แพทย์ชี้ เด็กต่ำกว่า 8 ขวบ ยังแยกละครกับความจริงไม่ได้ เมื่อเห็นฉากผูกคอตาย แต่ดารายังมีชีวิต จึงรู้สึกอยากเลียนแบบ แนะหลีกเลี่ยงทำรายการหรือละครสุ่มเสี่ยง จี้ รบ.ต้องมีนโยบายแก้ไข ส่วนเด็ก 8 ขวบอาการยังทรง
ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีเด็กหญิงวัย 8 ปีที่เล่นเลียนแบบฉากผูกคอตายในละครและรายการทีวี ว่า การดูในลักษณะซ้ำๆ มีผลต่อการเลียนแบบ ยิ่งในเด็กวัยต่ำกว่า 8 ปี ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนคือ เรื่องจริง สิ่งไหน คือจินตนาการ เหมือนละครที่เด็กๆ ไม่มีทางแยกได้ว่าละครเป็นเรื่องสมมติ อย่างการตายของตัวละครหนึ่ง แต่พอชีวิตจริงพวกเขาไม่ตาย เด็กๆ จะรู้สึกอยากเลียนแบบ ประกอบกับความต้องการอยากรู้อยากลอง จึงทดลองเล่น สำหรับเด็กหญิงรายดังกล่าวที่เกิดอุบัติเหตุจนถูกแขวนคอนานกว่า 10 นาที อาการล่าสุดจากการสอบถาม พบว่า แม้จะออกจากห้องไอ.ซี.ยู.แล้ว สามารถขยับแขนขาได้บ้าง แต่ยังไม่ได้ฟื้นอย่างเต็มที่ แพทย์ยังวินิจฉัยไม่ได้ว่า สุดท้ายเด็กจะกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมหรือไม่ หรือสมองจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม เรื่องอาการไม่อยากให้สอบถามกันมากนัก เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของครอบครัว และยังถือเป็นความลับทางการแพทย์ด้วย
ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ละครไทยมักมีแต่ฉากตบตี ทะเลาะเบาะแว้ง แฝงความรุนแรงตลอด แม้จะมีการจัดเรตติ้ง แต่หากหันมาหลีกเลี่ยงการนำเสนอรูปแบบนี้ ไม่คิดเพียงเรตติ้งของผู้ชมอย่างเดียวน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ รวมไปถึงสปอนเซอร์รายการหรือละครต่างๆ หากพบว่ามีการจัดทำรูปแบบรายการที่สุ่มเสี่ยงก็ไม่ควรสนับสนุน อย่างต่างประเทศ ปัจจุบันก็มีความรับผิดชอบในแง่นี้มากขึ้น รัฐบาลไทยควรมีนโยบายหรือดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะปัญหาการเลียนแบบสื่อมีมานาน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย
ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีเด็กหญิงวัย 8 ปีที่เล่นเลียนแบบฉากผูกคอตายในละครและรายการทีวี ว่า การดูในลักษณะซ้ำๆ มีผลต่อการเลียนแบบ ยิ่งในเด็กวัยต่ำกว่า 8 ปี ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนคือ เรื่องจริง สิ่งไหน คือจินตนาการ เหมือนละครที่เด็กๆ ไม่มีทางแยกได้ว่าละครเป็นเรื่องสมมติ อย่างการตายของตัวละครหนึ่ง แต่พอชีวิตจริงพวกเขาไม่ตาย เด็กๆ จะรู้สึกอยากเลียนแบบ ประกอบกับความต้องการอยากรู้อยากลอง จึงทดลองเล่น สำหรับเด็กหญิงรายดังกล่าวที่เกิดอุบัติเหตุจนถูกแขวนคอนานกว่า 10 นาที อาการล่าสุดจากการสอบถาม พบว่า แม้จะออกจากห้องไอ.ซี.ยู.แล้ว สามารถขยับแขนขาได้บ้าง แต่ยังไม่ได้ฟื้นอย่างเต็มที่ แพทย์ยังวินิจฉัยไม่ได้ว่า สุดท้ายเด็กจะกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมหรือไม่ หรือสมองจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม เรื่องอาการไม่อยากให้สอบถามกันมากนัก เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของครอบครัว และยังถือเป็นความลับทางการแพทย์ด้วย
ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ละครไทยมักมีแต่ฉากตบตี ทะเลาะเบาะแว้ง แฝงความรุนแรงตลอด แม้จะมีการจัดเรตติ้ง แต่หากหันมาหลีกเลี่ยงการนำเสนอรูปแบบนี้ ไม่คิดเพียงเรตติ้งของผู้ชมอย่างเดียวน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ รวมไปถึงสปอนเซอร์รายการหรือละครต่างๆ หากพบว่ามีการจัดทำรูปแบบรายการที่สุ่มเสี่ยงก็ไม่ควรสนับสนุน อย่างต่างประเทศ ปัจจุบันก็มีความรับผิดชอบในแง่นี้มากขึ้น รัฐบาลไทยควรมีนโยบายหรือดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะปัญหาการเลียนแบบสื่อมีมานาน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย