สคร.9 พิษณุโลก ตรวจคัดกรองหาเชื้อเอชไอวี พบ ปชช.ทั่วไปเสี่ยงติดเชื้อมากกว่านักโทษ และหญิงบริการถึง 4.66 เท่า แนะประเมินความเสี่ยงด้วยการขอคำปรึกษาจากหน่วยบริการสาธารณสุขที่วางใจ
วันนี้ (30 พ.ย.) ภก.เชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก (สคร.9) กรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์ชันสูตรโรคของหน่วยงาน ที่ได้บริการตรวจคัดกรองเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวี และตรวจกรองโรคซิฟิลิส ปีงบประมาณ 2555 ให้กับหน่วยงาน 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มประชาชนทั่วไปที่ไปใช้บริการหน่วยงานสาธารณสุข ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โรงพยาบาล และศูนย์บริการและพัฒนาวิชาการ ของ สคร.9 พิษณุโลก 2.กลุ่มนักโทษและผู้ต้องขังในเรือนจำกลาง เรือนจำจังหวัด เรือนจำอำเภอ และทัณฑสถานหญิงจำนวน 10 แห่ง ในเขตพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และ 3.กลุ่มหญิงอาชีพพิเศษ รวมทุกกลุ่มตรวจทั้งหมดจำนวน 2,185 ราย พบผลเลือดบวกต่อเชื้อเอชไอวีทั้ง 3 กลุ่มรวมกันจำนวน 30 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.37 และพบโรคซิฟิลิส พบจำนวน 11 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.5
ภก.เชิดเกียรติ กล่าวอีกว่า หากจำแนกแต่ละกลุ่มจะพบข้อมูลที่ความเสี่ยงการติดเชื้อที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน คือ 1.กลุ่มประชาชนทั่วไปที่ไปใช้บริการหน่วยงานสาธารณสุข ตรวจทั้งหมดจำนวน 283 ราย พบผลเลือดบวกต่อเชื้อเอชไอวีจำนวน 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.24 แต่ไม่พบโรคซิฟิลิส 2.กลุ่มนักโทษและผู้ต้องขังเรือนจำและทัณฑสถานหญิง ตรวจทั้งหมดจำนวน 1,644 ราย พบผลเลือดบวกต่อเชื้อเอชไอวีจำนวน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.91 และพบโรคซิฟิลิสจำนวน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.54 และ 3.กลุ่มหญิงอาชีพพิเศษ ตรวจทั้งหมดจำนวน 258 ราย ผลเลือดบวกต่อเชื้อเอชไอวีจำนวน 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.16 และพบโรคซิฟิลิส จำนวน 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.77
“แสดงว่า กลุ่มประชาชนทั่วไปที่ไปใช้บริการหน่วยงานสาธารณสุขมีความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีมากที่สุด รองลงมาคือนักโทษและผู้ต้องขังเรือนจำและทัณฑสถานหญิง และลำดับสุดท้ายคือหญิงอาชีพพิเศษ โดยกลุ่มประชาชนทั่วไปติดเชื้อเอชไอวีสูงมากกว่านักโทษและผู้ต้องขังถึง 4.66 เท่า จึงแนะนำว่าประชาชนควรประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีด้วยการขอคำปรึกษาจากหน่วยบริการสาธารณสุขที่ไว้วางใจ และตรวจเลือดโดยสมัครใจ” ภก.เชิดเกียรติ กล่าว
ทั้งนี้ ในวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปีได้กำหนดให้เป็นวันเอดส์โลก โดยในปี 2555 นี้โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ กำหนดกรอบในการรณรงค์ ว่า “Getting to Zero” หรือ “เอดส์ลดให้เหลือศูนย์ได้” ได้แก่ การไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ไม่มีการตายเนื่องจากเอดส์ และไม่มีการตีตราและเลือกปฏิบัติ โดย สธ. ร่วมกับสภากาชาดไทย และองค์กรเอกชน จัดหน่วยบริการปรึกษาและตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีฟรี ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน -1 ธันวาคมนี้ที่ห้างสรรพสินค้า 5 แห่ง คือ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน บางกะปิ บางแค และที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาพระราม 2 และพระราม 3 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.ฟรี สามารถรู้ผลตรวจได้ภายใน 1 ชั่วโมง