สภา กทม.ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม สร้างอุโมงค์บางซื่อ ปรับปรุงถนนคุ้มเกล้า
วันนี้ (14 พ. ย.) ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมโดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้เสนอญัตติขอความเห็นชอบให้ กทม.จ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานคร จำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อบริหารจัดการตามภารกิจด้านการระบายน้ำโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ จากคลองลาดพร้าว ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ด้าน การโยธา โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนคุ้มเกล้า เขตมีนบุรี และ เขตลาดกระบัง ซึ่งไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 หรือได้รับการจัดสรรไว้ไม่เพียงพอ และรายการที่ไม่ได้ตั้งงบประมาณประจำปี แต่เป็นภารกิจที่รัฐบาลได้กระจายอำนาจให้กทม.เช่น ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภารกิจ และหรือนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อเบิกจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรด้านการศึกษาที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม.จำเป็นจะต้องจัดสรรงบประมาณให้ข้าราชการครู กทม.เพราะรัฐบาลไม่ได้จัดสรรไว้ รวมถึงถนนคุ้มเกล้า มีประชาชนจำนวนมากใช้เส้นทางดังกล่าว ต้องมีการปรับปรุงเร่งด่วน เนื่องจากถนนชำรุดและประสบปัญหาน้ำท่วม รวมถึงถนนคุ้มเกล้า ยังใช้เป็นเส้นทางทางไปยังท่าอากาศสุวรรณภูมิได้ นอกจากนี้ ถนนคุ้มเกล้าพบว่า มีอาชญากรรมค่อนข้างมาก หากปรับปรุงถนน ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง จะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่า จะแล้วเสร็จปี 2557 ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในญัตติดังกล่าว
จากนั้นที่ประชุมโดยนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ได้เสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 (ฉบับที่…) ด้วยกรุงเทพมหานครมีความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านต่างๆ เช่น ด้านการศึกษา ด้านการระบายน้ำ ด้านการป้องกันบรรเทาและสาธารณภัย เป็นภารกิจเร่งด่วนระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2556 โดยเฉพาะภารกิจที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมิได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 หรือได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ พร้อมกันนี้ในที่ประชุมได้มีมติรับหลักการ และตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 จำนวน 21 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 10 วัน
วันนี้ (14 พ. ย.) ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมโดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้เสนอญัตติขอความเห็นชอบให้ กทม.จ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานคร จำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อบริหารจัดการตามภารกิจด้านการระบายน้ำโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ จากคลองลาดพร้าว ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ด้าน การโยธา โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนคุ้มเกล้า เขตมีนบุรี และ เขตลาดกระบัง ซึ่งไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 หรือได้รับการจัดสรรไว้ไม่เพียงพอ และรายการที่ไม่ได้ตั้งงบประมาณประจำปี แต่เป็นภารกิจที่รัฐบาลได้กระจายอำนาจให้กทม.เช่น ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภารกิจ และหรือนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อเบิกจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากรด้านการศึกษาที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม.จำเป็นจะต้องจัดสรรงบประมาณให้ข้าราชการครู กทม.เพราะรัฐบาลไม่ได้จัดสรรไว้ รวมถึงถนนคุ้มเกล้า มีประชาชนจำนวนมากใช้เส้นทางดังกล่าว ต้องมีการปรับปรุงเร่งด่วน เนื่องจากถนนชำรุดและประสบปัญหาน้ำท่วม รวมถึงถนนคุ้มเกล้า ยังใช้เป็นเส้นทางทางไปยังท่าอากาศสุวรรณภูมิได้ นอกจากนี้ ถนนคุ้มเกล้าพบว่า มีอาชญากรรมค่อนข้างมาก หากปรับปรุงถนน ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง จะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่า จะแล้วเสร็จปี 2557 ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในญัตติดังกล่าว
จากนั้นที่ประชุมโดยนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ได้เสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 (ฉบับที่…) ด้วยกรุงเทพมหานครมีความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านต่างๆ เช่น ด้านการศึกษา ด้านการระบายน้ำ ด้านการป้องกันบรรเทาและสาธารณภัย เป็นภารกิจเร่งด่วนระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2556 โดยเฉพาะภารกิจที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมิได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 หรือได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ พร้อมกันนี้ในที่ประชุมได้มีมติรับหลักการ และตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 จำนวน 21 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 10 วัน
