได้สมบูรณ์ขึ้น
ส่งผลให้ประชาชนใน 10 จังหวัดภาคอีสานประมาณ 10 ล้านคน และประชากรจาก สปป.ลาว เวียดนาม จีน หลังการเปิดประตูสู่อาเซียนในปี 58 จะเพิ่มเข้ามาอีกมากกว่า 200 ล้านคน ทั้งรถยนต์บรรทุกขนส่ง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถทัวร์เพื่อการท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางสายนี้จะเพิ่มมากถึง 10 ล้านคัน เส้นทางสู่อินโดจีนในกลุ่มจังหวัดสนุกแห่งนี้ จะเป็นเส้นทางการค้าสายยุทธศาสตร์แห่งใหม่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเชื่อมสู่ภูมิภาคอาเซียนถึง 4 ประเทศ