“เสริมศักดิ์” ควง “ระเบียบรัตน์” เข้า ศธ.วันแรก เผยรอมอบนโยบายพร้อม “พงศ์เทพ” วันที่ 5 พ.ย.นี้ ตั้งเป้าส่งเสริมการเรียนรู้คู่คุณธรรมเป็นงานแรก และมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนรากหญ้า ด้าน “เจ๊เบียบ” เสนอไอเดียส่วนตัว ให้ทุกวันพุธ เป็นวันที่ทำกิจกรรมทางศาสนา เช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆ พร้อมสร้างสีสันแจก “ข้าวต้มมัดเมียหลวง” ให้ผู้มาร่วมแสดงความยินดี แถมบอกให้เมียน้อยกินขอให้ติดคอ
วันนี้ (2 พ.ย) ผู้สื่อข่าวรายว่า เมื่อเวลา 07.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เดินทางเข้า ศธ.วันแรก โดยได้เดินทางมาพร้อม นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ภรรยาและบุตรชาย ซึ่งทันทีที่มาถึง นายเสริมศักดิ์ ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ห้องทำงานของ รมช.ศึกษาธิการ ก่อนจะลงมาสักการะพระพุทธบารมีศักดิ์สิทธิ์ สยามิศรจักรี สัฎฐีอนุสรณ์ ศึกษาทรรังสรรค์ พระพุทธรูปประจำ ศธ. ศาลพระภูมิเจ้าที่ และพระบรมอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 โดยมีนายอภิชาตจีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กอ.) นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) พร้อมด้วยข้าราชการ ให้การต้อนรับ
โดย นายเสริมศักดิ์ กล่าวภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า วันนี้ตนเดินทางมาเป็นการส่วนตัว ยังไม่มีการมอบนโยบายใด โดยจะมอบนโยบายพร้อมกับ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งจะเดินทางเข้า ศธ.ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วภายหลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้มาดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ก็รู้สึกปลื้มใจ และยินดีมาก เพราะ ศธ.เป็นกระทรวงใหญ่ มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากที่ต้องรับผิดชอบประชาชนจำนวนมาก ถือเป็นไม้ผลัดแรกของการพัฒนาคนและเป็นหัวใจสำคัญที่จะพัฒนาบ้านเมืองต่อไป อย่างไรก็ตาม การที่ตนเคยอยู่กระทรวงมหาดไทย (มท.) มาก่อนจึงมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประชาชนเรื่องการพัฒนาคนมาพอสมควรมาอยู่ตรงนี้ก็จะต่อยอดงานการดูแลและพัฒนาประชาชนที่ส่วนใหญ่เป็นคนรากหญ้า ซึ่งงานนี้เป็นงานที่ท้าทาย และคิดว่า จะทำให้ตนมีความรู้ที่หลากหลาย โดยจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ให้สุดกำลังความสามารถ
“ส่วนเรื่องแบ่งงานยังไม่ได้หารือกับนายพงศ์เทพ คงต้องรอฟังนโยบายจาก รมว.ศึกษาธิการ อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าตนจะได้รับผิดชอบหน่วยงานไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่จะทำคือต้องผลิตคนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนงานที่สนใจ และจะทำอย่างแรก คือ พัฒนาให้เกิดการเรียนรู้คู่คุณธรรม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกหน่วยงานจะต้องช่วยกันพัฒนาส่งเสริมให้เกิดขึ้นทั้งในเด็กและครู เพื่อจะได้ทั้งคนดีและคนเก่ง คู่กันไป ขณะเดียวกันจะเน้นส่งเสริมเกี่ยวเด็กและเยาวชนเป็นพิเศษ เพราะเด็กและเยาวชนเป็นหัวใจของชาติถ้าได้รับการปลูกฝังที่ดี ก็จะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ที่รับผิดชอบและช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศต่อไป” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดึง นางระเบียบรัตน์ เข้ามาช่วยงานด้านสังคมด้วยหรือไม่ นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า เขาก็คงมาช่วยบางเรื่องที่สนใจเพราะเขาก็มีความรู้ความสามารถ เคยทำงานด้านนี้มาก่อน แต่ก็ต้องดูว่างานที่เขาทำมาแล้ว อาทิ เรื่องสามคมเสริมสร้างครอบครัวอบอุ่น และเป็นสุข ว่าจะเชื่อมโยงกับหน่วยงานใดได้บ้าง
ด้าน นางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า ตนคงช่วยเป็นกำลังใจในการทำงาน แต่ถ้ามีอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ก็คงมาคุยกัน เพราะ ศธ.เป็นกระทรวงที่สร้างคน ดังนั้น จึงคิดว่าจะต้องเน้นสร้างคนที่มีคุณธรรม รวมถึงสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ได้รับความยุติธรรม มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ให้ความเสมอภาค ส่งเสริมการเป็นครอบครัวชาวเสมา เพราะถ้าบุคลากรไม่มีขวัญกำลังใจก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยและเสนอกับนายเสริมศักดิ์ในเบื้องต้น ว่า อยากให้ทุกวันพุธ เป็นวันของพระพุทธศาสนา เด็กได้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา อาทิ เข้าวัดทำบุญ นั่งสมาธิ สวดมนต์ รวมถึงทำประโยชน์ให้สังคม เป็นต้น เพราะศาสนาอื่นๆ เช่น ศาสนาคริสต์ อิสลาม ก็จะมีหนึ่งวันเป็นวันที่ต้องประกอบกิจกรรมตามศาสนาแต่ของเราไม่มี โดยอยากให้ทุกวันพุธ นอกจากนี้ จะเสนอให้เพิ่มการสอนเรื่องเพศศึกษาในหลักสูตรให้มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เฉพาะการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่หมายถึงความเปลี่ยนแปลงทางสรีระของเด็กๆ รวมถึงการวางตัว การรักนวลสงวนตัว การประพฤติปฏิบัติตนของผู้ชายและผู้หญิงที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อเสนอของตนเองส่วน ศธ.จะรับหรือไม่รับก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้เกี่ยวข้อง เพราะตนคงไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายงานของ รมว.ศึกษาธิการ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศด้วยว่า วันนี้มีผู้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสเข้าทำงานและรับตำแหน่งของ นายเสริมศักดิ์ จำนวนมาก นอกจากผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ ศธ.และเจ้าหน้าที่แล้ว ส่วนใหญ่ยังเดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่น และในโอกาสนี้ นางระเบียบรัตน์ ได้นำข้าวต้มมัดมาแจกให้แก่ผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดีทุกคนได้รับประทาน โดย นางระเบียบรัตน์ บอกว่า การมอบ “ข้าวต้มมัด” นั้นทำมานานแล้ว และมีความหมายถึงการแสดงถึงการรักกัน คู่กัน และความสามัคคีกัน พร้อมทั้งยังได้บอกแก่ผู้เข้าร่วมประชุมด้วยว่า “ข้าวต้มมัด” นี้เป็น “ข้าวต้มมัดเมียหลวง” ให้เมียหลวงทานเท่านั้น ให้เมียน้อยทานได้แต่ขอให้ติดคอ ซึ่งได้เรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดีทุกคน