กทม.ทดสอบความพร้อมก่อนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายตากสิน-เพชรเกษม จากสถานีวงเวียนใหญ่-สถานีโพธินิมิตร โดยจะเปิดให้ประชาชนรับคูปองร่วมทดลองฟรีตั้งแต่ 5 ธ.ค.เป็นต้นไป
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สถานีโพธินิมิตร (s9) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดการทดสอบความพร้อมก่อนเปิดให้บริการโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครส่วนต่อขยายสายสีลม (ตากสิน-เพชรเกษม) ช่วงสถานีวงเวียนใหญ่ถึงสถานีโพธินิตรเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟฟ้าจากฝั่งพระนคร สู่ฝั่งธนบุรี
นางนินนาท กล่าวว่า ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ถึงวันที่ 11 มกราคม 2556 กทม.ขอเชิญชวนประชาชนร่วมทดสอบความพร้อมระบบการให้บริการรถไฟฟ้าสถานีโพธินิมิตร (S9) โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมทดสอบระบบได้ทุกวันๆ ละ 500 คน ยกเว้นวันอาทิตย์ และในวันที่ 12 มกราคม 2556 จะเปิดให้บริการที่สถานีตลาดพลู (S10) ที่ทดสอบระบบมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ สาเหตุที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้กันทั้งสถานีโพธินิมิตร และตลาดพลู ตามกำหนดวันที่ 5 ธันวาคม เนื่องจากสถานีตลาดพลูยังต้องทดสอบระบบความปลอดภัยไปอีกสักระยะ ส่วนสถานีวุฒากาศ (S11) และสถานีบางหว้า (S12) ยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง เพราะต้องรอให้มีการก่อสร้างโครงสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก่อน
ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้จัดการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กล่าวว่า บีทีเอสได้เตรียมรถไฟฟ้าไว้สำหรับการทดสอบ 1 ขบวน โดยจะวิ่งจากสถานีวงเวียนใหญ่ (S8) มาที่สถานีโพธินิมิตร (S9) ซึ่งประชาชนที่สนใจร่วมทดสอบระบบสามารถลงทะเบียนพร้อมรับคูปองได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่จำกัดวันละ 500 คน โดยแบ่งการทดสอบเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ตั้งแต่เวลา 09.00-11.00 น.และเวลา 14.00-16.00 น.ทั้งนี้ คูปองดังกล่าวผู้โดยสารสามารถใช้ไปลงที่สถานีใดก็ได้ตามความต้องการ
ทั้งนี้ สถานีโพธินิมิตร (S9) ตั้งอยู่ริมถนนราชพฤกษ์ ใกล้ซอยวัดโพธินิมิตรสถิตมหาสีมาราม ซึ่งในสถานีจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย ลิฟต์คนพิการและคนชรา บันได บันไดเลื่อน หากเปิดให้บริการเต็มระบบจะสามารถรองรับผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 20,000 เที่ยวคนต่อวัน ที่เดินทางมาสิ้นสุดที่สถานีวงเวียนใหญ่ (S8) และหากต้องการเดินทางต่อไปยังสถานีโพธินิมิตร (S9) จะต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าอีกขบวนหนึ่งที่ชานชาลาฝั่งตรงข้าม ซึ่งการให้บริการในลักษณะนี้จะเป็นเพียงช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จะสามารถเดินทางต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ยังไม่สามารถเปิดบริการได้นั้นมาจากปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อยที่สถานี S10 ซึ่งกทม.ยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางกรมทางหลวงชนบทเจ้าของพื้นที่ให้เข้าทำการติดตั้งเครื่องมือในห้องควบคุมระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและประเมินก่อนว่าจะส่งผลกระทบต่อการให้บริการหรือสามารถเดินระบบรถไฟฟ้าได้หรือไม่-อย่างไร โดยเฉพาะระบบการสับรางของขบวนรถไฟฟ้าว่ามีผลหรือไม่และจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้างต่อไปด้วย ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นปัญหาด้านเทคนิคที่อยู่นอกเหนือการควบคุมแก้ไขของกทม. อีกทั้งที่ผ่านมาการดำเนินการต้องล่าช้าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกทม.ต้องรอให้รฟม.ซึ่งดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและมีแนวเส้นทางก่อสร้างตัดกันกับโครงการของกทม.นั้นออกแบบล่าช้ากว่ากทม. ทำให้ต้องเสียเวลารอทำไปพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกันพื้นที่ก่อสร้างยังถูกน้ำท่วมเป็นเวลากว่า 3 เดือนเต็มด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยแทบทั้งสิ้น
"เชื่อว่าทุกคนคงเข้าใจและไม่อยากให้เกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆ นานาเหล่านี้ขึ้น ผมคงต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนทุกท่านโดยเฉพาะที่อาจต้องผิดหวังกับการได้ใช้งานรถไฟฟ้าในช่วงสิ้นปีนี้ครบทั้ง 4 สถานีหรือสิ้นสุดปลายทางสายสีลมด้านฝั่งธนบุรี ซึ่งวันที่ 5 ธ.ค.นี้ กทม.จะสามารถเปิดให้ใช้ได้เพียงสถานีเดียวไปก่อนเท่านั้น จากนั้นคาดว่าประมาณกลางเดือนม.ค.ปีหน้าจึงจะสามารถเปิดให้บริการได้ครบทั้งหมด และกทม.จะประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สถานีโพธินิมิตร (s9) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดการทดสอบความพร้อมก่อนเปิดให้บริการโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครส่วนต่อขยายสายสีลม (ตากสิน-เพชรเกษม) ช่วงสถานีวงเวียนใหญ่ถึงสถานีโพธินิตรเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟฟ้าจากฝั่งพระนคร สู่ฝั่งธนบุรี
นางนินนาท กล่าวว่า ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ถึงวันที่ 11 มกราคม 2556 กทม.ขอเชิญชวนประชาชนร่วมทดสอบความพร้อมระบบการให้บริการรถไฟฟ้าสถานีโพธินิมิตร (S9) โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมทดสอบระบบได้ทุกวันๆ ละ 500 คน ยกเว้นวันอาทิตย์ และในวันที่ 12 มกราคม 2556 จะเปิดให้บริการที่สถานีตลาดพลู (S10) ที่ทดสอบระบบมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ สาเหตุที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้กันทั้งสถานีโพธินิมิตร และตลาดพลู ตามกำหนดวันที่ 5 ธันวาคม เนื่องจากสถานีตลาดพลูยังต้องทดสอบระบบความปลอดภัยไปอีกสักระยะ ส่วนสถานีวุฒากาศ (S11) และสถานีบางหว้า (S12) ยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง เพราะต้องรอให้มีการก่อสร้างโครงสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก่อน
ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้จัดการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส กล่าวว่า บีทีเอสได้เตรียมรถไฟฟ้าไว้สำหรับการทดสอบ 1 ขบวน โดยจะวิ่งจากสถานีวงเวียนใหญ่ (S8) มาที่สถานีโพธินิมิตร (S9) ซึ่งประชาชนที่สนใจร่วมทดสอบระบบสามารถลงทะเบียนพร้อมรับคูปองได้ที่สถานีวงเวียนใหญ่จำกัดวันละ 500 คน โดยแบ่งการทดสอบเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ตั้งแต่เวลา 09.00-11.00 น.และเวลา 14.00-16.00 น.ทั้งนี้ คูปองดังกล่าวผู้โดยสารสามารถใช้ไปลงที่สถานีใดก็ได้ตามความต้องการ
ทั้งนี้ สถานีโพธินิมิตร (S9) ตั้งอยู่ริมถนนราชพฤกษ์ ใกล้ซอยวัดโพธินิมิตรสถิตมหาสีมาราม ซึ่งในสถานีจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย ลิฟต์คนพิการและคนชรา บันได บันไดเลื่อน หากเปิดให้บริการเต็มระบบจะสามารถรองรับผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 20,000 เที่ยวคนต่อวัน ที่เดินทางมาสิ้นสุดที่สถานีวงเวียนใหญ่ (S8) และหากต้องการเดินทางต่อไปยังสถานีโพธินิมิตร (S9) จะต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าอีกขบวนหนึ่งที่ชานชาลาฝั่งตรงข้าม ซึ่งการให้บริการในลักษณะนี้จะเป็นเพียงช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จะสามารถเดินทางต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ยังไม่สามารถเปิดบริการได้นั้นมาจากปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อยที่สถานี S10 ซึ่งกทม.ยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางกรมทางหลวงชนบทเจ้าของพื้นที่ให้เข้าทำการติดตั้งเครื่องมือในห้องควบคุมระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและประเมินก่อนว่าจะส่งผลกระทบต่อการให้บริการหรือสามารถเดินระบบรถไฟฟ้าได้หรือไม่-อย่างไร โดยเฉพาะระบบการสับรางของขบวนรถไฟฟ้าว่ามีผลหรือไม่และจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้างต่อไปด้วย ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นปัญหาด้านเทคนิคที่อยู่นอกเหนือการควบคุมแก้ไขของกทม. อีกทั้งที่ผ่านมาการดำเนินการต้องล่าช้าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกทม.ต้องรอให้รฟม.ซึ่งดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและมีแนวเส้นทางก่อสร้างตัดกันกับโครงการของกทม.นั้นออกแบบล่าช้ากว่ากทม. ทำให้ต้องเสียเวลารอทำไปพร้อมๆ กัน ขณะเดียวกันพื้นที่ก่อสร้างยังถูกน้ำท่วมเป็นเวลากว่า 3 เดือนเต็มด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยแทบทั้งสิ้น
"เชื่อว่าทุกคนคงเข้าใจและไม่อยากให้เกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆ นานาเหล่านี้ขึ้น ผมคงต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนทุกท่านโดยเฉพาะที่อาจต้องผิดหวังกับการได้ใช้งานรถไฟฟ้าในช่วงสิ้นปีนี้ครบทั้ง 4 สถานีหรือสิ้นสุดปลายทางสายสีลมด้านฝั่งธนบุรี ซึ่งวันที่ 5 ธ.ค.นี้ กทม.จะสามารถเปิดให้ใช้ได้เพียงสถานีเดียวไปก่อนเท่านั้น จากนั้นคาดว่าประมาณกลางเดือนม.ค.ปีหน้าจึงจะสามารถเปิดให้บริการได้ครบทั้งหมด และกทม.จะประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว