สลด! ชาวนาสุรินทร์คว้าเชือกล่ามวัวผูกคอตาย เครียดภัยแล้ง-หนี้ท่วม

สุรินทร์ - สลด! ชีวิตชาวนาสุรินทร์ประสบปัญหาภัยแล้ง ผวาขายข้าวไม่พอใช้หนี้ เครียดหนักใช้เชือกล่ามวัวผูกคอตายลาโลกใต้ต้นสะเดากลางทุ่งนาที่ต้นข้าวกำลังออกรวง เผยผู้ตายเป็นคนดี ก่อนก่อเหตุบ่นน้อยใจไม่รู้จะนำเงินที่ไหนมาใช้หนี้ให้กับสหกรณ์การเกษตรที่กู้ยืมมา 1 แสนบาท

วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทินกร เดชาเลิศ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนผูกคอตายที่บริเวณทุ่งนาบ้านหัวแรต หมู่ที่ 9 ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศีขรภูมิ และหน่วยวีอาร์กู้ชีพศีขรภูมิ พบร่างนายภาพ สมานทอง อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 104 บ้านหัวแรต หมู่ที่ 9 ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง สภาพศพไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ข้างศพพบเชือกไนลอนสีแดงห้อยอยู่และร่างของผู้ตายอยู่ในท่านอนขาพับได้ บริเวณใต้ต้นสะเดากลางทุ่งนาที่ต้นข้าวกำลังออกรวง

จากการสอบถามนางสนม สมานทอง ภรรยาผู้ตายให้การว่า ก่อนสามีจะมาผูกคอตายนั้นที่ผ่านมาตนและครอบครัวได้ไปทำการกู้เงินกับสหกรณ์การเกษตรมาจำนวน 1 แสนบาท เพื่อนำมาทำบุญให้ลูกสาวที่เสียชีวิตไปได้ไม่นาน และคิดว่าปีนี้ฝนฟ้าดีก็จะไปซื้อเจดีย์เก็บอัฐิมาบรรจุกระดูกลูกสาวที่เสียชีวิตไป แต่ปรากฏว่าฟ้าฝนไม่อำนวย ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานทำให้ข้าวในนาที่ปลูกไว้ออกรวงน้อย เม็ดลีบ ให้ผลผลิตไม่เต็มที่ สามีจึงบ่นน้อยใจก่อนหลบมาอยู่ใกล้กระท่อมกลางทุ่งนา และนำเชือกล่ามวัวมาผูกคอกับต้นไม้เสียชีวิตดังกล่าว

ด้านลูกชายของผู้ตายบอกกว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ พ่อยังมาช่วยเกี่ยวหญ้าไปเลี้ยงวัว และได้พูดคุยกันหลายเรื่อง พอพ่อเกี่ยวหญ้าเสร็จตนก็ไปซื้อของและซื้อกล้วยแขก จะเอามาให้พ่อกิน แต่เมื่อมาเรียกหาพ่อที่กระท่อมไม่เจอ ส่วนแม่ก็ช่วยกันเดินหาพ่อจนกระทั่งแม่พบศพพ่อผูกคอตายอยู่ใต้ไม้ข้างนาข้าวที่กำลังออกรวง รู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าพ่อจะมาผูกคอตายไปอย่างนี้

จากการสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันบอกว่า นายภาพเป็นคนดีไม่เคยไปมีเรื่องราวอะไรกับใคร เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2-3 วันเห็นนายภาพมีสีหน้าที่เศร้าหมองและมักบ่นอยู่คนเดียวว่าไม่รู้จะนำเงินที่ไหนมาใช้หนี้ให้กับสหกรณ์การเกษตร แต่ไม่คิดว่านายภาพจะคิดสั้นผูกคอตายเช่นนี้ ทำให้เพื่อนบ้านที่ได้ทราบข่าวต่างเสียใจและมาร่วมมุงดูร่างไร้วิญญาณของนายภาพ เป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปีนี้ จ.สุรินทร์ประสบภัยแล้งฝนทิ้งเป็นเวลานานในหลายพื้นที่อำเภอ ส่งผลนาข้าวหอมมะลิที่กำลังออกรวงมีเมล็ดลีบและให้ผลผลิตไม่เต็มที่ทำให้ชาวนาต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้คงต้องลำบากมากเพราะทำนาได้ผลผลิตน้อย ไม่มีเงินเพียงพอไปใช้หนี้สินทั้งในและนอกระบบที่กู้ยืมเขามาลงทุน โดยเฉพาะหนี้สินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมทั้งหนี้เงินกู้จากสหกรณ์การเกษตร